ทรัมป์ เปิดตัว เจ.ดี. แวนซ์ ชิงรองประธานาธิบดี จากอริสู่คู่หูศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024

ทรัมป์ เปิดตัว เจ.ดี. แวนซ์ ชิงรองประธานาธิบดี จากอริสู่คู่หูศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024

ทรัมป์ เปิดตัว เจ.ดี. แวนซ์ ชิงรองประธานาธิบดี จากอริสู่คู่หูศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ทรัมป์" เลือก "เจ.ดี. แวนซ์" สว. จากโอไฮโอ ชิงเก้าอี้รองประธานาธิบดี คู่หูร่วมสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024

อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศในวันจันทร์เกี่ยวกับการตัดสินใจเลือก เจ.ดี. แวนซ์ วุฒิสมาชิกจากรัฐโอไฮโอ ร่วมลงชิงชัยตำแหน่งรองประธานาธิบดีในการเลือกตั้งใหญ่ปีนี้ ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี

ทรัปม์ ตัดสินใจเลือก แวนซ์ แม้ว่าครั้งหนึ่ง สว.หนุ่มผู้นี้จะเคยเป็นผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ตนอย่างหนักก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นพันธมิตรที่จงรักภักดี ท่ามกลางความกังวลของชาวอเมริกันต่อกรณีความสูงอายุของผู้นำทางการเมืองสหรัฐฯ ในเวลานี้

อดีตประธานาธิบดีที่เพิ่งรอดชีวิตจากการถูกลอบสังหารเมื่อเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา ระบุในโพสต์ทางแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน “ทรูธ โซเชียล” ของตนว่า “หลังการหารือและคิดทบทวนกันมายาวนาน ทั้งยังพิจารณาผู้มีความสามารถมากมายคนอื่น ๆ แล้ว ผมตัดสินใจว่า ผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะรับตำแหน่งรองประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาคือ สว. เจ.ดี. แวนซ์ จากรัฐโอไฮโออันยิ่งใหญ่”

แวนซ์ ในวัย 39 ปี ก้าวขึ้นมาเป็นที่รู้จักในระดับประเทศจากการตีพิมพ์บันทึกความทรงจำ “Hillbilly Elegy” เมื่อปี 2016 ก่อนจะได้รับเลือกเป็นวุฒิสมาชิกในปี 2022 และกลายมาเป็นผู้สนับสนุนที่เหนียวแน่นที่สุดของของวาระ “ทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง” (Make America Great Again) ของทรัมป์ โดยเฉพาะในประเด็นการค้า นโยบายต่างประเทศและผู้อพยพ

อย่างไรก็ดี แวนซ์แทบไม่มีประสบการณ์การเมืองในระดับประเทศเลยและเข้าร่วมกับทรัมป์ในช่วงเวลาที่ถือว่ามีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ไม่น้อย โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุการณ์ลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีผู้นี้ระหว่างการหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันเสาร์ ซึ่งทำให้คนทั้งประเทศหันมามองภาพการเมืองของประเทศกันมากขึ้น ในช่วงที่ใกล้เข้าสู่เวลาที่ต้องตัดสินใจว่า ใครจะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปลายปีนี้

ตัวสว.หนุ่มผู้นี้เพิ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับโพสต์ทางแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) ของตนที่ชี้ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน คือ ผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งล่าสุดนี้ โดยระบุว่า “แก่นกลางของแผนการหาเสียงของไบเดนคือว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้ยึดถือลัทธิฟาสซิสท์ ที่ต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้งให้ได้” และว่า “วาทกรรมเช่นนั้นเกี่ยวโยงโดยตรงและนำไปสู่ความพยายามลอบสังหารประธานาธิบดีทรัมป์”

เจ้าหน้าที่รักษากฎหมายสหรัฐฯ ยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับมูลเหตุจูงใจของการลอบยิงทรัมป์

สิ่งที่ชัดเจนของการเลือกแวนซ์เข้าร่วมชิงตำแหน่งผู้นำรัฐบาลของทรัมป์ครั้งนี้ก็คือ การปลุกกระตุ้นฐานเสียงผู้สนับสนุนตน หลังสว.หนุ่มจากยุคมิลเลนเนียลกลายมาเป็นที่ชื่นชมของกลุ่มสื่ออนุรักษ์นิยมและเป็นผู้ที่ออกมาปะทะกับผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภาสหรัฐฯ เป็นประจำ ซึ่งล้วนให้ตนดูคล้ายเป็นผู้นำที่จะช่วยสืบทอดบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของทรัมป์ต่อไปในอนาคต ที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2028

แต่สิ่งหนึ่งที่เอพีระบุคือ การเลือกแวนซ์มาเป็นคู่ชิงชัยของทรัมป์ หมายถึง การที่ชายผิวขาวสองคนพยายามนำพาพรรครีพับลิกันเข้าถึงผู้มีสิทธิ์ใช้เสียงชาวอเมริกัน ขณะที่ อดีตประธานาธิบดีผู้นี้ยังคงพยายามเข้าหาผู้มีสิทธิ์ผิวดำและเชื้อสายละตินอยู่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook