สธ.สั่งห้ามนำหมูป่วยตายเป็นอาหาร
"จุรินทร์" สั่ง สสจ.หนองคาย ตรวจสอบกรณีหมูตายจากโรคพี อาร์ อาร์ เอส หรือหวัดหมูร่วมกับปศุสัตว์ ห้ามประชาชนนำหมูป่วยตายชำแหละเป็นอาหารหรือขาย เตือนผู้เลี้ยงหมูหากเป็นหวัดรีบพบแพทย์เพื่อความมั่นใจ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวหมูป่วยและล้มตายโดยไม่ทราบสาเหตุจำนวนมากในพื้นที่ จ.หนองคาย ว่า กรณีหมูตายเป็นหน้าที่ของกรมปศุสัตว์ต้องเข้าไปดูแล และได้รับรายงานว่ากรมปศุสัตว์ได้เข้าไปดูแลแล้ว ในส่วนที่เป็นห่วงว่าจะติดมาสู่คนหรือไม่นั้น ทางวิชาการยังไม่พบว่าโรคนี้จะระบาดมาสู่คนได้ ได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคายเข้าไปดูแล หากพบผู้ป่วยเป็นหวัดหรือสงสัยให้รีบไปพบแพทย์ โดยเฉพาะพื้นที่นั้นและพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งแนะนำวิธีการปฏิบัติตัว หากหมูที่เลี้ยงไว้ตายต้องฝังกลบ แจ้งปศุสัตว์ในพื้นที่ให้รับทราบ ถือว่าเป็นพื้นที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก เนื่องจากเนื้อหมูที่วางขายในท้องตลาดมีความปลอดภัย โดยก่อนชำแหละได้ผ่านการตรวจสอบด้านสุขภาพจากปศุสัตว์แล้ว และโรงฆ่าสัตว์ก็ได้ผ่านมาตรฐาน ขอให้ระมัดระวังเฉพาะพื้นที่มีการระบาด และต้องขอความร่วมมือผู้เลี้ยงหมู หากมีหมูตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ห้ามนำมาบริโภคหรือชำแหละไปขายเด็ดขาด ต้องฝังทำลายเท่านั้น ส่วนผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดควรไปพบแพทย์ เพื่อความมั่นใจแม้จะยังไม่มีการระบาดมาสู่คน
นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หมูที่ตายที่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เป็นหมูที่ป่วยด้วยโรคพี อาร์ อาร์ เอส (Porcine Reproductive and Respiratory Syndrome) ซึ่งโรคดังกล่าวเป็นโรคประจำถิ่นที่เกิดขึ้นในสัตว์และพบได้ทั่วโลก โรคนี้เป็นโรคที่พบเฉพาะในหมูไม่ติดในคน แม้คนจะคลุกคลีกับหมู แต่เชื้อสามารถติดมากับเสื้อผ้า ผู้เลี้ยงผู้สัมผัสแพร่ไปสู่หมูตัวอื่นได้ การสังเกตอาการหมูที่ป่วย หมูจะมีไข้สูง ตัวแดง หายใจไม่สะดวก เพื่อความปลอดภัยและควบคุมป้องกันโรคไม่ให้แพร่ระบาดในวงกว้างขอแนะนำให้ผู้ เลี้ยงหมูอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย และเสื้อผ้าหลังออกจากคอกหรือฟาร์มเลี้ยง