โรงไฟฟ้าพลังน้ำ เผย น้ำในเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ผ่านพ้นขั้นวิกฤต
โรงไฟฟ้าพลังน้ำ เผย สถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ผ่านพ้นขั้นวิกฤต หลังสำนักฝนหลวงและการบินเกษตร เพิ่มการขึ้นบินปฏิบัติการ ทำให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนกว่า 3.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ยืนยันไม่มีปัญหาเรื่องผลิตกระแสไฟฟ้าหากปริมาณน้ำในเขื่อนไม่เพียงพอ
นายกิตติ ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ในขั้นวิกฤต ว่า หลังจากที่สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เพิ่มการขึ้นบินปฏิบัติกา ขณะนี้เห็นผลแล้วโดยเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนภูมิพลเพิ่มขึ้นประมาณ 3.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนเขื่อนสิริกิติ์มีน้ำเข้าประมาณ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งโดยปกติแล้วทั้ง 2 เขื่อนจะปล่อยน้ำให้ประชาชนใช้อุปโภคและบริโภค 20 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ขณะนี้ทั้งเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ปล่อยน้ำรวมกันทั้งสิ้นเพียง 18 ล้านลูกบาศก์เมตร
ส่วนความต้องการใช้น้ำต่างๆ นั้น กรมชลประทานจะเป็นผู้ดูแลทุกภาคส่วน และจะทำการแจ้งความต้องการน้ำมาที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จากนั้นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ก็จะไปจัดการกันเองว่าในแต่ละเขื่อนจะปล่อยน้ำในปริมาณเท่าใด สำหรับน้ำที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าในภาพใหญ่ของประเทศนั้น มีอยู่ไม่เกินร้อยละ 5 และหากน้ำมีน้อยเกินไปที่จะผลิตกระแสไฟฟ้า จะมีการชดเชยโดยการใช้แก๊สธรรมชาติผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่ม ฉะนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องผลิตกระแสไฟฟ้าหากปริมาณน้ำในเขื่อนไม่เพียงพอ