ลูกชาย 2 คน ร้องศาล ขอไม่เลี้ยงดูแม่วัย 87 รู้เหตุผลแล้วเห็นใจ ขมขื่นเกินกว่าจะกตัญญู

ลูกชาย 2 คน ร้องศาล ขอไม่เลี้ยงดูแม่วัย 87 รู้เหตุผลแล้วเห็นใจ ขมขื่นเกินกว่าจะกตัญญู

ลูกชาย 2 คน ร้องศาล ขอไม่เลี้ยงดูแม่วัย 87 รู้เหตุผลแล้วเห็นใจ ขมขื่นเกินกว่าจะกตัญญู
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลูกชาย 2 คน ร้องศาล ขอไม่เลี้ยงดูแม่วัย 87 รู้เหตุผลแล้วเห็นใจ อดีตของสองพี่น้องขมขื่นเกินกว่าจะกตัญญู ..อ่านต่อในคอมเมนต์

เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานกิจการสังคมได้เรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการย้ายที่อยู่ของหญิงชราวัย 87 ปี ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม จากลูกชายแท้ๆ ทั้ง 2 คนของเธอ อย่างไรก็ตาม ลูกชายทั้งคู่กล่าวหาแม่ว่าทอดทิ้งพวกเขาหลังคลอด ไม่เคยทำหน้าที่ปกป้องและเลี้ยงดู ทำให้ขาดความรักจากแม่ในวัยเด็ก จึงขอได้รับการยกเว้นจากภาระการเลี้ยงดูแม่ที่ไม่เคยเลี้ยงดูพวกเขามา

หลังการพิจารณาคดี ศาลเห็นชอบให้ทั้งคู่ไม่ต้องรับภาระการเลี้ยงดูแม่ตามคำร้อง

ตามรายงานระบุว่า หญิงสาวชื่ออามิ (นามสมมุติ) ไม่ได้สมรสกับพ่อของลูกชายทั้งสองคน หลังจากลูกชายทั้งสองคนเกิด พวกเขาถูกรับเลี้ยงดูโดยพ่อบุญธรรม

อามิวัย 87 ปี ตามข้อมูลภาษีและรายได้จากทรัพย์สิน ไม่มีทรัพย์สินในนามของตนเอง และมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดเป็นศูนย์ เนื่องจากอามิป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมเล็กน้อยและสูญเสียการได้ยิน เธอจึงมักตอบคำถามผิด ไม่สามารถแสดงออก และไม่สามารถดูแลตัวเองได้ หลังการตรวจสอบรายได้จากเงินอุดหนุน ประกันชีวิต เงินบำนาญต่างๆ ศาลพิจารณาแล้วว่ารายได้ของอามิไม่เพียงพอในการดำรงชีวิต จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุน

ในระหว่างการพิจารณาคดี ลูกชายคนโตของอามิกล่าวว่า น้องชายของเขาอาศัยอยู่กับเขามาตั้งแต่เกิด ไม่รู้ว่าแม่ของเขาอยู่ที่ไหน และไม่เคยได้รับการดูแลหรือเลี้ยงดูจากแม่ นอกจากนี้ พ่อบุญธรรมยังไม่สามารถเลี้ยงดูน้องชายได้ จึงส่งไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าตั้งแต่เล็กๆ จนกระทั่งพ่อบุญธรรมสามารถเลี้ยงดูได้ จึงรับน้องชายกลับมาเลี้ยงดูจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จากนั้นเขาจึงเลี้ยงดูน้องชายเอง

ผู้พิพากษาระบุว่า ในฐานะแม่ อามิควรปฏิบัติตามภาระการเลี้ยงดูบุตรตามกฎหมาย แต่ลูกของเธอกลับไม่ได้รับสิ่งนั้นตั้งแต่เล็กจนโต อามิไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ของแม่ที่ต้องเลี้ยงดูลูกได้โดยไม่มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลจึงได้มีคำพิพากษาว่า ลูกทั้งสองคนควรได้รับการยกเว้นจากภาระในการเลี้ยงดูแม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook