ประวัติ "หลวงปู่โต๊ะ" วัดประดู่ฉิมพลี เกจิผู้สร้างวัตถุมงคลเลื่องชื่อ พระปิดตาปลดหนี้

ประวัติ "หลวงปู่โต๊ะ" วัดประดู่ฉิมพลี เกจิผู้สร้างวัตถุมงคลเลื่องชื่อ พระปิดตาปลดหนี้

ประวัติ "หลวงปู่โต๊ะ" วัดประดู่ฉิมพลี เกจิผู้สร้างวัตถุมงคลเลื่องชื่อ พระปิดตาปลดหนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประวัติ "หลวงปู่โต๊ะ" วัดประดู่ฉิมพลี เกจิผู้สร้างวัตถุมงคลเลื่องชื่อ พระปิดตาปลดหนี้ พุทธคุณรอบด้าน ได้รับความนิยมแม้ท่านมรณภาพไปนานกว่า 43 ปี

พระราชสังวราภิมณฑ์ (โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ) วัดประดู่ฉิมพลี  เป็นเถราจารย์ที่ผู้คนนับถืออย่างกว้างขวาง มีพระเครื่อง พระปิดตา เป็น วัตถุมงคลเอกของท่าน ด้วยวัตรอันปฏิบัติอันงดงามเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพุทธทุกชนชั้น ท่านถึงพร้อมด้วยบุญบารมีและอิทธิบารมี พระเครื่องของท่านมีปาฏิหาริย์ศักดิ์สิทธิ์ มีประสบการณ์เล่าขานมากมายจากเหนือจดใต้ทั่วประเทศไทย จนกลายเป็นพระหลักยอดนิยมของเมืองไทย และหลวงปู่โต๊ะเป็นภิกษุที่อยู่ในตำแหน่งเจ้าอาวาสยาวนานถึง 68 ปี 

หลวงปู่โต๊ะ เกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2430 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านเป็นชาวสมุทรสงครามโดยกำเนิด เป็นบุตรของนายพลอย และนางทับ รัตนคอน มีพี่น้องอยู่ร่วมกัน 2 คน ซึ่งถึงแก่กรรมก่อนหลวงหลวงปู่โต๊ะตั้งนานแล้ว ในวัยเด็ก เด็กชายโต๊ะ ได้เข้าเรียนวิชาอยู่ที่วัดเกาะแก้ว (จังหวัดสมุทรสงคราม) ใกล้บ้านเกิดของท่าน เมื่อมารดาถึงแก่กรรม พระภิกษุแก้ว เห็นความขยันหมั่นเพียรของเด็กชายโต๊ะ จึงได้พาเด็กชายโต๊ะ มาฝากอยู่กับพระอธิการสุข เจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลีในสมัยนั้น ท่านได้มาเรียนหนังสืออยู่ที่วัดประดู่ฉิมพลีอยู่เป็นเวลาอยู่ 4 ปี ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 17 ปี  เมื่อปี พ.ศ. 2447 โดยมีพระอธิการสุขเป็นอุปัชฌาย์

บรรพชาได้วันเดียวพระอธิการสุข ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์และผู้อุปการะของท่านก็ได้มรณภาพ นายคล้าย นางพันธ์ ซึ่งเป็นพี่ชายกับพี่สะใภ้ของพระอธิการสุข และมีบ้านอยู่ใกล้วัดประดู่ฉิมพลีจึงได้อุปการะท่านต่อมา เมื่อบรรพชาแล้ว ท่านก็มาเรียนศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ที่ วัดประดู่ฉิมพลี ซึ่งต่อมามีพระอธิการคำ เป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา พร้อมทั้งเรียนกรรมฐานกับพระอาจารย์พรหม วัดประดู่ฉิมพลีอีกท่านหนึ่งด้วย

จนกระทั่งเมื่อมีอายุได้ 20 ปี สามเณรโต๊ะ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2450 ณ พัทธสีมา วัดประดู่ฉิมพลี โดยมีพระครูสมณธรรมสมาทาน (แสง) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูอักขรานุสิต (ผ่อง) วัดนวลนรดิศ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูธรรมวิรัต (เชย) วัดกำแพง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า อินทสุวัณโณ หลังจากนั้น ท่านได้เรียนศึกษาปฏิบัติคันทธุระ วิปัสสนาธุระ จนกระทั่งสอบได้นักธรรมชั้นตรี ต่อมาพระอธิการคำ ได้มรณภาพลง ทางคณะสงฆ์จึงได้แต่งตั้งท่านให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลีสืบต่อมาเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2456

หลวงปู่โต๊ะ ได้ออกธุดงค์จาริกไปทั่วทุกภาคในประเทศไทย ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ท่านได้ไปศึกษาพระปริยัติธรรม โดยได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ เรียนวิชาพุทธาคม และได้ไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับ หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน และก็ได้ธุดงค์ไปยังภาคเหนือเพื่อศึกษาวิชากับพระอาจารย์อีกหลายท่าน และในขณะที่ท่านเดินธุดงค์ ท่านก็ได้เรียนวิปัสสนากรรมฐานกับ หลวงพ่อชุ่ม วัดราชสิทธาราม ส่วนสหธรรมิกของท่านที่มีชื่อเสียงได้แก่ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง หลวงพ่อกล้าย วัดหงส์รัตนาราม และต่อจากนั้น ท่านก็เดินทางไปยังภาคใต้ ไปที่จังหวัดปัตตานี และเมื่อหลวงปู่ท่านกลับมาที่ จังหวัดธนบุรี กลับมายังวัดประดู่ฉิมพลี ท่านก็ได้สร้างพระพุทธบาทจำลอง

หลวงปู่โต๊ะ ท่านได้เริ่มอาพาธด้วยโรคชรา เนื่องจากว่า ตั้งแต่ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ มีผู้คนมานิมนต์ท่านให้ออกมาให้พร หรือ ขอความช่วยเหลือ ท่านจึงไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน สุขภาพท่านจึงไม่ค่อยแข็งแรง แต่ยังพอฉันอะไรได้ แม้จะรักษาอย่างดีเท่าใด แต่สุขภาพ กายสังขารของท่านก็ไม่อาจจะทนไหว ท่านได้อาพาธครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2524 และก่อนมรณภาพได้เพียง 7 วัน ท่านลุกจากเตียงไม่ได้เลย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2524 คณะลูกศิษย์ทีเป็นพยาบาล ได้มาถวายรังนกอีก แต่คราวนี้สังเกตได้ว่า แขนของท่าน บวม ท่านอยู่ได้จนกระทั่งเมื่อเวลา 9:55 น. ท่านได้ถึงแก่มรณภาพลงด้วยอาการสงบ รวมสิริอายุได้ 93 ปี 73 พรรษา  

พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดให้เชิญศพไปตั้งที่ศาลา 100 ปี วัดเบญจมบพิตร พระราชทานเกียรติยศศพเป็นพิเศษ เสมอพระราชาคณะชั้นธรรม พระราชทานโกศโถบรรจุศพ พร้อมฉัตรเบญจาเครื่องประกอบเกียรติยศครบทุกประการ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่การศพโดยตลอด เสด็จฯ ไปทรงเป็นประธานในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศล 7 วัน 50 วัน 100 วัน และตามโอกาสอันควรหลายวาระ พระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิสริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส

ประวัติและที่มาพระปิดตา

"พระปิดตา" ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศกัมพูชา ก่อนขยายอิทธิพลเข้าสู่วงการการสร้างพระเครื่องของไทย ในยุคแรกๆ พระปิดตาสร้างจากเนื้อโลหะ ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อพระ โดยลักษณะของพระเครื่องรุ่นนี้คือ ยกพระหัตถ์ขึ้นเพื่อปิดพระเนตร ซึ่งจะปิดทั้งพระพักตร์ เพราะเชื่อว่าเป็นการปิดทวารทั้ง 9 ได้แก่ ตา จมูก หู และปาก แสดงถึงความสงบในจิตใจ การตัดกิเลสจากโลกภายนอก เข้าสู่ทางธรรม ตลอดจนปฏิบัติกรรมฐาน

สำหรับพระปิดตาหลวงปู่โต๊ะมีหลายรุ่น ตั้งแต่รุ่นที่สร้างขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ไปจนถึงรุ่นที่สร้างหลังจากท่านมรณภาพแล้ว โดยรุ่นที่ได้รับความนิยม มีดังนี้

1. พระปิดตา รุ่นที่ 1 จัมโบ้ สร้างขึ้นปี 2520 มีทั้งหมด 3 เนื้อ ได้แก่ เนื้อผงใบลาน 1,272 องค์ เนื้อผงเกสร 57 องค์ และเนื้อผงสมเด็จ 16 องค์ สร้างขึ้นในโอกาสครบรอบหลวงปู่โต๊ะอายุ 90 ปี โดยรุ่นนี้มีลักษณะและความพิเศษคือ องค์ขนาดใหญ่กว่าองค์อื่นๆ 

2. พระปิดตา รุ่นเงินล้าน มีที่มาจากในช่วงปี พ.ศ. 2521 ทางวัดได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ โดยรวบรวมเงินได้ทั้งหมด 1 ล้านบาทจึงนำมาตั้งเป็นชื่อรุ่นพระ โดยรุ่นนี้มีทั้งเนื้อเกสรและเนื้อใบลาน ปลายนิ้วกลมมน บริเวณสะดือกลมลึก มีมิติ ตะกรุดเงินประกอบด้วยทองแดง สังกะสี และนิกเกิล 

3. พระปิดตา รุ่นปลดหนี้ สร้างปี พ.ศ. 2521-2523 ใช้เวลาในการปลุกเสก 3 ปี สาเหตุที่เรียกว่ารุ่นปลดหนี้ เนื่องจากหลวงปู่โต๊ะชอบกล่าวให้พรว่า “ขอให้หมดหนี้หมดสินนะ” พร้อมกับมอบพระให้ มีพุทธคุณพระปิดตาหลวงปู่โต๊ะด้านการเงิน สำหรับรุ่นนี้ด้านหน้าเป็นองค์พระปิดพระพักตร์ ด้านหลังมี 2 พิมพ์ ได้แก่ ยันต์นะมหาเศรษฐี และยันต์ตรีนิสิงเห 

4. พระปิดตาพิมพ์กนกข้าง พระปิดตาพิมพ์กนกข้าง สร้างขึ้นปี พ.ศ. 2521 ได้รับความนิยมในกลุ่มชาวต่างชาติ ด้านข้างขององค์พระจะมีลักษณะโดดเด่นกว่าองค์อื่นๆ คือ จะมีลายกนก ลวดลายอ่อนช้อยบริเวณด้านข้าง ด้านหลังมียันต์ตรี พร้อมขอบเนื้อปลิ้น ปัจจุบันราคากลางอยู่ที่หลักหมื่น

5. พระปิดตามหาเสน่ห์ สร้างขึ้นปี พ.ศ. 2518 ด้านหน้าเป็นองค์พระปิดพระพักตร์ ด้านหลังมีอักษรหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี โดยความพิเศษของรุ่นนี้คือ กดพิมพ์ที่วัดใหม่อมตรส ก่อนจะนำมาปลุกเสกที่วัดประดู่ฉิมพลี 

พุทธคุณพระปิดตาหลวงปู่โต๊ะ ลูกศิษย์หลายท่านที่บูชาพระปิดตา หลวงปู่โต๊ะได้กล่าวถึงพุทธคุณรอบด้านของพระปิดตาว่าช่วยเสริมโชคลาภ การถูกรางวัล การเงิน โดยเฉพาะผู้ทำธุรกิจหรือทำอาชีพค้าขายก็จะร่ำรวย และเมตตามหานิยม ตลอดจนบางรุ่นก็จะช่วยเสริมเรื่องเดินทางแคล้วคลาด ปลอดภัยด้วยเช่นกัน จนกลายเป็นเรื่องเล่าขานปากต่อปาก ทำให้ปัจจุบันมีลูกศิษย์ทั่วฟ้าเมืองไทย ตลอดจนชาวต่างชาติ เช่น จีน ฮ่องกง หรือมาเลเซีย ศรัทธาและเลื่อมใสในพุทธคุณพระปิดตาหลวงปู่โต๊ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook