เฉลย กระเป๋าลากแอร์โฮสเตส ข้างในมีอะไร? บินในประเทศวันเดียว ทำไมต้องเอาไปด้วย
เฉลยแล้ว กระเป๋าลากแอร์โฮสเตส ข้างในมีอะไร? บางทีบินแค่ในประเทศไปกลับวันเดียว ทำไมต้องลากไปด้วย
เป็นภาพคุ้นตาสำหรับผู้ที่เดินทางโดยเครื่องบินหรือเคยมาที่สนามบิน ต้องได้เห็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หรือที่เรียกว่า แอร์โฮสเตส-สจ๊วต เดินลากกระเป๋าเดินทางกันทุกคน แม้จะเป็นสายการบินในประเทศก็ตาม ซึ่งก็ทำให้หลายคนสงสัยว่า ภายในกระเป๋านั้นมีอะไรอยู่บ้าง
เว็บไซต์ thaicabincrew.com มีเฉลยคำตอบจากลูกเรือสายการบิน Thai Lion Air โดยบอกว่า กระเป๋าที่เรานำไปบินด้วยในทุก ๆ ไฟลท์จะมีหลัก ๆ อยู่สองใบ คือกระเป๋าสะพายและกระเป๋าลาก กระเป๋าสะพายหรือ shoulder bag เป็นกระเป๋ายูนิฟอร์ม ที่แอร์ทุกคนต้องมี ในกระเป๋าจะมีสิ่งสำคัญที่ลูกเรือต้องพกไปบิน เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เช่น ไฟฉาย, passport, crew certificate, blue book, บัตรประจำตัวลูกเรือ ฯลฯ
สาเหตุลูกเรือต้องพกไฟฉายเพราะใน flight กลางคืนจะมีการดับไฟในห้องโดยสารเพื่อให้ผู้โดยสารได้พักผ่อน ลูกเรือก็จะใช้ไฟฉายนี่แหละค่ะในการเดิน cabin มืด ๆ หรือเวลาที่ต้องหาของตกหล่น รวมไปถึงใช้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินด้วย ส่วนเอกสารสำคัญที่ได้กล่าวไปข้างต้น เราก็ต้องพกติดตัวเพื่อที่แสดงตัวว่าเราได้ผ่านการอบรมการเป็นลูกเรืออย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดเรียบร้อยแล้ว หากมีการตรวจเช็คจากหน่วยงานทางการบินอื่น ๆ ก็สามารถนำเอกสารเหล่านี้มายืนยันได้ว่าเราเป็นลูกเรือตัวจริง
ส่วนสิ่งของอื่นในกระเป๋าสะพายก็เช่น กระเป๋าเงิน, เครื่องสำอาง, ยาดม, ครีมทามือ, น้ำยาทาเล็บ, ทิชชู่เปียก, ยาประจำตัว, ปากกา, ลูกนับ….ซึ่งก็แล้วแต่ใครจะใช้อะไรบ้าง แต่ส่วนมากก็จะพกเฉพาะสิ่งจำเป็นและที่ต้องใช้เป็นประจำเพราะหยิบใช้ได้ง่าย
ส่วนในกระเป๋าลากที่เห็น ๆ ว่าลูกเรือลากไปลากมา ก็มีคนถามเยอะค่ะว่าลากทำไม ไปค้างหลายวันเหรอ แล้วข้างในขนอะไรไปบ้าง ขอตอบว่าไฟลท์จะสั้นจะยาวยังไงก็ต้องลากไปด้วย เพราะมันคือยูนิฟอร์มอีกชิ้นของลูกเรือ
ภายในกระเป๋าก็จะมีของสำคัญหลายอย่างที่เราต้องพกมาตามที่สายการบินกำหนด ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ทค้างหรือไม่ก็ตาม เช่น
