อดีต ผจก.ธนาคาร โดนเอง! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้มุกเดิมหลอก สูญเงินเกือบล้าน

อดีต ผจก.ธนาคาร โดนเอง! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้มุกเดิมหลอก สูญเงินเกือบล้าน

อดีต ผจก.ธนาคาร โดนเอง! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้มุกเดิมหลอก สูญเงินเกือบล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คุณตาวัย 86 ปี อดีต ผจก.ธนาคาร โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้มุกเดิมหลอก สูญเงินเกือบล้าน เผยทำไมถึงหลงเชื่อ ก่อนมีจุดเอะใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (28 มิ.ย.) นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 86 ปี นำหลักฐานเอกสารต่าง ๆ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้มุกเดิมออกอุบายหลอกเป็นตำรวจ แล้ววิดีโอคอลแจ้งกับตนเองว่าบัญชีธนาคารของตนมีส่วนพัวพันกับแก๊งสีเทา เป็นบัญชีผ่านของพวกบัญชีม้า ให้ตนโอนเงินที่มีอยู่ในบัญชีมาตรวจสอบ มิเช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 86 ปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อดีตตนเป็นผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาปทุมวัน กรุงเทพ และเกษียณมาเมื่อปี 28 เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 27 มิ.ย. 67 ได้มีชายอ้างว่าเป็นตำรวจยศพันตำรวจโท ตำแหน่งรองผู้กำกับ สภ.เมืองสุรินทร์ โทรเข้ามาที่เบอร์โทรศัพท์มือถือของตน

และบอกกับตนว่าบัญชีที่ตนมีอยู่ ตรวจพบว่ามีส่วนพัวพันกับธุรกิจสีเทา เป็นทางผ่านของบัญชีมาหลายบัญชี ให้ตนเองโอนเงินในบัญชี มาให้ตรวจสอบมิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี แต่หากพบว่าไม่มีส่วนพัวพันกับธุรกิจสีเทาก็จะคืนเงินทั้งหมดให้และจะมีเงินเยียวยาให้ก้อนหนึ่ง

ตนหลงเชื่อจนสนิทใจ เนื่องจากเขาเปิดกล้องและวิดีโอคอลแต่งชุดตำรวจ เขารู้กระทั่งว่ามีเงินโอนเข้ามา 900,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ตนเก็บค่าเช่าที่ในแต่ละปีในจังหวัดลำปาง เขาบอกให้ตนเองโอนเงินไปที่บัญชีของชายรายหนึ่ง

ตนบอกว่าตนไม่ได้ใช้แอปฯ ธนาคารในมือถือ เขาจึงบอกให้ตนเองเบิกเงินในบัญชีธนาคารของตนเอง ซึ่งมียอดอยู่ 855,000 บาท ตนจึงเบิกเงินจากธนาคารนำเงินใส่ถุงและขับรถมาที่ธนาคารในห้างแห่งหนึ่งย่านติวานนท์ ก่อนจะนำเงินสดจำนวนดังกล่าวให้พนักงานเขียนใบฝากและโอนเงินไปให้ในบัญชีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย ตามที่เขาบอก

นายเอ (นามสมมุติ) กล่าวต่ออีกว่า หลังจากนั้นชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจ ได้ทักไลน์มาถามตนเองอีกว่ายังมีทรัพย์สินอะไรที่จะให้ตรวจสอบอีกไหม ตนจึงบอกไปว่ามีทองคำอีก 8 บาท ที่เก็บไว้ ชายคนดังกล่าวที่แอบอ้างเป็นรองผู้กำกับ จึงบอกให้ตนเองนำทองคำทั้งหมดไปขาย แล้วโอนเงินมาให้เขาตรวจสอบ

ตอนนี้ตนจึงรู้สึกเอะใจและเชื่อแน่ว่าโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกแล้ว จึงไม่ได้นำทองไปขาย และโอนให้เขา จากนั้นจึงเดินทางไปที่ธนาคารเพื่อขออายัดเงินที่โอนไป แต่ทางธนาคารบอกให้ตนมาแจ้งความก่อน อยากฝากบอกถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า "เวรกรรมมันมีจริง เดี๋ยวมันก็ตามทันอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีกเลย"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันของวันนี้เอง ที่ สภ.เมืองนนทบุรี มีผู้เสียหายจำนวนกว่า 10 ราย ที่เดินทางมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินในลักษณะดังกล่าวเหมือนกันทุกราย มีอยู่รายหนึ่งเป็นนักศึกษาหญิง มหาวิทยาลัยชื่อดัง ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกโอนเงินไปเป็นจำนวนกว่า 1 ล้านบาท แต่เนื่องจากผู้เสียหายเองไม่ประสงค์จะให้ข้อมูล เนื่องจากเกรงว่าจะเสื่อมเสีย รวมทั้งเกิดความอับอาย หลังลงประจำวันไปแล้วจึงได้รีบเดินทางกลับไปทันที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook