เปิดชีวิต "ปิ่น คณินณัฎฐ์" ป่วย SLE ผ่าตัด 16 ครั้ง ฟอกไต 4 ปี ยิ่งกว่าปาฏิหาริย์

ปิ่น คณินณัฎฐ์ ตั้งสำเริงวงศ์ เจ้าของเพจ Happy SLE อีป่วย ผู้ป่วย โรค SLE แพ้ภูมิตัวเอง หรือที่เรียกกันว่า โรคพุ่มพวง โดยเจ้าตัวป่วยตั้งแต่อายุ 17 ปัจจุบันอายุ 34 ปี ผ่าตัดมาแล้ว 16 ครั้ง ฟอกไต 4 ปี น็อคเกือบตายมาแล้วหลายครั้ง ทุกข์ทรมานจนไม่อยากมีชีวิต

ล่าสุด! พร้อมแล้วที่จะออกมาเล่าประสบการณ์ทั้งหมดในชีวิต ผ่านงาน เสวนาธรรม เสวนาชีวิต ที่จะจัดขึ้นวันที่ 7 ก.ค.นี้ เพื่อเป็นวิทยาทานให้กับผู้ป่วยโรค SLE ก้าวผ่านความทุกข์ เหมือนที่ปิ่นเคยก้าวผ่านมาแล้ว วิธีการดูแลตัวเอง สู้จนโรคร้ายสงบ อะไรที่ทำให้ปิ่นรอดตาย และมีชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้...

“ปิ่นเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือโรคพุ่มพวง เป็นมา 17 ปีแล้ว ผ่าตัดมาเยอะมาก ผ่าเปลี่ยนข้อกระดูกสะโพก ผ่าตัดทำเส้นฟอกไต เคยฟอกไตมา 4 ปี ผ่าทำเส้นที่ขาหนีบ 1 ครั้ง ที่คอ 2 ครั้ง ที่หน้าอก ผ่าตัดปิดเส้นฟอกไตหลังปลูกถ่ายไต ทำเส้นฟอกไตที่แขน 4 ครั้ง ผ่าตัดปลูกถ่ายไต ผ่าไตถุงน้ำใหญ่ เจาะปอด 1 ครั้ง เจาะไต ส่องกล้องเข้าไปในลำไส้ 2 ครั้ง ผ่าตัดไปทั้งหมด 16 ครั้ง หลายคนอาจจะงงว่า หลายคนจะถามว่ารอดมาได้ยังไง”

“ปิ่นเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองตั้งแต่อายุ 17 ปี ได้แต่งงว่ามันคืออะไร ตอนที่เริ่มกินยากดภูมิมันก็หน้าบวมตัวบวมเป็นสิว เรารับในสิ่งที่ตัวเองเป็นไม่ได้ ส่องกระจกร้องไห้ทุกวัน จากเด็กหน้าเล็กๆ กลายเป็นหน้าบวม ไม่กล้าออกจากบ้านหยุดเรียน กระทั่งดีขึ้นแล้วกลับไปเรียนสอบติดนิเทศจุฬา จนเรียนจบ ก็ยังรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นไม่ได้ ทุกข์ทรมานในสิ่งที่ตัวเองเป็นเวลาที่หมอเพิ่มยา หรือผลเลือดออกมาไม่ดีได้แต่เครียด”

ชีวิตจมดิ่งความทรมาน จนรู้สึกไม่อยากอยู่ต่อ

“เรียนจบมาได้เกียรตินิยมอันดับ 1 แต่ไม่ได้ทำงานเพราะป่วย ไม่อยากอยู่ รับไม่ได้จนถึงวันที่เป็นหนักมากๆ วันที่ไตวาย SLE ขึ้นสมอง ปิ่นชักสลบไป 4 วัน มันทรมานที่สุดในชีวิต สุดท้ายต้องคุยกับตัวเอง ปิ่นมึงจะเอายังไงกับชีวิตต่อ จะนอนแบบนี้แล้วยอมรับกับชะตากรรมไปเรื่อยๆ แบบนี้ใช่ไหม ก็หันไปเห็นแม่ที่นอนอยู่ข้างๆ เราก็นึกถึงครอบครัว นึกถึงแฟน คนรอบตัวที่สู้เพื่อเรา มันก็เลยคิดแล้วบรรลุเลย ที่ผ่านมาเรามัวแต่คิดอะไรอยู่ โทษตัวเอง ถามว่าทำไมต้องเป็นเรา คิดไปแล้วมันหายไหม”

“ก็เลยบอกตัวเองว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเราจะเลิกคิดอะไรที่ไม่ดี บอกตัวเองให้ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่ อันนี้สำคัญมากๆ พอเรายอมรับทุกอย่างมันเบาเลย เราบอกตัวเองว่า ต่อไปนี้อะไรที่เข้ามาเรายอมรับได้ แล้วก็บอกฟ้าดินทุกสิ่งอย่าง ขอให้อะไรที่มันเข้ามาค่อยๆ มานะ เรายอมรับแล้วจริงๆ”

ปิ่น คณินณัฎฐ์ ตั้งสำเริงวงศ์

หาเป้าหมายในการต่อสู้ของตัวเองให้เจอ

“นอกจากการยอมรับแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ทำให้ผ่านความเจ็บป่วยมาได้ก็คือ การหาอะไรที่พึ่งพาจิตใจเราได้ ไม่ว่าจะเป็นการสวดมนต์ไหว้พระ อะไรก็ตามที่มันทำให้มีความสุขแล้วลืมความเจ็บปวดไปได้ บางคนมีความสุขกับการเที่ยว ดูซีรีส์อ่านหนังสือก็ได้ อีกอย่างที่สำคัญที่ทำให้เราผ่านความทรมานมาได้ก็คือ เราต้องหากำลังใจของตัวเองให้เจอเหมือนหาเป้าหมายในการต่อสู้ของตัวเองให้เจอให้ได้”

“สำหรับปิ่นคือ อยากหายไม่อยากเป็นภาระของที่บ้าน อยากกลับมาทำงานได้ อยากทำโน่นทำนี่ได้ บอกตัวเองฉันจะสู้นะเพื่อสิ่งๆ นี้ เราต้องลองหาดู บางคนอยากสู้เพื่อลูก อยากสู้เพื่อแฟน อยากสู้เพื่อตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องผิด มันเป็น 3 สิ่งที่ทำให้คนที่กำลังต่อสู้เรื่องความเจ็บป่วยมันน่าจะช่วยหลายๆ คนได้”

ปิ่น คณินณัฎฐ์ ตั้งสำเริงวงศ์

“ข้อแรกเลยก็คือ เราต้องยอมรับในสิ่งที่เราเป็นให้ได้ เมื่อเรายอมรับไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะเข้าใจ หลังจากที่เรายอมรับ เวลาหมอจะเพิ่มยา ต้องฟอกไต ต้องผ่าตัดอีกกี่ครั้ง เราก็เข้าใจยอมรับกับมันที่จะต่อสู้แบบไม่ต้องมาเครียดเหมือนเมื่อก่อน”

“และอีก 1 ประโยคที่เรามักจะพูดบ่อยๆ ก็คือ ป่วยก็ตาย ไม่ป่วยก็ตาย มันจริงมากๆ ปิ่นอยากให้ทุกคนไม่ต้องรอให้ถึงวันที่หายป่วยแล้วมีความสุข อยากให้ทุกคนมองหาความสุขรอบๆ ตัว ถึงมันจะเล็กๆ น้อยๆ ก็ตามให้มีความสุขให้ได้ทุกๆ วัน อย่ารอให้วันที่หายป่วยก่อน ชีวิตคนเรามันสั้น คนที่แข็งแรงเกิดอุบัติอะไรขึ้นมาก็ตายได้ พอเรามีความสุขเราก็จะมีกำลังใจในการต่อสู้ เมื่อเราได้สู้อย่างเต็มที่แล้วในวันที่เกิดอะไรขึ้นเราจะไม่เสียใจกับมันเลยเพราะเราทำเต็มที่แล้ว”

อาจฟังดูไม่ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไป 

“ที่ปิ่นพูดมามันไม่ง่ายเลย แต่ปิ่นเชื่อว่ามันก็ไม่ยากเกินไป มันอาจจะใช้เวลาที่เราต้องคุยกับตัวเอง อยากให้ได้ลองดูซักตั้งนึง ปิ่นอยากจะถ่ายทอดความรู้สึกตรงนี้ ประสบการณ์ที่ปิ่นเจอ การดูแลตัวเอง และผ่านมันมาได้อย่างไร อยากให้ทุกคนได้ฟัง วันอาทิตย์ที่ 7 ก.ค. นี้ ขอเชิญทุกท่านร่วมงาน เสวนาธรรม เสวนาชีวิต ซึ่งปิ่นจะมาถ่ายทอดเรื่องความของปิ่นและวิธีการเอาชนะโรค SLE ให้ทุกคนได้ทราบกัน เวลา 13.00 น. ณ The Banquet Hall at Nathong”