ขุดประวัติ โจรฆ่าชิงรถ-ชิงทอง เคยเล่นหนัง ผู้กำกับเผยบุคลิกน่ากลัว แม่เลี้ยงลูกผิดๆ
ประวัติ "โอปอล" โจรชิงทอง-ฆ่าชิงรถ เคยประกวดนายแบบและเล่นหนัง ผู้กำกับเผยบุคลิกน่ากลัวตั้งแต่ 5 ปีก่อน แม่เลี้ยงลูกแบบผิดๆ
จากกรณี นายนิพิฐพนธ์ หรือ โอปอล อายุ 26 ปี ก่อเหตุฆาตกรรม ว่าที่ร้อยโทสุเทพ อายุ 48 ปี ก่อนชิงรถยนต์นำไปใช้ก่อเหตุชิงทองบนห้างสรรพสินค้ากลางเมืองเชียงใหม่นั้น
ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก “อีซ้อขยี้ข่าว 3” ได้โพสต์ภาพ นายนิพิฐพนธ์ หรือ โอปอล ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ขณะเป็นผู้เข้าประกวดมิสเตอร์ทัวริซึม ไทยแลนด์ 2018 โดยในการประกวดดังกล่าว นายนิพิฐพนธ์ เป็นตัวแทนจาก จ.ลพบุรี
โดยเพจดังกล่าวระบุว่า "น้องโอปอล สุภาพ เรียบร้อย พูดน้อย ช่วยเหลือพ่อแม่ ชอบเล่นเกมวางแผน ชอบดูหนังประเภทสืบสวนฆาตกรรม จนบางครั้งมีพฤติกรรมรุนแรง ที่ลูกทำอาจจะคิดหาเงินมาช่วยครอบครัว ไม่เคยปล่อยให้ลูกเดือดร้อน ให้เงินเดือนลูกเดือนละ 15,000-20,000 บาท เพื่อช่วยดูแลแม่ที่ไม่สบาย...ลูกบังเกิดเกล้า"
ขณะเดียวกันผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ณิชภูมิ ชัยอนันต์” ผู้กำกับภาพยนตร์ และเจ้าของบริษัท วายุฟิล์ม จำกัด จ.เชียงใหม่ ได้โพสต์ข้อความถึง นายนิพิฐพนธ์ ด้วยเช่นกันว่า "น้องที่ชิงทอง ปล้นฆ่าเค้า ที่เป็นข่าวดังเชียงใหม่ ผมรู้จัก น้องเคยเล่นหนังกับผมเมื่อ 5 ปีที่แล้ว (ตัวเมนด้วย) พ่อแม่เค้านี่แหละที่พาน้องมาให้เล่นหนังเรื่องนั้น แล้วก็พยายามดันน้อง ซัพพอร์ตน้องทุกอย่างเลย พ่อแม่รักน้องนะ แต่รักผิดวิธี ใช้เงินในการเลี้ยงน้องอย่างชัดเจน”
พร้อมบอกอีกว่า “น้องเป็นคนเงียบๆ ไม่สุงสิงกับใคร ไม่คุยกับใคร ตอนมาแคสต์ก็เห็นละว่าท่าทางสุขภาพจิตไม่ดี เอาง่ายๆ ผมไม่เคยเห็นน้องยิ้มเลย น้องแปลกๆ ตั้งแต่ตอนนั้น บุคลิกน้องดูน่ากลัวๆ ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แววตาดูเก็บกด ไม่ดื่ม ไม่สูบ ติดเกมจริงๆ เข้ากับใครไม่ได้ แล้วก็เรียบร้อยมากๆ โลกส่วนตัวสูง แล้วทางบ้านน้องเคยรวยจริงๆ นะ คือบ้านมีปัญหาการเงิน เข้าใจได้เลย แต่ทางออกมีเยอะ งานสุจริต ได้เงินดี ได้เงินง่าย ไม่น่าไปปล้นไปฆ่าใครเลยน้องเอ้ย งานนี้เห็นใจพ่อแม่น้องนะ จริงๆ แล้วพ่อแม่น้องไม่เกี่ยวเลย เข้าใจว่าพ่อแม่น้อง เลี้ยงน้องมาผิดวิธี ผิดจริงๆ ผิดมากๆ แต่น้องคิดตื้นๆ ทำไมทำงี้วะ”
“บุคลิกฆาตกรในหนังต่างๆ คือบุคลิกแบบน้องเลย น่ากลัว แล้วที่ทำเอาเราตกใจ มือสั่น หมดแรงตอนรู้ข่าวคือ หนังที่น้องเคยเล่นเมื่อห้าปีก่อนกับเรา เป็นหนังฆาตกรรมใดๆ คืออย่าโทษเกม อย่าโทษหนัง แต่ต้องโทษตัวน้องนี่แหละ กับต้องโทษวิธีการเลี้ยงน้องของพ่อแม่นี่แหละ มีส่วนเยอะเลยใช้แต่เงินในการเลี้ยงลูก แต่ไม่ให้ความอบอุ่น ความเข้าใจ จนลูกเห็นเงินเป็นใหญ่ ไม่เข้าใจคำว่ามนุษยธรรมไม่มีความเป็นมนุษย์ ไม่รู้จักคำว่าความรัก”