อ่านไม่ผิด! หนุ่มอุดรฯ พ้นประตูเรือนจำไม่ถึง 5 นาที ตร.รวบส่งกลับเข้าคุก เช็กบิลโจรใจบาป

หนุ่มอุดรฯ เดินพ้นประตูเรือนจำไม่ถึง 5 นาที ถูกตำรวจรวบส่งตัวกลับเข้าคุก ฐานตระเวนก่อเหตุใจบาป ลักเงินตู้รับริจาคของมูลนิธิชื่อดัง ได้เงินไปหลายแสน

เมื่อเวลา 17.00 น. ( 6 ก.ค.67 ) พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง มอบหมายให้ พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส. พร้อมทีมชุดสืบสวน นำกำลังไปจับกุม นายคิม อายุ 21 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี ตามหมายจับศาลจังหวัด เลขที่ 304/2567 ในข้อกล่าวหา 1.กระทำความผิดฐานลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม 2.ปลอมและอ้างหรือใช้เอกสารปลอม ทำให้ผู้อื่นเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง อันทำให้ผู้อื่นเสียหาย โดยตำรวจสามรถ จับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ ขณะกำลังเดินออกมาจากประตูเรือนจำพิเศษมีนบุรี กรุงเทพฯ หลังเพิ่งจะพ้นโทษในข้อหาคดีลักทรัพย์

สืบเนื่องมาจาก วันที่ 13 พฤษภาคม 2567 ได้มีคนร้ายก็คือ นายคิม อ้างตัวและถือเอกสารมาแสดงตัว ว่าได้รับหมายจากมูลนิธิชื่อดัง ให้เข้ามาเก็บเงินภายในตู้รับบริจาค ซึ่งวางภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งของพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ระหว่างที่เกิดเหตุคนร้ายทำทีไขกุญแจไม่สำเร็จ พร้อมกับอ้างกับทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่านำกุญแจมาผิด ก่อนจะจ้างช่างทำกุญแจมาไขกล่องตู้รับบริจาค พอเปิดสำเร็จก็กวาดเงินภายในตู้ไปจนเกลี้ยง แล้วหลบหนีไปทันที

ต่อมา ทางโรงพยาบาลได้ทำการตรวจสอบไปทางมูลนิธิต้นทางเจ้าของตู้รับบริจาค ว่ามีการส่งเจ้าหน้าที่มาเก็บในตู้รับบริจาคหรือไม่ และได้รับการยืนยันว่าไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่มาเก็บเงินแต่อย่างใด ทางโรงพยาบาลจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางละมุง จากนั้นชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาข่าวและตรวจสอบข้อมูลวงจร จนทราบว่าคนร้ายคือนายคิม เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ

จนกระทั่งในวันนี้ (6 ก.ค.67) พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส. สภ.บางละมุง พร้อมตำรวจชุดสืบสวน สืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ กำลังจะถูกปล่อยตัว ออกจากเรือนจำพิเศษมีนบุรี กรุงเทพฯ หลังเพิ่งจะพ้นโทษในข้อหาคดีลักทรัพย์ จึงนำกำลังดักที่ประตูทางออกของทางเรือนจำ พอนายคิมเดินออกจากประตูมาไม่ถึง 5 นาที ตำรวจจึงแสดงหมายจับ และเข้าควบคุมตัวได้โดยละม่อม ก่อนจะนำตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ.บางละมุง

จากการสอบสวน นายคิม ได้ทำการรับสารภาพว่า ตระเวนก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง โดยทำมาไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง ส่วนพฤติกรรมคือ จะอ้างตัวเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิชื่อดังแห่งหนึ่ง ขอเข้าไปเก็บเงิน จากตู้รับบริจาคที่นำไปตามที่สถานที่ต่างๆ เช่น โรงพยาบาล , ห้างสรรพสินค้า , โรงแรม , และ สนามบิน โดยใช้เอกสารที่ปลอมแปลงขึ้นมา หลอกเจ้าหน้าที่ประจำสถานที่ต่างๆ พอเหยื่อหลงเชื่อ ก็จะลงมือก่อเหตุทันที แต่ถ้าหากตู้รับบริจาคตู้ไหนเปิดไม่ได้ ก็จะจ้างช่างกุญแจมาเปิดให้ โดยจะอ้างกับทางเจ้าหน้าที่ว่านำกุญแจมาผิด หรือบางทีก็จะยกมาทั้งตู้บริจาค

โดยครั้งล่าสุดที่ไปก่อเหตุในโรงพยาบาล ได้เงินไป 4 หมื่นบาท ส่วนที่ทำมาก่อนหน้านี้ ได้เงินรวมประมาณแสนบาท พอได้เงินมาก็จะนำไปเล่นพนันออนไลน์ อีกทั้งยังยอมรับว่าเคยเข้าสถานพินิจฯ และเรือนจำมาแล้ว 7 ครั้ง ตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยเป็นข้อหาลักทรัพย์ทั้งหมด พาพ้นโทษออกมา หางานทำไม่ได้ ประกอบพ่อแม่ตายหมดแล้ว จึงกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก

พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส. สภ.บางละมุง เปิดเผยว่า การจับกุมนายคิมในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก หลังชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว ในคดีลักเงินในตู้บริจาค จนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือผู้ต้องหารายนี้ จึงขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับทันที แต่ในระหว่างติดตามจับกุมตัว พบว่าถูกจับกุมตามหมายจับข้อลักทรัพย์ ของ สน.จรเข้น้อย ขณะขึ้นไปพิมพ์รายนิ้วมือบน สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อจะนำไปเป็นหลักฐานในการขออุปสมบท แล้วถูกส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษมีนบุรี โดยถูกจำคุกไม่ถึง 2 เดือน และกำลังพ้นโทษออกมา จึงนำกำลังหมายจับไปอายัดตัว และพาตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ตำรวจฝากประชาสัมพันธ์ รวมถึงแจ้งเตือนภัยไปยังสถานที่ต่างๆ ที่มีการวางตู้รับเงินบริจาค ระวังกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ อ้างเข้าไปเปิดตู้รับเงินบริจาค โดยผู้ต้องหารายนี้ก่อเหตุมาแล้วครั้งในพื้นที่ กรุงเทพฯ และชลบุรี หากรู้ว่าตกเป็นผู้เสียหาย สามารถมาแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สภ.บางละมุง