อ.เจษฎ์ ตอบแล้ว "ผ้าผสมยาสลบ" พันกระจกข้างรถ กลมิจฉาชีพปลดทรัพย์ ทำได้จริงหรือ?

พล.ต.ท.เรวัช เตือนกลมิจฉาชีพ "ผ้าผสมยาสลบ" พันกระจกข้างรถ มุ่งปลดทรัพย์คนขับรถคนเดียว อ.เจษฎ์ ตอบแล้ว ทำได้จริงหรือ?

จากกรณีที่หลายคนเกิดความวิตกกังวล หลังจากมีการแชร์ข่าว พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เตือนภัยแก๊งมิจฉาชีพยุคใหม่ ใช้ผ้าผสมยาสลบนำมาพันที่กระจกข้างรถยนต์ เมื่อเราหยิบออกมาก็จะหายใจเอายาสลบเข้าไป แล้วจึงอาศัยจังหวะนี้เข้าชิงทรัพย์เหยื่อ มุ่งเป้าคนที่ผู้หญิงหรือคนที่ขับรถคนเดียว

ล่าสุด ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าว ผ่านทางเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant เรื่องนี้ อาจจะฟังดูน่ากังวลสำหรับประชาชนทั่วไป แต่สำหรับผม จะรู้สึกแปลกใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือ? เพราะมันคล้ายกับพวกข่าวลือข่าวปลอม ฟอร์เวิร์ดเมล์มั่ว ที่มีกันมานานเป็นสิบๆ ปีแล้ว เกี่ยวกับการตบทรัพย์ "พ่นสเปรย์คลอโรฟอร์ม ยาสลบตบทรัพย์" หรือ "นามบัตรเคลือบยาสลบ" ซึ่งก็ไม่เป็นเรื่องจริงแต่อย่างไร!

ถ้า "สเปรย์ยาสลบ" นั้นเป็น "สารคลอโรฟอร์ม chloroform" ดังที่เคยมีการแชร์กัน ว่าเป็นยาทำให้สลบ มึนงง แล้วปลดทรัพย์หรือทำอันตรายนั้น เคยมีข้อมูลจากทางด้านของ ราชวิทยาลัยวิสัญญีแพทย์แห่งประเทศไทย (ผ่านรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย) ว่าถึงแม้คลอโรฟอร์ม (TCM หรือ ไตรคลอโรมีเทน หรือ เมทิลไตรคลอไรด์) จะเคยเป็นสารที่เคยใช้เป็นยาสลบในวงการแพทย์กันจริงๆ เมื่อ 100 กว่าปีแล้ว แต่ปัจจุบันวิสัญญีแพทย์ได้เลิกใช้ไปแล้ว เพราะต้องใช้ความเข้มข้นสูง ดมเป็นเวลานาน มีกลิ่นที่ไม่น่าดม และมีผลกระทบเชิงลบสูง ปัจจุบันสารคลอโรฟอร์มยังเป็นสารควบคุม ไม่ได้มีจำหน่ายทั่วไป มีใช้กับในวงการอุตสาหกรรม ซึ่งผู้ใดที่ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจมีโทษจำคุกได้ถึง 10 ปีได้

• อ.เจษฎ์ โพสต์แล้ว ข่าวหมอพบ "แท่งวุ้นสีขาว" ในเลือดคนเคยฉีดวัคซีนโควิด มันคืออะไร?!
• อ.เจษฎ์ โพสต์ปม พระพุทธรูปแปลก มีตุ่มขึ้นเต็มองค์ ที่ทำชาวบ้านฮือฮา จุดธูปขอเลขเด็ด

