ลูกสาวเอะใจ พ่อออกจากบ้าน "เวลาเดิม" เปื้อนโคลนกลับมาทุกวัน แอบตามไปดูร้องไห้โฮ
ลูกสาวเอะใจ หลังแม่ตาย พ่อออกไปข้างนอก “เวลาเดิม” เปื้อนโคลนกลับมาทุกวัน แอบตามไปดูน้ำตาไหลพราก
เว็บไซต์ soha รายงานเรื่องราวของหญิงสาวต่างชาติคนหนึ่ง ที่ย้ายจากบ้านของพ่อแม่ มาอาศัยอยู่ในเมืองนานถึง 15 ปีแล้วเมื่อตอนที่เพิ่งคลอดลูกคนเล็ก เธอเคยคิดที่จะกลับไปบ้านเกิดเพื่ออยู่กับพ่อแม่ เพราะเห็นว่าการที่ไม่มีลูกอยู่ข้างๆ เมื่อแก่ตัวเป็นเรื่องที่น่าสงสารมาก แต่สามีของเธอปฏิเสธควาทคิดนั้น เพราะงานของเขา และการศึกษาของลูกชายคนโต บ้าน
เมื่อเธอนำเรื่องนี้ไปปรึกษาแม่ ท่านก็แนะนำว่าภรรยาควรอยู่เคียงข้างสามี พร้อมบอกว่า "พ่อแม่อาศัยอยู่ในชนบท จะไปที่ไหนก็ไม่อยากเป็นภาระให้ลูก เป็นการดีที่พ่อแม่จะพึ่งพาอาศัยกันและกระซิบเบาๆ ในวัยชรา ตราบเท่าที่ ลูกมีความสุข พ่อแม่ก็พอใจแล้ว” เมื่อฟังคำแนะนำนี่เธอจึงกลับเข้าเมืองพร้อมกับสามี ตั้งแต่นั้นมาฉันและสามีจะกลับบ้านเพียงไม่กี่วันในช่วงปีใหม่ทางจันทรคติ และส่วนใหญ่เราจะโทรวิดีโอคอลเพื่อคุยกับพ่อแม่แทน
กระทั่งเมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้ พ่อโทรมาแจ้งข่าวว่า “แม่ป่วยหนัก” เข้าโรงพยาบาลในห้องฉุกเฉิน ในตอนนั้นรู้ได้เลยว่าพ่อคงตัวสั่นมาก เพราะไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์นี้ ดังนั้นเธอจึงรีบโทรหาเพื่อนสนิทที่บ้านเกิด ขอให้มาช่วยอยู่กับพ่อ และจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แม่ล่วงหน้า ในขณะเดียวกันก็รีบจองตั๋วเครื่องบินกลับไปบ้านเกิดทันที แต่สุดท้ายเธอก็อยู่กับแม่เพียง 2 วัน ช่วงเวลาที่สูญเสียคนสำคัญในชีวิตไปนั้นน่ากลัวมาก มันทำให้เจ็บปวด เศร้าหมอง และโทษตัวเองที่ให้ความสำคัญกับชีวิตมากเกินไปจนลืมแม่ชราในชนบท
ชีวิตประจำวันของพ่อ หลังคู่ชีวิตจากไป
หลังจากจัดงานศพแม่แล้ว เธอขอลางานโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนเป็นเวลาหนึ่งปี เพื่อไปอยู่ในชนบทและดูแลพ่อ การสูญเสียครั้งใหญ่ทำให้สุขภาพทรุดโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด ทุกคืนพ่อจะปูเสื่อแล้วนอนหน้าแท่นบูชาเพื่อมองดูรูปของแม่ แล้วก็พึมพำคำที่เธอได้ยืนไม่ชัดว่า แต่คิดว่าน่าจะเป็น “ฉันคิดถึง อยากเจอ อยากตามเธอไป” ซึ่งคำพูดเหล่านี้ทำให้เธอตื่นตระหนกเมื่อคิดถึงการสูญเสียคนที่รักไปอีกคน
ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เธอเห็นพ่อปั่นจักรยาน ที่ไหนสักแห่ง ในช่วงบ่ายแก่ๆ และกลับมาตอน 19.00 น. หรือบางครั้งอาจช้ากว่านั้น เมื่อเธอถามว่าจะไปไหน ก็บอกเพียงว่าจะไปหาเพื่อนเก่าเพื่อคลายความเศร้า ตอนแรกเธอคิดว่าจะปล่อยไปเพื่อให้พ่ออารมณ์ดีขึ้น แต่แล้วกลับพบว่าเรื่องนี้มันแปลกมากๆ เพราะทุกครั้งที่กลับบ้านรองเท้าของพ่อเต็มไปด้วยโคลน ต้องล้างที่ก๊อกน้ำหน้าประตูเป็นเวลานาน ก่อนจะเข้าบ้านเพื่อทานอาหาร
บ่ายวันหนึ่งเธอจึงเธอจึงนัดแนะกับเพื่อนสนิท เพื่อแอบตามพ่อออกไปจากบ้าน แน่นอนว่าเวลา 17.00 น. พ่อก็ปั่นจักรยานออกไปอีกครั้ง ในขณะที่เธอและเพื่อนขับรถตามไปสักพักก็พอเดาที่หมายได้โดยปริยายเช่นกัน ปรากฎว่าพ่อปั่นจักรยานไป “สุสาน” เพื่อเยี่ยมแม่ทุกวัน
เธอนึกย้อนไปตอนจะฝังศพแม่ พ่อบอกให้เลือกทำเลสวยๆ เข้ามาง่าย มองเห็นได้ง่ายจากถนน เพราะแม่กลัวการอยู่คนเดียว เมื่อเห็นพ่อมาที่หลุมศพแม่ จุดธูป ทำความสะอาดหลุมศพ แล้วนั่งมึนงงอยู่อย่างนั้น เนื่องจากเป็นเวลาหลายปีที่พ่อแม่ใช้ชีวิตโดยถือว่ากันและกันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ตอนนี้แม่จากไปแล้ว แต่พ่อยังคงมาอยู่เคียงข้างจนถึงค่ำ
ภาพที่เห็นทำให้ดวงใจของคนเป็นลูกก็ปวดร้าว เธอร้องไห้อย่างใจสลาย อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโทษตัวเอง พร้อมทั้งตั้งคำถามว่าควรทำอย่างไรเพื่อช่วยพ่อเอาชนะความเจ็บปวดนี้?
- สาวเอะใจ แต่งงาน 4 ปี สามีออกไป "วิ่ง" ไม่ขาด สืบจนรู้วิ่งไปบ้านใคร ฟ้องหย่าทันที!
- ผัวเป็นห่วง ดึกๆ เมียชอบออกไป "จ๊อกกิ้ง" คนเดียว ตามสืบจนรู้วิ่งไปไหน ฟ้องหย่าทันที!