อ.ไพบูลย์ ชี้ไทยวิกฤติเรื่อง ความดี

"ไพบูลย์" ยอมรับประเทศไทยวิกฤติเรื่อง "ความดี" แนะทุกภาคส่วนยึดหลักความดี ในการทำหน้าที่ โดยเฉพาะฝ่ายการเมือง ยืนยันยังไม่ได้รับการทาบทามให้เข้าเป็นกรรมการชุดใดในแผนปรองดองแห่งชาติ

นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม กล่าวในเวทีผนึกกำลังเครือข่ายทุกภาคส่วนระดมความคิดประเด็น "การฟื้นฟูและขับเคลื่อนประเทศไทย ด้วยคุณธรรมความดี " โดยระบุว่า ในกระบวนการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี อันประกอบด้วย กระบวนการ ทัศนคติ และสาระ สำหรับปัญหาความขัดแย้งในประเทศไทย แม้จะมีหลายกลุ่มพยายามช่วยกันแก้ไข แต่ล้วนยังมีปัญหา คือ ขาดกระบวนการ และทัศนคติที่ดี ถกเถียงกันแต่เรื่องของสาระ โดยปัญหา คือ ขาดเรื่องความดี มีแต่การต่อสู้ ช่วงชิง จึงยังไม่สามารถมองเห็นทางออกได้ หากทุกภาคส่วนใช้ความดีเป็นแนวทางปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นเวทีใดก็ตาม เชื่อว่าจะช่วยให้ประเทศหาทางออกได้ โดยการทำความดี คือ การสุจริต ซื่อสัตย์ จริงใจ เป็นมิตร เมตตา อดทน ถ้อยทีถ้อยอาศัย เป็นต้น หากสามารถทำได้หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา และที่สำคัญคือภาคการเมือง หากภาคการเมืองทำงานโดยยึดหลักความดี ก็จะเป็นทางออกของประเทศได้ รวมทั้งการทำงานของแผนปรองดองแห่งชาติด้วย

ทั้งนี้ ในการระดมความเห็นช่วงบ่ายวันนี้ ประกอบด้วยผู้ร่วมแสดงความเห็นหลายกลุ่ม มีทั้งจากภาคการเมือง ประชาชน สื่อมวลชน องค์กรเอกชน เช่น พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ สมาชิกวุฒิสภา นายบุญยอด สุขถิ่นไทย พรรคประชาธิปัตย์ นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง จากพรรคเพื่อไทย นายสุริยะใส กตะศิลา จากพรรคการเมืองใหม่ และ นายรณพงศ์ คำนวณทิพย์ ผู้แทนกลุ่มทวิตเตอร์ฟอร์ไทยแลนด์ เป็นต้น โดยมีนายไพบูลย์ เป็นประธานที่ประชุม พร้อมกล่าวว่า การระดมความเห็นวันนี้ มีผู้แทนมาจากหลากหลายกลุ่ม แม้จะเป็นกลุ่มเล็ก ๆ แต่เป็นโอกาสให้ข้อเสนอการใช้ความดีในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองถูกนำไปเผยแพร่ ยังกลุ่มเหล่านั้นต่อไป

ทั้งนี้ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการทาบทามให้เข้าเป็นกรรมการหรือร่วมงานกับชุดใด ๆ ในแผนปรองดองแห่งชาติ แต่ในฐานะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิง คุณธรรม ทำให้ ได้มีโอกาสเข้าไปทำงานและเป็นกรรมการในหลายเวที จึงมีข้อเสนอให้รัฐสภาควรทำหน้าที่แก้ไขปัญหาของชาติ โดยตั้งคณะกรรมาธิการร่วม ส.ส. ส.ว.มาขับเคลื่อนประเทศ ด้วยการทำงานตรวจสอบ ถ่วงดุลการทำงานของฝ่ายบริหาร และติดตามการทำงานของคณะทำงานต่าง ๆ ของรัฐบาล แทนที่จะมาต่อว่ากัน แต่ไม่ทำอะไรเลย ให้ทำในสิ่งที่สร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์