- ชุดสำรอง สำหรับในกรณีฉุกเฉินที่จะต้องไปค้าง ชุดฉีกขาด หรือเลอะเทอะ
- ชุดนอน ก็ควรเป็นชุดที่รัดกุม เพราะเวลาไปค้างต่างสถานที่ เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ดังนั้นควรมีชุดที่รัดกุมและสุภาพติดกระเป๋าไว้อย่างน้อย 1 ชุด
- ชุดลำลอง เผื่อในกรณีที่ต้องออกไปนอกที่พัก ก็จะเป็นชุดที่สุภาพเช่นกัน
- ชุด business attire ในกรณีที่อาจจะต้องเดินทางกลับด้วยสายการบินอื่น
- คู่มือการบิน อันนี้แล้วแต่สายการบินกำหนดว่าต้องนำคู่มือเล่มไหนติดไปด้วย เพราะบางสายการบินจัดคู่มือต่าง ๆ ไว้ให้บนเครื่องอยู่แล้ว หรือบางสายการบินให้โหลดเก็บไว้ใน Ipad หรือ iPhone
- รองเท้าลำลอง รองเท้ารัดส้น และที่ขาดไม่ได้คือรองเท้า cabin shoes ไว้เปลี่ยนตอนทำงานบนเครื่อง
- นอกเหนือจากนี้ก็จะเป็นพวกยาประจำตัว, เครื่องสำอาง, อุปกรณ์ในการอาบน้ำ, อาหารแห้ง ฯลฯ แล้วแต่ความจำเป็นของแต่ละคน
ส่วนในเว็บไซต์ airkhaek.com ซึ่งเป็นลูกเรือสายการบินแถบตะวันออกกลาง ก็มีตำตอบเรื่องนี้เช่นกัน โดยระบุว่า แอร์โฮสเตส จะได้รับกระเป๋า 3 ใบหลักๆ จากสายการบินให้เอาไว้ใช้เวลาไปทำงาน พกไปบนไฟล์ และ จะใช้ได้ก็ต่อเมื่อใส่ยูนิฟอร์มของสายการบินเท่านั้น
- กระเป๋าถือแอร์ (Hand Bag) คือ กระเป๋าประจำตัวแอร์ ที่เข้าชุดกับยูนิฟอร์ม สายการบินจะมอบกระเป๋าสะพาย หรือ กระเป๋าถือใบเล็กๆนี้ ให้กับแอร์โฮสเตสเท่านั้น เอาไว้ใส่ของใช้จุกจิกส่วนตัว ลิปสติก เครื่องสำอาง กระเป๋าสตางค์ พาสปอร์ต กุญแจ ปากกา สมุดโน้ต ฯลฯ ที่สำคัญคือ ไฟฉาย ที่จะใช้หลังจากปิดไฟในห้องโดยสาร
- กระเป๋าลากขึ้นเครื่อง (Trolley) ต้องลากไปทำงานทุกไฟล์ท แม้ว่าจะบินไปแล้วกลับภายในวันเดียวไม่ค้างคืน โดยจะใส่ของต่างๆ ที่ใช้ในการทำงานบนเครื่องบิน อาทิเช่น รองเท้าส้นเตี้ย, ถุงมือกันความร้อน เอาไว้ป้องกันความร้อนจากเตาอบ เวลาอุ่นอาหาร, เสื้อกันเลอะ หรือ Apron เอาไว้เปลี่ยนตอนทำเซอร์วิส, ชุดนอน บางคนเอาชุดนอนติดตัวตลอด, ถุงน่อง (คู่ใหม่) เอาไว้ใส่สำรอง ในกรณีที่ขาด และ เอกสารต่างๆ
- กระเป๋าลากเดินทางใบใหญ่ (Suitcase) ที่ต้องใช้เดินทางไปนอกเบส ใส่เสื้อผ้า รองเท้า ของใช้ส่วนตัว ชุดยูนิฟอร์มที่จะใส่กลับ ของกิน กระจุกกระจิก บางสนามบินจะเช็กน้ำหนักกระเป๋าโดยใช้กฎเดียวกับผู้โดยสาร