งงทั้งวัด เผาศพพ่อลูกไม่เก็บกระดูก ทิ้งไว้ให้สัปเหร่อจัดการ อ้างนับถือคนละศาสนา

งงทั้งวัด เผาศพพ่อลูกไม่เก็บกระดูก ทิ้งไว้ให้สัปเหร่อจัดการ อ้างนับถือคนละศาสนา

งงทั้งวัด เผาศพพ่อลูกไม่เก็บกระดูก ทิ้งไว้ให้สัปเหร่อจัดการ อ้างนับถือคนละศาสนา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
งานศพพ่อจัดด้วยเงินบริจาค ลูกไม่ทำอะไรเลย ไม่เก็บกระดูกทิ้งให้สัปเหร่อ-คนใจบุญจัดการทุกอย่าง อ้างนับถือคนละศาสนา
กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความระบุว่า "ผมไม่รู้หรอกว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไร แต่ความคิดมันต้องมีกันทุกคนมั้ยครับ #นี่พ่อนะครับ ยกโลง ยังไม่ช่วยกันเลย อ้างว่า ศาสนาไม่ให้ยก เก็บกระดูกก็ไม่มา แถมให้เราเอากระดูกพ่อตัวเองไปไหนก็ได้ เพราะพ่อตัวเองไปอยู่กับพระเจ้าแล้ว แต่ภาระทุกอย่างอยุ่กับใคร กุงง เด๋วผมขออนุญาตเอากระดูกพ่อไปลอยให้นะครับ นี้กุอยุ่ที่ไหนวะเนี่ย"  

หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจนเกิดกระแสดราม่าเช่น "พ่อตัวเองแท้ๆ" , "น่าจะแยกแยะหน่อย พ่อคือพ่อ ศาสนาคือศาสนา" "นี่คือพ่อคุณนะต่อให้คุณนับถือศาสนาอะไรก็เถอะพ่อให้กำเนิดคุณ คุณทำกับพ่อคุณแบบไหนลูกคุณจะทำกับคุณแบบที่คุณทำกับพ่อคุณแหละ"
ทีมข่าวจึงลงพื้นที่ วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ บ้านเพ ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อติดตามสอบถามข้อมูลที่เท็จจริง กับนายอัศนี ไกรวัลย์ อายุ 26 ปี สัปเหร่อ ที่ทำพิธีให้กับผู้ล่วงลับ ว่าเหตุการณ์ที่ ผู้ใช้เฟซบุ๊กนำข้อมูลไปโพสต์จนเกิดกระแสดราม่าเป็นเหตุการณ์จริงหรือไม่
นายอัศนี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 67 ตนได้ทำพิธีฌาปนกิจชายผู้ล่วงลับ ตนเองก็ดูแลจัดการทำพิธีจนจบ จนถึงขั้นตอนสุดท้ายคือแปรธาตุหรือเก็บอัฐเถ้ากระดูกไปประกอบพิธี ต่อมาทางญาติผู้ล่วงลับได้ติดต่อมาว่าไม่สะดวกเดินทางมา ให้ตนเองจัดการได้เลย ตนเองจึงเก็บอัฐิเถ้ากระดูกให้พระสวดบังสุกุลแล้วนำห่อผ้าขาวไว้ วันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.67) จะนำไปไปลอยอังคารทำบุญเป็นครั้งสุดท้ายให้กับผู้ล่วงลับ โดยหลังจากทำทุกอย่างเสร็จแล้ว มาทราบข้อมูลภายหลังจากญาติผู้ล่วงลับว่า เค้านับถือต่างศาสนาซึ่งเค้าอาจจะมีเหตุผลส่วนตัวที่ไม่สามารถมาเก็บ อัฐิเถ้ากระดูกผู้ล่วงลับไปประกอบพิธีได้ ตนเองจึงจัดการให้เรียบร้อยก็คิดซะว่าเค้าก็ญาติเราคนนึง
อย่างไรก็ตามทีมข่าวก็ได้ติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์ ซึ่งเป็นทีมงานสะพานบุญบ้านเพที่ได้มีการช่วยเหลือในการจัดงานศพครั้งนี้ นายเฉลิมเกียรติ  รัตนรินทร์ อายุ 47 ปี หรือ “แมนสะพานบุญบ้านเพ” ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 67 ผู้ล่วงลับนั้นเป็นชาย อายุ 78 ปี ได้เสียชีวิตที่ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ต่อมาญาติของผู้ล่วงลับชื่อ “คุณก. (นามสมมุติ)” ได้ติดต่อมาขอความช่วยเหลือมาที่ทาง “เพจสะพานบุญบ้านเพ” เพราะไม่มีเงินจัดงานศพ ทางเพจสะพานบุญบ้านเพจึงเปิดรับบริจาคจนได้เงินจำนวนหนึ่งมาจัดพิธีงานศพให้ โดยตั้งสวดไว้ 1 คืน กระทั่งวันที่ 23 ก.ค. 67 ได้ทำพิธีฌาปนกิจ ที่วัดแห่งหนึ่งใน ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง 
ขณะที่ญาติมาร่วมงานไม่มีใครช่วยยกโลงผู้เสียชีวิตเพื่อเคลื่อนรอบเมรุ และขึ้นเมรุเลย โดยอ้างว่าติดขัดเรื่องศาสนาที่นับถืออยู่ ตนก็ งงๆ เพราะโดยส่วนตัวก็คิดว่า นี่คือพ่อเค้านะ และเป็นวาระสุดท้ายของผู้วายชนม์ จนสุดท้ายทางทีมสะพานบุญบ้านเพและชาวบ้านรวมถึงสัปเหร่อ ก็ช่วยกันจนงานจบ โดยต่างก็เข้าใจว่า คงติดขัดเรื่องศาสนาจึงไม่ได้ว่าอะไร

ล่าสุด เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 25 ก.ค. 67 ที่ ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง นายอัศนี ไกรวัลย์ อายุ 26 ปี สัปเหร่อ พร้อมด้วย นายเฉลิมเกียรติ รัตนรินทร์ อายุ 47 ปี หรือ แมนสะพานบุญบ้านเพ ได้ลงเรือไปกลางทะเล เพื่อลอยอังคารอัฐิเถ้ากระดูก ชายอายุ 78 ปี หลังมีกระแสดราม่า ลูกได้ทิ้งอัฐิเถ้ากระดูกของพ่อไว้ให้สัปเหร่อจัดการ หลังจากเรือแล่นถึงจุดเหมาะสมในทะเล สัปเหร่อได้จุดธูป ท่องคาถา โรยดอกไม้ ลงบนอัฐิเถ้ากระดูก จากนั้น แมนสะพานบุญบ้านเพ เป็นผู้นำอัฐิเถ้ากระดูกลอยอังคารลงในทะเล เป็นการอำลาครั้งสุดท้ายที่ช่วยเหลือ ตั้งแต่ช่วยหาเงินค่าทำศพ จัดงานศพ ฌาปนกิจ ยันลอยอังคาร โดยปราศจากบุตรสาวของชายผู้ล่วงลับดังกล่าว ด้วยการอ้างว่านับถือต่างศาสนาจึงไม่สามารถทำพิธีให้บุพการีได้ จากนั้นเรือได้แล่นวน จุดลอยอังคาร 3 รอบเป็นอันเสร็จสิ้นพิธี

นายเฉลิมเกียรติ กล่าวว่า วันนี้ก็ได้นำอัฐิเถ้ากระดูก ของคุณตาวัย 78 ปี มาลอยอังคารเรียบร้อยแล้วโดยผู้ใจบุญให้ใช้เรือเร็วฟรีในการลอยอังคารอัฐิเถ้ากระดูกครั้งนี้ สำหรับตนก็เป็นคนอื่นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ล่วงลับ แต่ก็ช่วยเหลือตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายทำให้ดีที่สุด ตนคิดว่าการที่จะให้ตนเอาอัฐิเถ้ากระดูกไปฝั่งดิน ตามที่ลูกสาวผู้ล่วงลับบอก เราทำใจไม่ได้ก็ต้องนำมาลอยอังคารซึ่งถูกต้องตามจารีตประเพณีชาวพุทธแบบนี้

สำหรับตนคิดว่า ไม่ว่าเราจะนับถือศาสนาไหนบุพการีตนคิดว่าคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับลูกแล้ว อย่างไรก็ตามนี่คือเรื่องราวกระแสดราม่าของ ชายอายุ 78 ปี ที่เสียชีวิตลงแล้ว แต่ถูกลูกสาวทิ้งอัฐิเถ้ากระดูกไว้ให้สัปเหร่อจัดการ กับการอ้างด้านการนับถือต่างศาสนา และวันนี้ สัปเหร่อ และแมนสะพานบุญได้นำอัฐิเถ้ากระดูกมาลอยอังคารเพียงลำพัง โดยไร้เงาบุตรสาวของ ชายวัย 78 ปี สุดท้ายนี้ก็ขอให้ผู้ล่วงลับไปสู่สุขติ  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook