กังหันผงาดฟ้า!!ไล่ยิงแซงสยบบราซิล 2-1
"กังหันสีส้ม" ฮอลแลนด์ ระเบิดฟอร์มในครึ่งหลัง ไล่ยิงแซงเอาชนะ บราซิล ไปได้แบบสุดเร้าใจ 2-1 เวสลี่ย์ สไนเดอร์ โขกประตูชัย พาทีมผงาดเข้ารอบรองชนะเลิศ แบบสุดยิ่งใหญ่
ฟุตบอลโลก 2010 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
ฮอลแลนด์ 2 - 1 บราซิล
เริ่มครึ่งแรก นาทีที่ 8 บราซิล ชวดชึ้นนำอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะที่ ฟาเบียโน่ แทงบอลทะลุช่องให้ อัลเวส หลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจ่ายให้ โรบินโญ่ ยิงเข้าไปตุงตาข่าย ทว่าไม่ได้ประตู เนื่องจากกรรมการเป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
แต่แล้ว นาทีที่ 10 บราซิล ก็ทะยานขึ้นนำ 1-0 จนได้ เมื่อ ฟิลิปเป้ เมโล่ เปิดบอลจากกลางสนามทะลุช่องกองหลัง ฮอลแลนด์ ให้ โรบินโญ่ หลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะซัดเน้นๆส่งบอลผ่านมือ สเตเคเลนเบิร์ก เข้าไปตุงตาข่าย
นาทีถัดมา ฮอลแลนด์ บุกหนักทันที หวังตีเสมอให้ได้ และมาได้ลุ้น จากการยิงนอกกรอบของ เดิร์ค เค้าท์ ทว่า ชูลิโอ เซซ่าร์ ยังปัดทิ้งออกไปได้
นาทีที่ 16 ฮอลแลนด์ มาได้ลุ้นตีเสมอจากลูกฟรีคิกนอกกรอบ ทว่า ฟาน เพอร์ซี่ กลับยิงข้ามคานออกไปไไกล
บราซิล มาได้ลุ้นประตู ในนาทีที่ 25 เมื่อ อัลเวส เลี้ยงบอลทางปีกขวา ก่อนจะจ่ายยัดมาหน้าประตู และเป็น ฮวน ที่เติมเกมขึ้นมา ตวัดยิงตามน้ำทันที ทว่าบอลลอยข้ามคานออกไป อย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 30 บราซิล ชวดขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ โรบินโญ่ กระชากบอลขึ้นด้านซ้าย ก่อนตวัดมาหน้าประตูให้ ฟาเบียโน่ ตอกส้นต่อมาให้ กาก้า วิ่งเข้ามาบรรจงปั่นโค้ง บอลกำลังจะเสียบใต้คานอยู่แล้ว ทว่า สเตเคเลนเบิร์ก โชว์ซูปเปอร์เซฟ บินปัดออกหลังไปได้
นาทีที่ 35 ฮอลแลนด์ มาได้ลุ้นอีกครั้ง จากลูกฟรีคิก คราวนี้เป็น สไนเดอร์ ที่วิ่งเข้าไปกดเต็มข้อ ทว่าบอลก็ไปติดเซฟของ ชูลิโอ เซซ่าร์
ท้ายครึ่งแรก เป็น บราซิล ที่ได้จังหวับุกกดดันอย่างหนัก และเกือบจะได้ประตูนำห่าง จากจังหวะที่ บาสโต๊ส จ่ายบอลมาหน้าเขตโทษให้ อัลเวส ไหลออกทางด้านขวา และเป็น ไมค่อน ที่วิ่งเข้ามากดเต็มข้อ บอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย อย่างน่าเสียดาย
หมดครึ่งแรก บราซิล ขึ้นนำ ฮอลแลนด์ อยู่ 1-0
เริ่มครึ่งหลัง ฮอลแลนด์ มาได้ลุ้นก่อน ในนาทีที่ 50 เมื่อ ฟาน เพอร์ซี่ ได้บอลด้านขวา ก่อนเปิดมาหน้าเขตโทษให้ สไนเดอร์ ยิง ทว่าโดนไม่เต็มเท้า บอลหลุดกรอบออกหลังไป
นาทีที่ 54 ฮอลแลนด์ ก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จนได้ จากจังหวะที่ ฟาน เพอร์ซี่ ได้บอลด้านขวาก่อนไหลมาให้ สไนเดอร์ เปิดโค้งไปหน้าประตู ฟิลิปเป้ เมโล่ กับ ชูลิโอ เซซ่าร์ ไม่ให้เสียงกัน กระโดดขึ้นเล่นบอลพร้อมกัน บอลเลยพุ่งไปโดนหัว เมโล่ โหม่งบอลเข้าประตูตัวเองไป
นาทีที่ 61 บราซิล บุกขึ้นมาอีก และมาได้ลุ้นจากการยิงนอกกรอบของ อัลเวส ทว่าบอลก็หลุดออกหลังไปอีก
นาทีที่ 66 บราซิล ขวดขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ ไมค่อน เปิดบอลจากด้านขวามาหน้าประตู กองหลังฮอลแลนด์ สกัดบอลไม่ดีมาเข้าทาง กาก้า พักอกหนึ่งจังหวะ ก่อนบรรจงแปเน้นๆ บอลหลุดกรอบไปนิดเดียว
จนถึง นาทีที่ 68 กองเชียร์กังหันสีส้ม ได้เฮสนามแทบแตก เมื่อมาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะลูกเตะมุม ร็อบเบน เปิดมาที่เสาแรก เดิร์ค เค้าท์ โหม่งเสยต่อไปหน้าประตู และเป็น สไนเดอร์ ที่พุ่งเข้าไปโหม่งเต็มหัว ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย
นาทีที่ 73 บราซิล งานยิ่งเข้าไปกันใหญ่ เมื่อมาเหลือนักเตะแค่ 10 คน เมื่อ ฟิลิปเป้ เมโล่ ไปทำฟาล์ว ร็อบเบน แล้วยังไปย่ำใส่ขา แบบน่าเกลียด ทำให้กรรมการควักใบแดง ไล่ออกจากสนามไปทันที
ฮอลแลนด์ มาไดัลุ้นนำห่าง ในนาทีที่ 79 จากลูกฟรีคิกระยะ 30 หลา ทว่า ฟาน เพอร์ซี่ ก็ยิงข้ามคานออกไปไกล
ท้ายเกม ทั้งคู่เปิดฉากบุกใส่กันเลย นาทีที่ 84 ฮอลแลนด์ น่าจะได้อีกประตู เมื่อ ฟาน เพอร์ซี่ ครองบอลได้ในเขตโทษของ บราซิล แล้วจะพลิกยิง ทว่าบอลหลุดมาถึง สไนเดอร์ วิ่งเข้ามากดเน้นๆ ทว่าบอลยังไปติดเซฟของ ชูลิโอ เซซ่าร์
ถัดมานาทีเดียว บราซิล ก็น่าจะได้ประตูตีเสมอ เมื่อ กาก้า ใช้ความสามารถเฉพาะตัว กระชากบอลหนีกองหลัง ฮอลแลนด์ เข้าหาเขตโทษแล้วยิงทันที ทว่าบอลไปติดบล็อก ออยเยอร์ นิดเดียวเท่านั้น
ช่วงทดเจ็บ บราซิล บุกอย่างหนัก ทว่าก็โดน ฮอลแลนด์ สวนขึ้นมา และน่าจะได้อีกประตู เมื่อได้บอลหลุดขึ้นมา ถึง 3 คนหน้าเขตโทษ ฮุนเตลราห์ ได้บอลหน้าเขตโทษ แต่ทว่าใจเย็นเกินไป ไม่ยอมจ่ายให้ ร็อบเบน ที่ตอนแรกยื่นโล่งอยู่คนเดียว ก่อนที่จะโดนกองหลัง บราซิล วิ่งเข้ามาสกัดได้ทัน
หมดเวลาการแข่งขัน ฮอลแลนด์ โชว์ฟอร์มสุดเฉียบ ไล่ยิงแซงสยบเอาชนะ บราซิล ที่เหลือ 10 คน ไปได้แบบสุดมันส์ 2-1 ทะยานเข้ารอบรองชนะเลิศ สุดยิ่งใหญ่
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ฮอลแลนด์ : มาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก - โจวานนี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์, จอห์น ไฮติงก้า, อังเดร์ ออยเยอร์, เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล - มาร์ค ฟาน บอมเมล, ไนเจล เดอ ยองก์ - อาร์เยน ร็อบเบน, เวสลี่ย์ สไนเดอร์, เดิร์ค เค้าท์ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
บราซิล: ชูลิโอ เซซ่าร์ - ดั๊กลาส ไมค่อน, ลูซิโอ, ฮวน, มิเชล บาสโต๊ส - ฟิลิปเป้ เมโล่, จิลแบร์โต้ ซิลวา - ดาเนียล อัลเวส, กาก้า, โรบินโญ่ - หลุยส์ ฟาเบียโน่
(ภาพจาก Getty Images)