เอะใจ ลูกสาววัย 13 ชอบขังตัวอยู่ในห้อง แม่เห็นข้อความในมือถือลูก แจ้งตร.ทันที
พ่อแม่เห็นผิดสังเกต ลูกสาววัย 13 ปี ชอบอยู่ในห้องโดยล็อกประตูไว้ เห็นข้อความในมือถือลูก รีบแจ้งตำรวจทันที
เว็บไซต์ phunuphapluat รายงานเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งในเวียดนาม เมื่อผู้เป็นพ่อแม่ยุ่งอยู่กับงานกว่าครึ่งเดือน แต่เมื่อเริ่มจะเคลียร์งานได้ ทั้งคู่ก็พบว่าลูกสาวอายุ 13 ปี มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป
ผู้เป็นแม่ เล่าว่า เธอสังเกตเห็นว่าลูกสาวมักจะชอบอยู่ในห้องพร้อมล็อกประตูล็อก และลูกสาวมักจะอยู่ในสภาพเหม่อลอย และสายตาเมินเฉย แม้เธอจะเข้าใจว่าลูกสาวอายุ 13 ปีแล้ว ต้องการพื้นที่ส่วนตัว แต่ด้วยสัญญาณเหล่านี้จากเด็ก ทำเอาเธอและสามีอดไม่ได้ที่จะสงสัยและกังวลว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับลูกสาว
แต่ทุกครั้งที่พ่อแม่ต้องการพูดหรือถามคำถาม ลูกจะพยายามเมินเฉยหรือเลือกที่จะเงียบและฟังโดยไม่พูดอะไร
เพื่อดูว่าลูกสาวซ่อนอะไรไว้ไม่ให้พ่อแม่ เธอจึงแอบเข้าไปในห้องของลูกเพื่อตรวจสอบในขณะที่ลูกสาวอาบน้ำ เมื่อมาถึงจุดนี้ เธอก็ต้องตื่นตระหนกเมื่อพบว่าลูกของเธอใช้โทรศัพท์มือถือเล่นเกม แต่มันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น บทสนทนาที่พบในมือถือทำให้เธอตกใจมาก
เมื่อนึกถึงใบหน้าเหม่อลอยและสายตาที่เป็นกังวลของลูกสาวในช่วงเวลานี้ เธอรู้ทันทีว่าลูกสาวถูกหลอกลวงและเป็นหนี้เงินจำนวนมาก ด้วยความตื่นตระหนกมากจึงรีบโทรแจ้งตำรวจทันทีเพื่อทำการสอบสวน
ในข้อความที่คุยกับคนแปลกหน้า ลูกสาวของเธอถูกขู่ด้วยคำพูดที่หยาบคาย อีกฝ่ายข่มขู่ให้ลูกสาวหาทางหาเงินหลายสิบล้านดองเพื่อจ่ายให้พวกเขาที่สูญเสีย
หลังจากเหตุการณ์ถูกเปิดเผย ลูกสาวของฉันก็ตกอยู่ในอาการหวาดกลัวและกระทบกระเทือนจิตใจเป็นเวลาหลายวัน แต่เธอและสามีคอยดูแลลูกอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ ซึ่งเธอและสามีเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ละเลยและปล่อยให้ลูกสาวใช้โทรศัพท์มือถือ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็เกิดจากความผิดของคนเป็นพ่อแม่ที่ละเลย ดังนั้นเธอและสามีจึงไม่เลือกที่จะดุหรือวิพากษ์วิจารณ์ลูก เพราะจะสร้างความกดดันให้กับลูกมากขึ้น แต่จะสอนลูกอย่างอดทน
ที่จริงแล้ว สถานการณ์ที่คล้ายกับลูกสาวของเธอก็เกิดขึ้นกับเด็กคนอื่น ๆ ได้เช่นกัน และมันจะส่งผลเสียต่อพวกเขาไม่มากก็น้อย และไม่อยากให้ใครอยู่ในสถานการณ์เดียวกันนี้ จึงอยากแบ่งปันเรื่องราวครอบครัวของตัวเองเพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ และมองว่าเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่าในการดูแลและให้ความรู้กับลูกของพวกเขา เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ร้าย ๆ ไม่ให้เกิดขึ้นอีก