ที่สำคัญคือ ถ้าจะใช้คลอโรฟอร์มเป็นยาสลบนั้น ต้องใช้ในพื้นที่ปิด (เช่น หยดลงบนผ้าที่คลุมหน้าอยู่ แบบสมัยโบราณ) ต้องหายใจเข้าไปมากและนานเพียงพอ ไม่ใช่แค่พ่นใส่หน้า หรือโดนโปะผ้าที่ชุบคลอโรฟอร์มแป้บๆ แล้วจะสลบ ซึ่งจริงๆ ต้องโปะดมกัน 5-10 นาทีเลยทีเดียว ปัญหาคือ ไม่ชัดเจนว่า "สเปรย์ยาสลบ" ที่ท่านเรวัชพูดถึงนั้น คือยาอะไรกันแน่ ไม่มีการระบุชื่อในคลิป เพียงแต่บอกว่าหาซื้อได้ง่าย ไม่ถูกควบคุม แต่อย่างน้อย Google เช็คข่าวอาชญากรรมในประเทศไทยเรา ก็ไม่พบว่ามีข่าวกรณีของคนร้ายตบทรัพย์ด้วยการใช้สเปรย์ยาสลบเลย ไม่ว่าจะพ่นใส่หน้าตรงๆ หรือจะเอามาพ่นที่ผ้า แล้วเอาไปพันกระจกรถอย่างที่ว่า

และถ้ามีการทำแบบนั้นจริง เราแค่ถือผ้าขึ้นมาก็ได้กลิ่นฉุนจากสารเคมีแล้ว (ถ้าเป็นคลอโรฟอร์ม) ก็คงจะโยนทิ้ง ไม่มีใครเอามาโปะหน้าตัวเอง หรือทนหายใจต่อ ซึ่งถ้าใครเคยดมคลอโรฟอร์มบ้าง ตอนทำแล็บวิทยาศาสตร์ ก็คงจะรู้ว่ามันก็ต้องทนดมอยู่นานประมาณนึงเลยถึงจะเริ่มรู้สึกมึนงง อ่อนเพลียได้ อย่างไรก็ตาม เวลาไปจอดรถตามที่ต่างๆ ก็ควรจะตรวจสอบรถของตนเองโดยรอบ เพื่อความปลอดภัยอยู่ดี ลองเดินดูรอบๆ ซัก 1 รอบ ว่ามีอะไรผิดปรกติมั้ย ยางแบนหรือเปล่า กระจกหน้าหลังมีรอยแตกร้าวหรือไม่ รวมทั้งรอบๆ นั้น มีใครที่น่าสงสัยซุ่มอยู่หรือเปล่าครับ

โดยสรุป ผมคิดว่าเรื่อง "แก็งมิจฉาชีพ ใช้ผ้าพ่นสเปรย์ยาสลบ มาพันรถเรา เพื่อหลอกปลดทรัพย์" น่าจะเป็นแค่ข่าวลือครับ ใครมีรายละเดียดข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมยังไง มาแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ

ขณะที่ในเวลาต่อมา ดร.เจษฎา ได้ออกมาโพสต์เพิ่มเติมด้วยว่า เจอคลิปที่น่าจะเป็น "แก็งมิจฉาชีพ พันผ้าผสมยาสลบ ที่กระจกรถยนต์" ตามที่ท่านเรวัชออกมาเตือนวันก่อนแล้ว ดูคลิปแล้วนอกจากมันจะเป็นเหตุการณ์ในต่างประเทศ ยังชัดเลยว่านี่มันตั้งกล้องทำคอนเทนต์กันแน่ๆ ไม่ใช่ภาพจากกล้องวงจรปิดอะไรแถวนั้น เพราะดูมุมกล้องตอนต้นคลิป กับตอนท้ายคลิป มุมภาพมันเลื่อนไปเยอะเลย แถมมีการตัดต่อให้ตัวละครเข้าฉากกันเป็นช่วงๆ มีตัดภาพซูมเข้า ซูมออกด้วย

สรุปว่า ก็ยังไม่มีหลักฐานอะไร ที่จะยืนยันว่ามีแก็งมิจฉาชีพดังกล่าวจริงนะครับ คงเป็นแค่ข่าวลือ ตามคลิปคอนเทนต์ในโซเชียลแค่นั้นเอง