สถานการณ์ภัยแล้งใน 44 จ. สร้างความเสียหายกว่า 13,986 ล้านบาท
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำคณะสื่อมวลชน ประเทศตะวันออกกลาง ลงพื้นที่ภาคใต้ รับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ และการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลกระทบของสถานการณ์ภัยแล้งต่อภาคการเกษตรว่า มีพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับความเสียหายประมาณ 44 จังหวัด คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 13,986 ล้านบาท โดยมีผลผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญได้รับผลกระทบ ได้แก่ ข้าวนาปรัง สับปะรด ปาล์มน้ำมัน และไม้ผล ส่วนพืชเกษตรที่ไม่ได้รับผลกระทบหรือได้ผลกระทบไม่มากนัก ได้แก่ ข้าวนาปี มันสำปะหลัง อ้อยโรงงาน ปศุสัตว์และประมง ทั้งนี้ ข้าวนาปรังมีผลผลิตรวมลดลงจาก 650 กิโลกรัมต่อไร่ ลดลงเหลือ 592 กิโลกรัมต่อไร่ ผลผลิตรวมลดลงจาก 10.52 ล้านตันเหลือ 9.58 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 7,330 ล้านบาท ส่วนข้าวนาปีแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง แต่เกษตรกรได้เลื่อนระยะเวลาการปลูกออกไป โดยมีพื้นที่ปลูก 57.216 ล้านไร่ ผลผลิตต่อไร่ 403 กิโลกรัม และมีผลผลิตรวม 23.043 ล้านตัน
นายธีระ กล่าวด้วยว่า จากปัญหาภัยแล้งทำให้คาดว่าการขยายตัวของภาคการเกษตรต้องชะลอตัวเป็นร้อยละ 2.7 จากสถานการณ์ปกติที่คาดว่า จะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 3.1 ซึ่งมีผลให้รายได้ต่อครัวเรือนประชากรการเกษตรลดลง 2,450 บาทต่อครัวเรือนต่อปี จากในภาวะปกติที่ประมาณ 130,000 บาทต่อครัวเรือนต่อปี โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือกลุ่มผู้ปลูกข้าวนาปรังและไม้ยืนต้น