เสน่ห์ของฟุตบอล หรือ ความดื้อด้านของ ฟีฟ่า

เสน่ห์ของฟุตบอล หรือ ความดื้อด้านของ ฟีฟ่า

เสน่ห์ของฟุตบอล หรือ ความดื้อด้านของ ฟีฟ่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้จะผ่านมาหลายวันแล้วก็ตามสำหรับจังหวะลูกยิงของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์ ทีมชาติอังกฤษ ที่ลอยไปชนคานก่อนจะตกลงมาข้ามเส้นประตูเข้าไปแล้ว แต่กลับไม่ได้รับการยืนยันให้เป็นประตูในระหว่างเกมที่ อังกฤษ พบกับ เยอรมนี ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

แน่นอนว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก และ ยังมีเหตุการณ์วุ่นว่ายอีกมายที่เกิดขึ้นแต่ก็ยังไม่สามารถจะทำให้หมดไปจากโลกฟุตบอลได้

ฟีฟ่า หรือ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ นำโดย เซปป์ แบล็ตเตอร์ ที่ยืนกรานมาโดยตลอดว่าจะไม่ขอนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในเกมฟุตบอล โดยเฉพาะกับการนำมาเป็นตัวตัดสินจังหวะต่างๆในเกม โดยยืนยันว่าเกมฟุตบอลนั้นเป็นเกมของมนุษย์ที่สามารถเกิดความผิดพลาดจากปัจจัยรอบด้านได้ อย่างไรก็ดีหลังจากผ่านเกมอัปยศนัดล่าสุดไปไม่กี่วันก็มีข่าวแพลมออกมาแล้วว่า แบล็ตเตอร์ ได้ออกมากล่าวขอโทษไปถึงสมาคมฟุตบอลของ อังกฤษ และ เม็กซิโก ที่ต่างได้รับผลกระทบจากความผิดพลาดในการตัดสินจริงๆ

 

ส่วนตัวผมเอง ผมรู้สึกทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับแนวคิดเรื่องนำเทคโนโลยีมาใช้ ในส่วนมุมที่ผมไม่ต้องการให้เอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้กับการตัดสินในสนามนั้น ผมมองไปที่การไม่อยากให้เกมฟุตบอลต้องเล่นไปหยุดไปเพื่อตรวจสอบความถูกต้องทุกจังหวะ ความผิดพลาดในการตัดสินหากเกิดขึ้นอย่างไม่ค้านสายตายังถือเป็นสิ่งที่ยอมรับกันได้ อย่างไรก็ดีฟุตบอลในทุกวันนี้เกี่ยวข้องกับชีวิตคนเราหลายได้หลายทาง มันไม่ใช่แค่กีฬา หรือ เกมแห่งความบันเทิงสนุกสนานอย่างเดียว แต่มันรวมถึงวงเงินจากการพนันไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยล้านที่โยงใยกันอยู่ทั่วโลก

ในด้านการของการเห็นด้วยกับการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเพื่อทำให้ทุกอย่างชัดเจน และ เป็นธรรมมากขึ้น ก็น่าเห็นใจผู้ที่เสียประโยชน์ การแฮนด์บอลของ เธียร์รี่ อองรี ในเกมเพลย์ออฟที่พบกับ ไอร์แลนด์ แล้วเอาตัวเองมาตกรอบแรกแบบสิ้นสภาพอดีตแชมป์ก็เป็นเรื่องที่ผมรู้สึกหงุดหงิดใจจนถึงที่สุด เพราะหาก ไอร์แลนด์ เข้ารอบมาได้นั้น ยังมั่นใจลึกๆว่าพวกเขาจะสู้อย่างเต็มที่มากกว่าสิ่งที่ ฝรั่งเศส แสดงให้เห็นแน่

การปกป้องผู้ตัดสินของ ฟีฟ่า ถือเป็นสิ่งที่พวกเขาแสดงออกมาอย่างชัดเจน แต่ปัญหานี้จะไม่มีทางหมดไป จะต้องมีผู้ได้ และ ผู้เสียประโยชน์เกิดขึ้นไม่รู้จักจบสิ้น

ผมอยากเห็นฟุตบอลเป็นกีฬาอันดับ 1 ในใจของผู้คนทั่วโลกไปอีกนานแสนนาน ดังนั้น เซปป์ แบล็ตเตอร์ ที่รวยจนสะดือปลิ้นจากการนั่งเป็นประธานฟีฟ่าในยุคนี้ควรจะขยับหามาตรการที่ลงตัวที่สุดเพื่อยุติข้อขัดแย้งนี้ได้เสียที

 


มาร์ค สุรเดช สันติเลิศประภพ

ผู้บรรยายกีฬา ทรูวิชั่นส์, บรรณาธิการบทความ นิตยสาร FourFourTwo

 

(ภาพจาก Getty Images)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook