ไม่ไว้ใจเมีย ผัวดื้อตรวจ DNA "ลูกคนกลาง" ผลยืนยันลูกแท้ๆ แต่ทำบ้านแตกใน 2 วัน

ไม่ไว้ใจเมีย ผัวดื้อตรวจ DNA "ลูกคนกลาง" ผลยืนยันลูกแท้ๆ แต่ทำบ้านแตกใน 2 วัน

ไม่ไว้ใจเมีย ผัวดื้อตรวจ DNA "ลูกคนกลาง" ผลยืนยันลูกแท้ๆ แต่ทำบ้านแตกใน 2 วัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เห็นหน้า "ลูกคนกลาง" แล้วไม่ไว้ใจเมีย ผัวดื้อตรวจ DNA สุดท้ายผลยืนยันเป็นลูกแท้ๆ แต่ต้องสูญเสียทั้งครอบครัว

ชายชาวต่างชาติโพสต์ใน Reddit ฟอรัมยอดนิยมทางฝั่งอเมริกา บอกเล่าเรื่องราวการตรวจ DNA ทำลายชีวิตแต่งงานและครอบครัวที่ยาวนานถึง 12 ปี หลังจากเขาสงสัยว่าลูกชายคนที่สอง ไม่ใช่ลูกทางสายเลือดของเขา และบังคับให้ครอบครัวเข้ารับการตรวจ DNA แม้ว่าผลการตรวจจะยืนยันว่าทั้งสองเป็นพ่อลูกแท้ๆ แต่ก็ถูกภรรยายื่นฟ้องหย่าภายใน 48 ชั่วโมงหลังการทดสอบ อีกทั้งลูกๆ ทุกคนก็ปฏิเสธที่จะคุยกับเขา

สามีวัย 37 ปี กล่าวว่า เขามักจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจเมื่อมองลูกชายคนที่สองของเขาอยู่เสมอ และอดไม่ได้ที่จะคิดว่า “เขาไม่ได้เกิดมาจากผม” เนื่องจากในบรรดาลูกทั้งสามคน คนที่สองเป็นคนเดียวที่ดูไม่เหมือนเขา หรือครอบครัวของทั้งสองฝ่ายเลย แม้ว่าภรรยาจะนำรูปปู่ทวดของเธอมาพิสูจน์ว่าดูคล้ายลูกชายคนที่สองแค่ไหน แต่ก็ยังไม่สามารถระงับความต้องการของเขาที่จะตรวจสอบความสัมพันธ์ทางสายเลือด

เขายอมรับว่าในตอนนั้นมักเพิกเฉยต่อความคิดและความรู้สึกของภรรยา และเดินหน้าทำการทดสอบความสัมพันธ์ทางสายเลือดอย่างจริงจัง แม้สุดท้ายแล้วหลักฐานทางวิทยาศาสตร์จะยืนยันว่า ลูกชายคนที่สองเป็นลูกแท้ๆ ในสายเลือดของเขาจริง แต่เขาก็ได้สัมผัสความรู้สึกโล่งใจและสงบนั้นไม่ถึง 48 ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อภรรยาที่เธอถูกกล่าวหาว่านอกใจ ตัดสินใจจะพาลูกๆ กลับไปอาศัยอยู่ที่บ้านของพ่อแม่เธอระยะหนึ่ง

ในตอนนั้นเขายังคงไม่ทราบถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ จึงถามออกไปว่า "ทำไม?" และได้รับคำตอบอย่างโกรธเคืองจากภรรยาว่า "ฉันกำลังพิจารณาหย่าอย่างจริงจัง ฉันจะไม่ให้อภัยคุณสำหรับทุกสิ่งที่คุณทำให้ลูกชายต้องเจอ คุณมักจะทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังนอกใจ และปฏิบัติต่อลูกชายของฉันเหมือนขยะ"

หลังจากเห็นว่าภรรยาความไม่พอใจของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมา และในเวลานี้ยังไม่เต็มใจที่จะฟังคำอธิบายใดๆ ตอนนี้เขาจึงเริ่มฉุกคิดในสิ่งที่เขาทำลงไปกับครอบครัวตัวเอง จากนั้นก็รู้สึกเจ็บปวดในใจกับผลลัพธ์ที่ตามมา เพราะภรรยายังคงต้องการหย่าร้าง อีกทั้งลูกๆ ทั้งสามก็ปฏิเสธที่จะคุยกับเขาด้วยเช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook