รวบ! สาวจบ ปวช. อ้างตัวเป็นศัลยแพทย์ รับจ้างฉีดหน้า-ฉีดผิว เสริมความงาม

รวบ! สาวจบ ปวช. อ้างตัวเป็นศัลยแพทย์ รับจ้างฉีดหน้า-ฉีดผิว เสริมความงาม

รวบ! สาวจบ ปวช. อ้างตัวเป็นศัลยแพทย์ รับจ้างฉีดหน้า-ฉีดผิว เสริมความงาม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตํารวจ ปคบ. รวบหมอกระเป๋า เปิดโรงแรมรายวันย่านสุขุมวิท อ้างตัวเป็นแพทย์ศัลยกรรม จิ้มหน้าประชาชน

พล.ต.ต.วิทยา  ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) สั่งการให้ พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ. นํากําลังเข้าจับกุม น.ส.เจติยา อายุ 39 ปี แอบอ้างเป็นแพทย์หญิง บริการฉีดเสริมความงามให้ประชาชน

พฤติการณ์สืบเนื่องจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน ขอให้ทำการตรวจสอบบุคคลแอบอ้างตัวเป็นแพทย์ฉีดเสริมความงามให้ประชาชน โดยจะนัดหมายกลุ่มลูกค้าผ่านทางเฟซบุ๊ก จากนั้นเปิดโรงแรมย่านสุขุมวิทใช้เป็นสถานที่ฉีดเสริมความงาม เช่น ฉีดวิตามินผิว, ฟิลเลอร์, โบท็อก โดยสงสัยว่าบุคคลที่ทำหัตถการให้ไม่ใช่แพทย์

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสืบสวนหาข่าวพบว่ามีการนัดหมายกลุ่มลูกค้าเข้ามารับบริการฉีดเสริมความงามโดยใช้โรงแรมต่างๆ ย่านสุขุมวิทเป็นสถานที่นัดหมายสำหรับให้บริการจริง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่ดังกล่าว พบ น.ส.เจติยา แอบอ้างเป็นแพทย์หญิง ให้บริการฉีดรักษา เสริมความงามแก่ลูกค้าที่นัดหมายไว้ โดยขณะนั้นมีลูกค้ารอรับบริการอยู่หลายราย

จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.เจติยา ไม่ใช่แพทย์ และไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ประกอบกับสถานที่ดังกล่าวมีลักษณะเป็นห้องพักในโรงแรม ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล และดำเนินการสถานพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุม  น.ส.เจติยา พร้อมตรวจยึดของกลาง รวม 5 รายการ ได้แก่ ยาที่บรรจุในไซริ้งค์พร้อมฉีดไซริ้ง เข็ม และฟิลเลอร์สำหรับใช้ฉีดให้ประชาชน นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมาย

จากการซักถาม น.ส.เจติยา ยอมรับว่าตนไม่ใช่แพทย์ ไม่มีความรู้ ความชำนาญ อย่างแพทย์ผู้มีวิชาชีพแต่อย่างใด เรียนจบการศึกษาระดับชั้น ปวช.3 สาขาการขาย และไปศึกษากับภรรยาของหมอจีนที่พักอาศัยภายในประเทศมาเลเซีย จึงพอมีความรู้เกี่ยวกับการแพทย์ ประกอบกับมีความสนใจในด้านศัลยกรรมเสริมความงาม และเห็นช่องทางว่ามีรายได้ดี

จึงเริ่มรับงานโดยแอบอ้างตัวเป็นแพทย์ศัลยกรรมเฉพาะทาง โดยนัดหมายลูกค้าผ่านเฟซบุ๊กครั้งละหลายราย และเปิดโรงแรมรายวันเพื่อให้บริการฉีดเสริมความงามให้ลูกค้าตามสถานที่ต่างๆ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทำมาแล้วประมาณ 5 ปี มีรายได้เดือนละ 20,000-40,000 บาท

ด้าน พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. กล่าวว่า ขอให้ประชาชนควรศึกษาข้อมูลคลินิก แพทย์ผู้ทำการรักษา และขั้นตอนการรักษาให้ดีก่อนที่จะเข้ารับบริการเสริมความงาม อย่าหลงเชื่อโปรโมชั่นหรือราคาที่เสนอต่ำกว่าคลินิกทั่วไป

เนื่องจากการเสริมความงามเป็นขั้นตอนและวิธีการที่จะต้องใช้ผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และเกิดผลกระทบกับใบหน้าและร่างกายโดยตรง และแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สวมรอยเป็นหมอ หมอเถื่อน หรือคลินิกเถื่อน ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook