แอร์โรงแรมหรู ล็อกไว้ที่ 26 องศา ลูกค้าอึ้ง พนง.แนะวิธี "คลายร้อน" ฟังแล้วยิ่งหงุดหงิด

แอร์โรงแรมหรู ล็อกไว้ที่ 26 องศา ลูกค้าอึ้ง พนง.แนะวิธี "คลายร้อน" ฟังแล้วยิ่งหงุดหงิด

แอร์โรงแรมหรู ล็อกไว้ที่ 26 องศา ลูกค้าอึ้ง พนง.แนะวิธี "คลายร้อน" ฟังแล้วยิ่งหงุดหงิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มันไม่ฉ่ำ!!! จ่ายแพงเกือบ 8,000 นอนโรงแรมระดับไฮเอนด์ แต่แอร์เปิดได้เฉพาะ 26 องศาเท่านั้น ฟังพนักงานแนะวิธี "คลายร้อน" ยิ่งหงุดหงิดกว่าเดิม

กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ของไต้หวัน เมื่อมีชาวเน็ตแบ่งปันประสบการณ์ท่องเที่ยวลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก 爆料公社公開版  โดยบอกว่าเขาใช้เงิน 7,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 7,730 บาท) เพื่อเข้าพักที่โรงแรม H ซึ่งเป็นที่พักระดับไฮเอนด์

อย่างไรดี หลังจากเช็คอินเขาก็พบว่าเครื่องปรับอากาศไม่เย็นฉ่ำอย่างที่ควร และอุณหภูมิไม่สามารถปรับได้ เนื่องจากอากาศร้อนมากสุดท้ายจึงต้องขอความช่วยเหลือจากพนักงานโรงแรม

แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นคำตอบที่ไม่คาดคิดเข้าไปอีก "อุณหภูมิตั้งไว้คงที่แล้วค่ะ หาดต้องการฉันจะให้พัดลมไฟฟ้าแก่คุณ", "เครื่องปรับอากาศปรับอุณหภูมิไม่ได้ค่ะ ปรับได้แค่ปริมาตรลมเท่านั้น" , “แรงลมเปิดถึงขีดสุดแล้วค่ะ”

คำตอบทั้งสามครั้งนั้นล้วนแล้วแต่ชวนตกตะลึง และไม่ได้ช่วยอะไรเลยแม้แต่น้อย เพราะปัญหาพื้นฐานยังไม่ได้รับการแก้ไขจนสุดท้ายเขาต้องระบายความไม่ประทับใจกลับไปว่า “สวัสดี ผมไม่ได้จ่ายเงินเปิดห้องวันหยุด เพื่อค่าแอร์ 26 องศา + พัดลมไฟฟ้า! คิดให้ดีหน่อย!”

หลังจากโพสต์นี้ถูกเปิดเผยออกมา ก็ทำให้เกิดกระแสถกเถียงกันอย่างดุเดือดในหมู่ชาวเน็ต "คุณกลัวแขกระเบิดเวลาเปิดร้านอาหารเหรอ?"

"จ่ายเงิน 7,000 แต่ขอปรับแอร์ยังไม่ได้เลยเหรอ....."

"ที่บ้านผมเปิดแอร์อุณหภูมิ 26 องศา + พัดลมไฟฟ้า  มันก็ได้ผลจริงๆ แหละครับ แต่จ่ายราคาห้อง 7,000 อย่างน้อยแอร์ก็ต้องเย็นพอครับ..."

"เวลาไปนอนโรงแรมฉันต้องเปิดอุณหภูมิ 21 องศาทุกที"

"เกินงบนิดหน่อย 7,000 แต่ปรับแอร์ไม่ได้ ราคานี้มันจำกัดอุณหภูมิแอร์ด้วยเหรอ"

อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการตอบสนองต่อประเด็นร้อนแรงนี้ ทางโรงแรมได้ชี้แจงว่า เครื่องปรับอากาศในห้องสามารถปรับอุณหภูมิได้ และไม่ใช่ว่าบังคับเปิดที่ 26 องศาเท่านั้น ทั้งนี้ ลูกค้ารายนี้ได้ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนห้อง และภายหลังจากที่เขาเช็คเอาท์ ก็ตอบตกลงรับคืนเงินเต็มจำนวนแล้วด้วย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook