เฉลย กระเป๋าลากแอร์โฮสเตส ข้างในมีอะไร? บินในประเทศวันเดียว ทำไมต้องเอาไปด้วย

เฉลย กระเป๋าลากแอร์โฮสเตส ข้างในมีอะไร? บินในประเทศวันเดียว ทำไมต้องเอาไปด้วย

เฉลย กระเป๋าลากแอร์โฮสเตส ข้างในมีอะไร? บินในประเทศวันเดียว ทำไมต้องเอาไปด้วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เฉลยแล้ว กระเป๋าลากแอร์โฮสเตส ข้างในมีอะไร? บางทีบินแค่ในประเทศไปกลับวันเดียว ทำไมต้องลากไปด้วย 

เป็นภาพคุ้นตาสำหรับผู้ที่เดินทางโดยเครื่องบินหรือเคยมาที่สนามบิน ต้องได้เห็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หรือที่เรียกว่า แอร์โฮสเตส-สจ๊วต เดินลากกระเป๋าเดินทางกันทุกคน แม้จะเป็นสายการบินในประเทศก็ตาม ซึ่งก็ทำให้หลายคนสงสัยว่า ภายในกระเป๋านั้นมีอะไรอยู่บ้าง 

เว็บไซต์ thaicabincrew.com มีเฉลยคำตอบจากลูกเรือสายการบิน Thai Lion Air โดยบอกว่า กระเป๋าที่เรานำไปบินด้วยในทุก ๆ ไฟลท์จะมีหลัก ๆ อยู่สองใบ คือกระเป๋าสะพายและกระเป๋าลาก กระเป๋าสะพายหรือ shoulder bag เป็นกระเป๋ายูนิฟอร์ม ที่แอร์ทุกคนต้องมี ในกระเป๋าจะมีสิ่งสำคัญที่ลูกเรือต้องพกไปบิน เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เช่น ไฟฉาย, passport, crew certificate, blue book, บัตรประจำตัวลูกเรือ ฯลฯ

สาเหตุลูกเรือต้องพกไฟฉายเพราะใน flight กลางคืนจะมีการดับไฟในห้องโดยสารเพื่อให้ผู้โดยสารได้พักผ่อน ลูกเรือก็จะใช้ไฟฉายนี่แหละค่ะในการเดิน cabin มืด ๆ หรือเวลาที่ต้องหาของตกหล่น รวมไปถึงใช้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินด้วย ส่วนเอกสารสำคัญที่ได้กล่าวไปข้างต้น เราก็ต้องพกติดตัวเพื่อที่แสดงตัวว่าเราได้ผ่านการอบรมการเป็นลูกเรืออย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดเรียบร้อยแล้ว หากมีการตรวจเช็คจากหน่วยงานทางการบินอื่น ๆ ก็สามารถนำเอกสารเหล่านี้มายืนยันได้ว่าเราเป็นลูกเรือตัวจริง

ส่วนสิ่งของอื่นในกระเป๋าสะพายก็เช่น กระเป๋าเงิน, เครื่องสำอาง, ยาดม, ครีมทามือ, น้ำยาทาเล็บ, ทิชชู่เปียก, ยาประจำตัว, ปากกา, ลูกนับ….ซึ่งก็แล้วแต่ใครจะใช้อะไรบ้าง แต่ส่วนมากก็จะพกเฉพาะสิ่งจำเป็นและที่ต้องใช้เป็นประจำเพราะหยิบใช้ได้ง่าย

ส่วนในกระเป๋าลากที่เห็น ๆ ว่าลูกเรือลากไปลากมา ก็มีคนถามเยอะค่ะว่าลากทำไม ไปค้างหลายวันเหรอ แล้วข้างในขนอะไรไปบ้าง ขอตอบว่าไฟลท์จะสั้นจะยาวยังไงก็ต้องลากไปด้วย เพราะมันคือยูนิฟอร์มอีกชิ้นของลูกเรือ

ภายในกระเป๋าก็จะมีของสำคัญหลายอย่างที่เราต้องพกมาตามที่สายการบินกำหนด ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ทค้างหรือไม่ก็ตาม เช่น

  • ชุดสำรอง สำหรับในกรณีฉุกเฉินที่จะต้องไปค้าง ชุดฉีกขาด หรือเลอะเทอะ
  • ชุดนอน ก็ควรเป็นชุดที่รัดกุม เพราะเวลาไปค้างต่างสถานที่ เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ดังนั้นควรมีชุดที่รัดกุมและสุภาพติดกระเป๋าไว้อย่างน้อย 1 ชุด
  • ชุดลำลอง เผื่อในกรณีที่ต้องออกไปนอกที่พัก ก็จะเป็นชุดที่สุภาพเช่นกัน
  • ชุด business attire ในกรณีที่อาจจะต้องเดินทางกลับด้วยสายการบินอื่น
  • คู่มือการบิน อันนี้แล้วแต่สายการบินกำหนดว่าต้องนำคู่มือเล่มไหนติดไปด้วย เพราะบางสายการบินจัดคู่มือต่าง ๆ ไว้ให้บนเครื่องอยู่แล้ว หรือบางสายการบินให้โหลดเก็บไว้ใน Ipad หรือ iPhone
  • รองเท้าลำลอง รองเท้ารัดส้น และที่ขาดไม่ได้คือรองเท้า cabin shoes ไว้เปลี่ยนตอนทำงานบนเครื่อง
  •  นอกเหนือจากนี้ก็จะเป็นพวกยาประจำตัว, เครื่องสำอาง, อุปกรณ์ในการอาบน้ำ, อาหารแห้ง ฯลฯ แล้วแต่ความจำเป็นของแต่ละคน

ส่วนในเว็บไซต์ airkhaek.com ซึ่งเป็นลูกเรือสายการบินแถบตะวันออกกลาง ก็มีตำตอบเรื่องนี้เช่นกัน โดยระบุว่า แอร์โฮสเตส จะได้รับกระเป๋า 3 ใบหลักๆ จากสายการบินให้เอาไว้ใช้เวลาไปทำงาน พกไปบนไฟล์ และ จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อใส่ยูนิฟอร์มของสายการบินเท่านั้น 

  1. กระเป๋าถือแอร์ (Hand Bag)  คือ กระเป๋าประจำตัวแอร์ ที่เข้าชุดกับยูนิฟอร์ม สายการบินจะมอบกระเป๋าสะพาย หรือ กระเป๋าถือใบเล็กๆนี้ ให้กับแอร์โฮสเตสเท่านั้น เอาไว้ใส่ของใช้จุกจิกส่วนตัว ลิปสติก เครื่องสำอาง กระเป๋าสตางค์ พาสปอร์ต กุญแจ ปากกา สมุดโน้ต ฯลฯ ที่สำคัญคือ ไฟฉาย ที่จะใช้หลังจากปิดไฟในห้องโดยสาร 
  2. กระเป๋าลากขึ้นเครื่อง (Trolley) ต้องลากไปทำงานทุกไฟล์ท แม้ว่าจะบินไปแล้วกลับภายในวันเดียวไม่ค้างคืน โดยจะใส่ของต่างๆ ที่ใช้ในการทำงานบนเครื่องบิน อาทิเช่น รองเท้าส้นเตี้ย, ถุงมือกันความร้อน เอาไว้ป้องกันความร้อนจากเตาอบ เวลาอุ่นอาหาร, เสื้อกันเลอะ หรือ Apron เอาไว้เปลี่ยนตอนทำเซอร์วิส, ชุดนอน บางคนเอาชุดนอนติดตัวตลอด, ถุงน่อง (คู่ใหม่) เอาไว้ใส่สำรอง ในกรณีที่ขาด และ เอกสารต่างๆ 
  3. กระเป๋าลากเดินทางใบใหญ่ (Suitcase) ที่ต้องใช้เดินทางไปนอกเบส ใส่เสื้อผ้า รองเท้า ของใช้ส่วนตัว ชุดยูนิฟอร์มที่จะใส่กลับ ของกิน กระจุกกระจิก บางสนามบินจะเช็กน้ำหนักกระเป๋าโดยใช้กฎเดียวกับผู้โดยสาร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook