มาร์ค สุรเดช ฟันธงบอลโลกรอบ 8 ทีม

วิเคราะห์เจาะลึก ศึกฟุตบอลโลก 2010 จาก มาร์ค สุรเดช ผู้บรรยายกีฬาชื่อดัง

รอบ 16 ทีมสุดท้าย

อาร์เจนติน่า vs เยอรมนี

ข่าวดีของ อาร์เจนติน่า คืออาการป่วยของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่แม้จะไม่ได้ซ้อมเมื่อวันพฤหัสบดีแต่เกมนี้จะมีชื่อเขาอยู่ในทีมตัวจริงด้วยอย่างแน่นอน วอลเตอร์ ซามูเอล แม้จะฟิตสมบูรณ์แล้วแต่ มาราโดน่า ดูจะชอบใช้บริการของ บูร์ดิสโซ่ กับ เดมิเคลิส มากกว่า ขณะที่แดนกลางนั้น “เสือเตี้ย” ก็ต้องตัดสินใจเลือกระหว่างจะใช้ใครดีระหว่าง มักซี่ โรดริเกวซ หรือ ฮวน เซบาสเตียน เวรอน

เยอรมนี เองก็ต้องลุ้นว่าอาการเจ็บที่กล้ามเนื้อของ ลูคัส โพดอลสกี้ นั้นจะหายทันสำหรับเกมนี้หรือไม่ รายของ เมซุต โอซิล ที่ได้รับอนุญาตให้พักไม่ต้องลงซ้อมเมื่อวันพฤหัสบดีน่าจะคืนสภาพฟิตเต็มร้อยด้วยเช่นกัน รายของ คาเคา กองหน้าเลือดบราซิเลี่ยน ยังมีอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อช่องท้องหมดสิทธิ์ลงสนามอย่างแน่นอน

เกร็ดที่น่าสนใจ:
- ลิโอเนล เมสซี่ มีโอกาสยิงไปแล้วถึง 23 ครั้งในทัวร์นาเมนต์นี้ แต่ยังยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว
- 23 แมตช์ที่ ดีแอโก้ มาราโดน่า คุมทีมมานั้น ทีมของเขายังไม่เคยเสมอเลยแม้แต่แมตช์เดียว โดยแบ่งเป็นชนะ 18 และแพ้ 5
- มิโรสลาฟ โคลเซ่ หัวหอกของ เยอรมนี ยิงไปแล้ว 12 ประตู ขาดอีกเพียง 3 ประตูจะเท่ากับสถิติในรอบสุดท้ายตลอดกาลที่ โรนัลโด้ ของ บราซิล ทำไว้ได้
- เยอรมนี ไม่เคยรอเกินกว่า 20 ปีในการคว้าแชมป์โลก โดยหนสุดท้ายที่พวกเขาได้แชมป์เกิดขึ้นในปี 1990

ความน่าจะเป็น:
เป็นเกมที่น่าสนใจมากๆ เพราะฟอร์ม และ ชื่อชั้นของทั้งสองทีมนั้นไม่เป็นสองรองใคร อาร์เจนติน่า มีดีที่เกมรุก และ ความเซอร์ไพรส์จากการวางแผนของ ดีเอโก้ มาราโดน่า แต่ เยอรมนี ก็เป็นทีมที่แข็งแกร่ง ดูแล้วเกมนี้อาจจะยืดเยื้อเกิน 90 นาที ก่อนที่จะต้องไปชิงดำกันด้วยการดวลจุดโทษ

ผลการแข่งขันที่คาด:
อาร์เจนติน่า เสมอ เยอรมนี 0-0 (ใน 90 นาที)

 

 

ปารากวัย vs สเปน

บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือของสเปน น่าจะยึดทีมเดิมลงเล่นเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน โดยเขาจะยังให้โอกาสกับ เฟร์นันโด ตอร์เรส แม้ดาวยิงจาก ลิเวอร์พูล จะยังยิงประตูไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียวในทัวร์นาเมนต์นี้ รายของ ชาเบียร์ มาร์ติเนซ ดาวรุ่งกองกลางจาก บิลเบา โชคร้ายเจ็บข้อเท้าระหว่างซ้อมทำให้เขาจะไม่สามารลงสนามได้อย่างแน่นอน

ด้าน ปารากวัย จะได้ บิคตอร์ คาเซเรส กลับมาจากโทษแบนที่ทำให้เขาไม่ได้ลงสนามในเกมกับ ญี่ปุ่น รายของ ออเรเลียโน่ ตอร์เรส ก็หายจากอาการบาดเจ็บที่น่องแล้วเช่นกัน

เกร็ดที่น่าสนใจ:
- คู่นี้เคยเจอกันมา 3 หนเท่านั้น ปรากฏว่า สเปน ชนะได้ 1 ครั้งส่วนอีก 2 ครั้งที่เหลือเสมอกันไป
- เดนิส คานิซ่า หวังจะเป็นผู้เล่นของ ปารากวัย คนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติครบ 100 นัด
- การเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในหนนี้ของ ปารากวัย ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาทำได้สำเร็จด้วย
- โรเก้ ซานตาครู้ซ ยิงประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายไม่ได้มาแล้ว 799 นาที
- ถ้า สเปน คว้าแชมป์โลกในปีนี้ได้ พวกเขาจะเป็นชาติแรกที่แพ้ในเกมแรกของฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย แต่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคจนก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์
- ดาบิด บีย่า ต้องการอีกประตูเดียวเพื่อจะทาบสถิติของ เอมิเลียโน่ บูตราเกโญ่ ที่ยิงได้ถึง 5 ประตูให้กับ สเปน ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายสมัยเดียว โดย บูตราเกโญ่ ทำสถิตินี้ไว้ในปี 1986

ความน่าจะเป็น:
ปารากวัย ทำผลงานในรอบแรกได้ดี แต่ปัญหาของพวกเขาในตอนนี้ที่เริ่มเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆคือการที่บรรดากองหน้าไม่สามารถจบสกอร์ได้อย่างที่ต้องการ ทำให้เกมนี้ต้องลำบากแน่เพราะ สเปน น่าจะเป็นฝ่ายที่ได้ครองบอล และ สร้างความกดดันมากกว่า และด้วยความแข็งแกร่งของ สเปน เมื่อเทียบกับ ปารากวัย แบบตำแหน่งต่อตำแหน่งแล้ว เกมนี้น่าจะจบลงด้วยชัยชนะของแชมป์ยูโร 2008 พร้อมกับผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกได้เป็นหนที่สองในประวัติศาสตร์ของพวกเขา

ผลการแข่งขันที่คาด:
ปารากวัย แพ้ สเปน 0-2

 

(ภาพจาก Getty Images)