สาววัย 30 ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ร่างกายส่งสัญญาณเตือนแล้ว แต่กลับไม่ใส่ใจ

สาววัย 30 ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ร่างกายส่งสัญญาณเตือนแล้ว แต่กลับไม่ใส่ใจ

สาววัย 30 ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ร่างกายส่งสัญญาณเตือนแล้ว แต่กลับไม่ใส่ใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาววัย 30 ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ร่างกายส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าแล้ว แต่กลับไม่ใส่ใจ รู้ตัวอีกทีเป็นหนัก ทั้งที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยง

(21 มิ.ย. 67) สื่อต่างประเทศรายงานข่าวอุทาหรณ์สาววัย 30 ปี ตรวจเจอมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ร่างกายพยายามส่งสัญญาณเตือน แต่เธอกลับละเลย เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยโดย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ Tran Chung Nhac หัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์ระบบทางเดินหายใจและทรวงอก ที่เปิดเผยเรื่องราวของคนไข้หญิงวัย 30 ปี ที่เขาเคยทำการรักษาโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย 

คนไข้หญิงรายนี้เธอเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายด้วยการวิ่ง จนเมื่อประมาณ 6 เดือนที่แล้ว เธอเริ่มมีอาการหายใจถี่มากขึ้นขณะวิ่ง โดยช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเธอคิดว่าเกิดจากความอ่อนแอทางร่างกายของเธอ เธอจึงยังไม่ได้ไปพบแพทย์ แต่ทว่าอาการหายใจถี่ยังคงอยู่แม้ไม่ได้ออกกำลังกาย สามีของเธอจึงตัดสินใจพาเธอมาพบแพทย์ในที่สุด 

หลังแพทย์ทำการตรวจร่างกายของเธออย่างละเอียดนั้นก็พบว่าเธอกำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดในระยะลุกลาม ซึ่งนั่นทำให้สาวคนดังกล่าวและสามีรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และแพทย์ได้ทำการส่งเธอเข้ารับการรักษาในทันที และถือเป็นเรื่องโชคดีที่ร่างกายของเธอตอบสนองได้ดีกับยาที่ใช้รักษา ก่อนที่เวลาต่อมาเชื้อมะเร็งของเธอกลับมาอยู่ในจุดที่แพทย์สามารถควบคุมได้ จนหายดีเป็นปกติ แต่อย่างไรก็ตามคนไข้รายนี้ยังคงต้องมาพบแพทย์เป็นประจำเพื่อติดตามอาการของโรคที่อาจกำเริบขึ้นมาได้อีก  

นายแพทย์ Tran Chung Nhac ยังกล่าวอีกว่า คนไข้รายนี้ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอดแม้แต่น้อย เช่น ประวัติครอบครัว การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ไฟฟ้า หรือ การสัมผัสกับสารพิษ เช่น สารหนู นิกเกิล โครเมียม และ แร่ใยหิน แต่ความเสี่ยงของโรคนี้ยังเกิดขึ้นได้จากการเปลี่ยนแปลงของ DNA ในร่างกายที่อาจมีการกลายพันธุ์และเปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็งได้  

โดยนักวิทยาศาสตร์จาก Johns Hopkins Bloomberg School of Public Health ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาและเผยให้เห็นว่า DNA ที่มีความผิดปกติอาจส่งผลให้เซลล์กลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็งได้แม้คนคนนั้นจะมีสุขภาพดีและไม่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็ง 

นักวิทยาศาสตร์กล่าวเสริมอีกว่า มะเร็งจำ 32 ชนิดที่ได้ทำการศึกษาพบว่า 66% เซลล์มะเร็งมีการกลายพันธุ์มากจากการทำ งานที่ผิดพลาดของ DNA 29% มาจากปัจจัยแวดล้อม และอีก 5% มาจากพันธุกรรม หรือกรรมพันธุ์ 

ส่วนสัญญาณของโรตมะเร็งปอดนั้น นายแพทย์ Tran Chung Nhac มะเร็งปอดระยะเริ่มต้นแทบไม่มีอาการ ซึ่งกว่าที่จะมีการแสดงอาการนั้นก็เข้าสู่ระยะที่ 3 หรือ 4 ตรงจุดนี้อาจทำให้กระบวนการรักษานั้นมีประสิทธิภาพลดลง นอกจากนี้หากร่างกายมีอาการผิดปกติ เช่น ไอเป็นเลือด ไอเรื้อรังนานกว่า 2 สัปดาห์โดยไม่ทุเลา หายใจถี่ อ่อนเพลีย และน้ำหนักลด โดยไม่ทราบสาเหตุ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด หากเป็นมะเร็งจริงการตรวจพบได้เร็วก็มีโอกาสหายจากโรคได้ง่าย รวมถึงโรคอื่น ๆ เช่นเดียวกัน 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook