หมอประชา เตือนภัย พบผู้ป่วยเส้นเลือดอุดตันในสมอง ต้นเหตุจาก "กาแฟ" ที่มีแทบทุกบ้าน

หมอประชา เตือนภัย พบผู้ป่วยเส้นเลือดอุดตันในสมอง ต้นเหตุจาก "กาแฟ" ที่มีแทบทุกบ้าน

หมอประชา เตือนภัย พบผู้ป่วยเส้นเลือดอุดตันในสมอง ต้นเหตุจาก "กาแฟ" ที่มีแทบทุกบ้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นพ.ประชา กัญญาประสิทธิ์ หมอผ่าตัดสมอง ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบประสาท โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม โพสต์เตือนภัยเรื่องดื่มกาแฟบางประเภท อาจก่อให้เกิดโรคเส้นเลือดอุดตันในสมอง โดยยกเคสผู้ป่วยหญิงอายุ 41 ปี หลังทานข้าวเสร็จ ลุกขึ้นแล้วหน้ามืดล้มลง อ่อนแรงแขนขาข้างขวา ทั้งที่ไม่มีโรคประจำตัว

หมอประชาระบุว่า หลังทำ MRI พบว่าคนไข้มีส่วนของสมองตายบริเวณสมองซีกซ้าย โดนไฟเบอร์ที่สำคัญทำให้อ่อนแรงซีกขวา โดยตำแหน่งที่สมองตายเพราะขาดเลือด เป็นกลุ่มของเส้นเลือดฝอย ซึ่งเป็นแขนงของเส้นเลือดแดงใหญ่ เส้นเลือดนี้ วิ่งขึ้นไปเลี้ยงสมองส่วนที่ตาย คนไข้น้ำหนัก  80 กก. สูง 150 ซม. BMI 35

สามีเล่าว่าเมียชอบทานกาแฟ 3 อิน 1 วันละหลายแก้วมาเป็นสิบปี ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ 300 กว่า โดยไขมันดี High Density Lipoprotein (HDL) ต่ำ คอเลสเตอรอล LDL 200 กว่า ปฏิเสธการมีโรคประจำตัว เพราะไม่เคยตรวจ หลังทำ MRI

เคสนี้มีความเสี่ยง 2 อย่าง ที่ทำให้เส้นเลือดฝอยตัน ความเสี่ยงแรก คือ ไขมันสูงมาก จากการดื่มกาแฟ 3 in 1 ทุกวัน วันละหลายซอง และความเสี่ยงที่ 2 คือ คนไข้เป็นคนเจ้าเนื้อ น้ำหนักเยอะ โรคอ้วนมักมาพร้อมกับอาการอัมพาต แม้ไม่ป่วยโรคเบาหวาน แต่น้ำตาลเริ่มสูงผิดปกติเล็กน้อย เคสนี้ก็เป็นอุทาหรณ์

สำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟหวานๆ มันๆ ทุกวัน แล้วไม่ได้ออกกำลังกายไม่ได้ห้ามให้ดื่ม แต่ดื่มนานๆ ครั้งได้ ไม่ควรดื่มทุกวัน วันละหลายๆ ซอง หากติดกาแฟมากควรดื่มกาแฟดำดีกว่า ไม่มีครีมเทียม ไม่มีไขมัน ไม่มีน้ำตาล”

หมอประชากล่าวต่อว่า การรักษาเคสนี้ ให้ยาละลายทางหลอดเลือดดำ อาการดีขึ้น แนะนำว่าหากยังเลิกดื่มกาแฟไม่ได้ ให้เปลี่ยนจากกาแฟ 3 in 1 มาเป็นกาแฟดำ ร่วมกับการลดน้ำหนัก กินยาต้านเกล็ดเลือดเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำ กินยาลดไขมันและออกกำลังกาย

สโตรก(โรคหลอดเลือดสมอง) เป็นโรคที่ป้องกันได้ โดยคุมปัจจัยเสี่ยง ความดันเลือด เบาหวาน ไขมัน อ้วน เครียด เหล้า บุหรี่ อายุเกิน 30 ปีขึ้นไป ควรไปตรวจสุขภาพและตรวจเลือดดูไขมัน เบาหวาน ความดัน เพราะทั้ง 3 โรคนี้ อาจแอบเป็น รู้ตัวอีกทีก็หามมาส่ง รพ.แล้ว อย่าบอกว่าไม่มีโรคประจำตัวเพราะไม่เคยตรวจ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook