สรุปดราม่า ก้าวไกล ปะทะ รองประธานสภาฯ ปมเสิร์ฟ "ปลาหมอคางดำ" ในห้องอาหาร สส.
สรุปดราม่า ณัฐชา ก้าวไกล ปะทะ พิเชษฐ์ รองประธานสภาฯ ปมเสิร์ฟ "ปลาหมอคางดำ" ในห้องอาหาร สส. ที่รัฐสภา
ประเด็นดราม่าปลาหมอคางดำ บุกมาถึงสภา โดยวันนี้ อนุกรรมกรรมาธิการ ได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณา และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง ซึ่งในช่วงมื้อเที่ยง สส. ณัฐชา จากพรรคก้าวไกลได้นำเมนูข้าวปลาแกะ ปลาหมอคางดำทอด เข้ามาเสิร์ฟที่ห้องอาหาร สส. ชั้น 2 แต่ถูกรองประธาน “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” ห้ามไว้ จนต้องนำเมนูดังกล่าว ลงมาแถลงข่าวและแจกจ่ายให้กับสื่อมวลชนแทน
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ เริ่มขึ้นในเวลา 09.00 น. โดยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เปิดให้ สส. นำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในแต่ละพื้นที่เข้าหารือ โดยเฉพาะปัญหาฝนตกหนัก ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยและจัดสรรงบประมาณให้ท้องถิ่นเพื่อแก้ปัญหาโดยเร็ว
จากนั้น ที่ประชุมมีวาระพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไปรัฐบาลหลายเรื่อง รวมถึงวาระที่ค้างพิจารณา 56 เรื่อง ขณะเดียวกัน วันนี้มีคณะกรรมธิการหลายคณะประชุมวาระสำคัญ โดยคณะอนุกรรมาธิการ พิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ ที่มี นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ เปิดเผยว่า วันนี้ ได้เชิญผู้แทนจากบริษัทเอกชน ที่นำเข้าปลาหมอคางดำ มาชี้แจง แต่ผู้แทนเอกชนดังกล่าว ไม่ได้มาร่วมการประชุม แต่ส่งเอกสารมาชี้แจงแทน
ส่วนในสัปดาห์เตรียมเชิญสำนักงานกฤษฎีกาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาประเมินความเสียหายสิ่งแวดล้อม พร้อมแนะนำภาครัฐฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการทำลายระบบนิเวศ และเรียกร้องรัฐบาลแสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ ช่วงบ่ายวันนี้ทางพรรคฝ่ายค้านทั้งหมดได้หารือกับประธานวิปฝ่ายค้านแล้ว โดยทีมอภิปรายของพรรคก้าวไกลทั้ง 13 คน ที่รวบรวมข้อมูลเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อตั้งญัตติด่วนด้วยวาจาเสนอไปยังรัฐบาล
ห้ามถ่ายภาพตอน สส. กินปลาหมอคางดำ
อย่างไรก็ตาม ก็มีประเด็นดราม่าเกิดขึ้นเกี่ยวกับปลาหมอคางดำ โดย สส.ณัฐชา จากพรรคก้าวไกล ได้นำเมนูข้าวปลาแกะ (ปลาหมอคางดำทอด) น้ำจิ้มซีฟู้ด เข้ามาเสิร์ฟมื้อเที่ยง ที่บริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องรับประทานอาหารของ สส. ซึ่งในระหว่างที่นำเข้ามาในห้องอาหารบรรดา สส.จากพรรคก้าวไกล ก็ถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ และได้รับการประสานว่า ห้ามถ่าย จึงเป็นข้อถกเถียงกันจนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องขอความร่วมมือให้ยกเมนูนี้ออกจากห้องไป
จากนั้น สส.ณัฐชา จึงลงมาแถลงข่าว พร้อมกับรถเข็นเมนูอาหาร ข้าวปลาแกะปลาหมอคางดำ ต่อหน้าสื่อมวลชนว่า วันนี้เตรียมปลาหมอจากชาวเกษตรกร เขตบางขุนเทียน 20 กิโลกรัม ให้ สส.ได้ลองชิมในมื้อเที่ยง แต่ก็ถูก นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ห้ามไม่ให้นำเข้ามาในห้องอาหาร ตนไม่เข้าใจ ทำไมถึงต้องห้าม จึงได้นำลงมาให้สื่อมวลชนได้ลองชิมพร้อมกับได้ชิมโชว์สื่อ และตั้งข้อสังเกตว่า ปลาหมอทอด ยังเอามาให้ สส. กินไม่ได้ จึงกังวลว่าญัตติที่จะเสนอวันนี้จะได้หรือไม่
"พิเชษฐ์" รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ชี้ทำตามกฎ
ล่าสุด ในช่วงค่ำของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจาขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำและการจัดการสายพันธุ์ต่างถิ่นรุกรานเพื่อส่งให้รัฐบาลพิจารณาดำเนินการต่อไป ซึ่งนายพิเชษฐ์ได้ขึ้นทำหน้าที่ที่ประธานในที่ประชุม จึงชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ห้องของ สส.เป็นเขตหวงห้าม สามารถเข้าได้เฉพาะ สส.เท่านั้น ซึ่งนายณัฐชาได้นำ ผู้ช่วย สส. ช่างภาพเข้าไปเพื่อจะให้ สส.ได้ลองชิม แม้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะห้าม แต่นายณัฐชาก็ไม่ฟัง เจ้าหน้าที่จึงได้รายงานให้ตนทราบว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น จึงบอกกับเจ้าหน้าที่ไปว่าจะใช้อภิสิทธิ์เช่นนี้ไม่ได้ ผู้ติดตามก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปได้ มิหนำซ้ำยังจะนำช่างภาพขึ้นไปถ่ายด้วย พื้นที่โรงอาหารเป็นพื้นที่หวงห้ามเฉพาะ สส.เท่านั้น
นายพิเชษฐ์กล่าวต่อว่า ส่วนที่นายณัฐชาบอกว่านำอาหารมาให้ สส.ชิม แม้จะเป็นหูฉลามก็ตาม สส.ถือเป็นตัวแทนของประชาชน แต่หากเป็นพิษขึ้นมา ฉะนั้น ทุกอย่างต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ จึงอยากให้นายณัฐชาทราบว่าหลักเกณฑ์และข้อบังคับเป็นสิ่งสำคัญของสถานที่แห่งนี้ เราต้องรักษากฎระเบียบไว้ ย้ำว่าบุคคลภายนอกเราไม่สามารถอนุญาตให้เข้าไปได้ หากจะเข้าไปต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร
ทำให้นายณัฐชาโต้ว่า ตนได้อภิปรายเหตุผลการนำปลาหมอคางดำทอดเข้ามาในสภาแล้ว และก็นำไปที่ห้องอาหาร ไม่ได้นำไปที่ห้องประชุม ซึ่งตนก็ทราบจากเจ้าหน้าที่ว่าต้องแจ้งให้ทราบ จึงให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวดำเนินการเพื่อแจ้งให้ทราบ ส่วนที่ต้องนำผู้ช่วย ส.ส.เข้ามานั้นก็เพราะปลามีจำนวน 20 กิโลกรัม และตนก็เห็นเป็นปกติเวลาที่รัฐมนตรีเดินแล้วมีเหาฉลามเดินตาม ก็ไม่ได้ขออนุญาต และเดินผ่านห้องอาหาร จึงคิดว่าการเดินนำอาหารมาให้เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ และคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย
“ผมไม่ได้มาหว่านข้าวในสภา ผมไม่ได้เอาปลาหมอคางดำปล่อยในสระมรกต สิ่งที่ผมทำผมทำถูกต้อง สิ่งที่ผมทำคือยกมาให้เพื่อน สส.ที่เป็นตัวแทนของทุกจังหวัดให้เขาลองชิม เพื่อจะได้นำไปบอกกับประชาชนต่อได้ ไม่ได้เอามาให้กินอิ่ม ย้ำว่าผมแค่ให้ผู้ช่วยยกมาช่วย ไม่ได้นำมากินข้าว ขณะที่ช่างภาพที่ผมพาขึ้นมานั้น ก็ไม่ใช่ไปขอที่อื่น แต่ผมขอช่างภาพของทีวีสภา เพราะผมเกรงใจว่าพื้นที่นี้เป็นของสภา ผมแค่ต้องการจะสื่อสารเรื่องพวกนี้ ที่บอกว่าผมใช้อำนาจบาตรใหญ่นั้นไม่ใช่ มันเป็นส่วนหนึ่งของการนำเสนอ” นายณัฐชา กล่าว
จากนั้นนายพิเชษฐ์จึงกล่าวว่า มันไปรบกวนสิทธิส่วนบุคคล เขตหวงห้าม ยิ่งนำสื่อเข้าไปยิ่งไม่ได้ หากแถลงข่าวก็สามารถทำได้ คิดว่าเราจบหรือไม่
นายณัฐชาจึงอธิบายเหตุผลซ้ำอีกครั้ง ก่อนจะกล่าวว่า ตนเคารพนายพิเชษฐ์ และต้องขอโทษหากทำให้เรื่องบานปลาย แต่ย้ำว่าแค่ต้องการนำเสนอปัญหาของประชาชน