ทั้งหมู่บ้านผวา ยายเก็บสิ่งนี้กลับบ้าน โดนสิ่งลี้ลับเล่นงานรัว ๆ วอนหมอปลามาพิสูจน์
ยายวัย 70 เก็บของชิ้นนี้มาจากกองขยะ เจอสิ่งลี้ลับมาก่อกวนอาละวาดทุกค่ำคืน ใครท้าเจอดีหมด วอนหมอปลามาช่วยชาวบ้านที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ก.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.กลางแดด อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ หลังได้รับการร้องเรียนว่า ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งมีบ้านอยู่ในละแวกเดียวกันประมาณ 5 หลัง ต่างประสบกับสิ่งลี้ลับอาถรรพ์ที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ มาก่อกวนอาละวาดทุกค่ำคืน จนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพราะแต่ละคืน จะถูกก้อนหินทั้งขนาดเล็กใหญ่ ปาใส่บ้านจนข้าวของเครื่องใช้ได้รับความเสียหาย อีกทั้งยังต้องคอยเฝ้าระวังฟืนไฟ ที่อาจจะลุกไหม้บ้านได้ตลอดเวลาด้วย
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่ามีกลุ่มชาวบ้านเป็นจำนวนมาก รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจ และพระสงฆ์ ต่างเข้ามาอยู่เฝ้าที่หมู่บ้านแห่งนี้ เพื่อสังเกตการณ์สิ่งลี้ลับภายในหมู่บ้านที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยที่เจ้าของบ้านแต่ละหลังต่างก็ไม่รู้สาเหตุ และไม่ทราบว่าเป็นฝีมือของใคร เพราะยังไม่สามารถตามหาต้นตอของเรื่องที่เกิดขึ้นได้ จึงต่างก็มีความเชื่อกันว่า เป็นสิ่งอาถรรพ์ลี้ลับที่ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ ต่างต้องพากันขนลุก และหวาดผวาตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นางทุเรียน อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นต้นเรื่องที่ทำให้เกิดสิ่งลี้ลับนี้ขึ้นในหมู่บ้าน เล่าว่า ตนมีอาชีพเก็บของเก่าขาย และเมื่อ 2 เดือนก่อน ได้นำรถสามล้อเครื่องไปตระเวนเก็บของเก่าอยู่ที่บริเวณกองขยะเชิงสะพานแห่งหนึ่งในตำบล แล้วไปพบกับถุงใส่พระเครื่องจำนวน 4 องค์ถูกวางทิ้งไว้ จึงได้เก็บเอากลับมาด้วย
โดยวันแรกก็ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่พอเข้าคืนที่ 2 ก็มีเรื่องหลานทันที เพราะจู่ ๆ บ้านก็ถูกก้อนหินทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ขว้างปาใส่เข้ามาตลอดทั้งคืน โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งตนก็ได้เปิดบ้านไปมองหาบริเวณรอบบ้านแล้ว แต่ก็มองไม่เห็นใคร แถมตอนนั้น ยังถูกหินปากระหน่ำเข้าใส่ไม่หยุดด้วย จึงต้องหลบเข้ามาอยู่ในบ้าน และต้องทนฟังเสียงถูกปาตลอดทั้งคืน
นางทุเรียน กล่าวต่อไปว่า คืนแรกที่โดนปาหินแบบนี้ ไม่ใช่แค่คืนเดียวจะจบ เพราะอีกหลาย ๆ วันต่อมา บ้านตนก็โดนปาหินใส่แบบเดียวกันทุกคืน โดยจะเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 4 ทุ่มไปจนถึงเช้าทุกวัน และพอหนักเข้า หลานชายวัย 15 ปี ที่พักอาศัยอยู่ด้วยกัน เขาทนไม่ไหว ก็เดินออกจากบ้านไปยืนด่าทอท้าทายว่า “หากมึงเป็นผีจริง ขอให้มึงไม่ไปผุดไปเกิด”
แล้วก็เกิดเรื่องจนไฟจะเผาวอดบ้าน เพราะจู่ ๆ ก็เกิดไฟลุกไหม้ชุดนักเรียนหลานที่แขวนไว้อยู่ข้างมุ้ง จนเสียหายไปถึง 5 ชุด ซึ่งก็เคราะห์ดีที่เห็นทัน เพื่อนบ้านจึงมาช่วยกันดับไฟไว้ได้ก่อน
“ฉันไม่รู้ว่าบ้านฉันโดนอะไรเล่นงาน เพราะทุกวันนี้ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ แต่ฉันรู้สึกว่าตั้งแต่เก็บถุงพระเครื่องจากกองขยะมา ชีวิตที่บ้านก็อยู่กันไม่เป็นสุขอีกเลย และนี่ก็ผ่านมาเป็นเวลานานกว่า 2 เดือนแล้ว ที่บ้านก็ยังโดนแบบนี้ทุกคืน ทั้งโดนปาหินใส่บ้านจนข้าวของเสียหาย
อีกทั้งอยู่ดี ๆ ก็เกิดไฟลุก ไปตามจุดต่าง ๆ ของบ้านโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งต่างก็ต้องผวา และหลับ ๆ ตื่นเพื่อคอยระวังกันอยู่ทุกคืน และนี่ไม่ใช่บ้านฉันโดนหลังเดียวนะ แต่ยังมีเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กัน โดนแบบเดียวกันเกือบทุกหลังด้วย แต่ในส่วนของบ้านฉันจะโดนหนักที่สุดกว่าใครเขา”
ด้าน นางสรญา เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน เล่าว่า หลังจากมีความประหลาดเกิดขึ้นที่บ้านของนางทุเรียน จึงทำให้ลูกชายวัย 15 ปี อยากพิสูจน์ เลยขอถุงพระเครื่องที่นางทุเรียนไปเก็บได้ มาเก็บไว้ที่บ้าน 1 คืน ก็เกิดฤทธิ์เดชขึ้นเช่นกัน เพราะโดนก้อนหินปริศนาเขวี้ยงใส่บ้านจนไม่ต้องหลับต้องนอน และถึงแม้จะเอาถุงพระเครื่องชุดนั้น ไปถวายให้พระสงฆ์องค์หนึ่ง ที่อยู่วัดในหมู่บ้านไปเก็บรักษาแล้ว แต่ก็ยังโดนปาหินใส่บ้านเหมือนเดิมมาจนถึงทุกวันนี้
ขณะที่ ชายเพื่อนบ้านอีกราย กล่าวระบุว่า ไม่ว่าใครในหมู่บ้านที่ไปจับแตะต้องถุงพระที่นางทุเรียนเก็บได้ จะต้องกลายเป็นผู้ประสบภัยแบบเดียวกันหมด ซึ่งในส่วนของตน ก็เคยไปถือถุงพระเครื่องของนางทุเรียน แล้วปรากฏว่า วันต่อๆ มาถูกก้อนหินปาใส่หลังคาบ้านที่เป็นกระเบื้องจนทะลุเป็นรู และทุกวันนี้ก็ยังโดนอยู่
หนำซ้ำรถจักรยานยนต์คู่ใจของตน ที่จอดไว้ข้างบ้านอยู่ดี ๆ ก็เกิดติดเครื่องขึ้นมาเองถึง 2 ครั้งด้วย ทั้งที่กุญแจรถ ก็วางอยู่ในตะกร้า และรถคันนี้ก็ไม่ได้ใช้ระบบสตาร์ตมือ อีกทั้งยังมีอยู่คืนหนึ่ง จู่ ๆ ก็มีเสียงเพลงไทยโบราณดังขึ้นมากลางดึก แต่ตนไม่กล้าออกไปดู ได้แต่อัดคลิปเสียงเก็บไว้
ผู้สื่อข่าวได้ลองสำรวจหาจุดผิดสังเกตบริเวณรอบ ๆ หมู่บ้านแห่งนี้แล้ว ก็ไม่พบว่า จะมีจุดใดที่เป็นแหล่งมั่วสุมหรือผิดปกติ และจากการสอบถามกลุ่มชาวบ้านที่มาเฝ้าสังเกตการณ์ ต่างก็ให้ข้อมูลว่า ได้มาอยู่เฝ้าที่หมู่บ้านนี้เกือบทุกค่ำคืน เพราะต่างก็มีความเชื่อ และอยากพิสูจน์ใช่เรื่องลี้ลับจริงหรือไม่ ซึ่งก็เจอเข้าจริง ๆ เพราะมีเสียงหินปาใส่หลังคาอยู่ตลอด โดยหาต้นทางการปาไม่ได้
ซึ่งเรื่องนี้ มีทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงพระสงฆ์ ที่มาเฝ้าช่วยหาสาเหตุให้คนในหมู่บ้านนี้ ก็ประสบเจอกับเรื่องดังกล่าวพร้อมกับชาวบ้านด้วย โดยนายวิโรจน์ ปานแก้ว กำนันตำบลกลางแดด กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านประมาณวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา ว่าได้รับความเดือดร้อน และผวาแทบนอนไม่ได้
ตนเองและผู้ช่วยต่างจึงมาพิสูจน์อยู่หลายครั้ง จนกระทั่งได้มีการร่วมทำบุญกลางบ้านตามความเชื่อด้วย แต่ก็ยังไม่วาย เกิดเหตุการณ์แบบเดิมขึ้นมาอีก ซึ่งตนก็ได้ยินเสียงปาหินเองกับหู แต่เมื่อมองหากลับไม่เจอใครแม้แต่เงา
เช่นเดียวกันกับ นายวิชิตชัย คุ้มเกรง เลขานายก อบต.กลางแดด ก็ระบุว่า ก็ได้รับการร้องเรียนและทำทุกวิถีทาง ทั้งทำบุญให้และพิสูจน์กันไปแทบทุกพิธีแล้ว แต่ความเฮี้ยนก็ยังบังเกิดไม่มีท่าทีจะหายไป ซึ่งตอนแรกตนก็ไม่เชื่อ แต่มาร่วมเฝ้าสังเกตเห็นเองจึงเชื่อเลยว่า หมู่บ้านนี้กำลังโดนสิ่งลี้ลับเล่นงานจริง ๆ จึงอยากจะให้หมอปลาลงมาช่วยชาวบ้านแห่งนี้ เพื่อให้ชาวบ้านคลายทุกข์ และหายสงสัยกับเรื่องดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของถุงพระเครื่องที่นางทุเรียนเก็บมาได้ ทราบว่า มีพระเครื่องอยู่ 4 องค์ โดยมีเหรียญของหลวงพ่อคูณรวมอยู่ในนั้นด้วย ซึ่งก็ทราบว่า ทางชาวบ้านได้มีการนำไปมอบไว้ให้กับพระที่วัดเกตุคีรีเก็บดูแลหมดแล้ว
แต่เรื่องร้าย ๆ ก็ยังไม่จบ เพราะหมู่บ้านนี้ ก็ยังต้องประสบเจอกับเหตุการณ์เดิม ๆ อย่างต่อเนื่อง จนชาวบ้านต่างทนไม่ไหวแล้ว ต้องออกมาร้องขอให้ทางนักข่าวช่วยเหลือ และประสาน นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือที่รู้จักในชื่อ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี ให้ลงมาช่วยชาวบ้านที
อัลบั้มภาพ 16 ภาพ