ไขข้อสงสัย งูเห่า-งูจงอาง ต่างกันยังไง ชนิดไหนพิษรุนแรงกว่า ถ้าต่อสู้กันใครชนะ?

ไขข้อสงสัย งูเห่า-งูจงอาง ต่างกันยังไง ชนิดไหนพิษรุนแรงกว่า ถ้าต่อสู้กันใครชนะ?

ไขข้อสงสัย งูเห่า-งูจงอาง ต่างกันยังไง ชนิดไหนพิษรุนแรงกว่า ถ้าต่อสู้กันใครชนะ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไขข้อสงสัย งูเห่า-งูจงอาง ต่างกันยังไง ชนิดไหนพิษรุนแรงกว่า ถ้าต่อสู้กันใครชนะ?

งูเห่า และ งูจงอาง เป็นงูที่มีความคล้ายกันมาก มีพฤติกรรมการแผ่แม่เบี้ยเหมือนกัน มีการพ่นลมขู่เหมือนกัน สีสันของตัวใกล้เคียงกัน ทั้งคู่เป็นงูที่มีพิษรุนแรง พิษออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท 

งูเห่า 

งูเห่า (Cobra) จัดเป็นงูที่อันตราย มีนิสัยดุร้าย เมื่อตกใจหรือต้องการขู่ศัตรู มักทำเสียงขู่ฟู่ ๆ โดยพ่นลมออกจากทางรูจมูก และแผ่แผ่นหนังที่อยู่หลังบริเวณคอออกเป็นแผ่นด้านข้างเรียกว่า "แม่เบี้ย" หรือ "พังพาน" ซึ่งบริเวณแม่เบี้ยนี้จะมีลวดลายเป็นดอกดวงสีขาวหรือสีเหลืองนวลเป็นรูปลักษณ์ต่าง ๆ เช่น คล้ายตัวอักษรวีหรืออักษรยูหรือวงกลม หรือไม่มีเลยก็ได้ เรียกว่า "ดอกจัน" มีพิษมีฤทธิ์ทำลายระบบประสาทที่รุนแรง และเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ที่ถูกกัดเสียชีวิต พิษของงูเห่านับว่ามีความร้ายแรงมาก

งูเห่ามีสีหลากหลาย เช่น ดำ, น้ำตาล, เขียวอมเทา เหลืองหม่น รวมทั้งสีขาวปลอดทั้งลำตัว ที่เรียกว่า งูเห่านวล หรือ งูเห่าสุพรรณ ซึ่งเป็นความหลากหลายทางสีสันของงูเห่าหม้อ (N. kaouthia) ที่เป็นงูเห่าชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดในประเทศไทย 

นอกจากนี้แล้วในบางชนิดยังสามารถพ่นพิษออกมาจากต่อมน้ำพิษได้อีกด้วย เรียกว่า "งูเห่าพ่นพิษ" ซึ่งหากพ่นใส่ตา จะทำให้ตาบอดได้ 

งูจงอาง

งูจงอาง (King Cobra) เป็นงูพิษที่ใหญ่ที่สุดในโลก พบได้ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอนุทวีปอินเดีย ภาคใต้ของไทยเรียก บองหลา มีความยาวเฉลี่ย 3-4 เมตร แต่สามารถยาวได้ถึง 5-6 เมตร งูจงอางมีพิษที่สามารถทำให้เกิดอัมพาตและเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โดยพิษของงูจะทำลายระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต หายใจไม่ออก และหยุดหายใจในที่สุด

งูจงอางมีนิสัยระมัดระวัง ไม่ก้าวร้าวต่อมนุษย์ แต่ถูกรบกวนหรือคุกคามจะตั้งตัวสู้และอ้าปากขู่ และเมื่อถูกคุกคามจะยกตัวสูงขึ้นตั้งครึ่งหนึ่งของความยาวตัวเพื่อขู่ศัตรู โดยเฉพาะช่วงฤดูผสมพันธุ์ตัวเมียจะก้าวร้าวมากขึ้นเพื่อปกป้องไข่ของมัน งูจงอางมีพฤติกรรมการฉกกัดแบบติดแน่น ไม่กัดฉกเหมือนงูเห่า จึงกัดแล้วจะย้ำเขี้ยว 

แม้ว่าจะเป็นงูที่ลำตัวยาวแต่ก็มีน้ำหนักที่เบากว่างูที่มีความยาวพอกันอย่างงูเหลือมหรืองูหลาม ทำให้งูจงอางนั้นจะมีคล่องแคล่วว่องไวทั้งบนบกและในน้ำ มีลูกตาดำและกลม หัวใหญ่กลมทู่ สามารถแผ่แม่เบี้ยได้เช่นเดียวกับงูเห่า ลำตัวเรียวยาว ว่ายน้ำเก่ง มีหลายสี ที่พบมากที่สุดคือ สีดำและเขียวอมเทา และสีนํ้าตาล ท้องมีสีเหลืองจนเกือบขาว มีสีแดงเกือบส้มที่บริเวณใต้คอ พิษของงูทำให้เหยื่อมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 75% เนื่องจากปริมาณพิษที่ฉีดออกจากเขี้ยวพิษมีมาก 

ความแตกต่าง

1. สัดส่วนลำตัว ทางด้านสรีระของร่างกาย งูจงอางจะมีลำตัวที่เพรียวยาวกว่าอย่างเห็นได้ชัด ส่วนงูเห่าจะดูสั้นป้อมกว่า ความยาวงูเห่าเฉลี่ยประมาณ 1-2 เมตร

2. แม่เบี้ยของงูจงอาง จะดูแคบกว่างูเห่า เมื่อเทียบตามสัดส่วน และจะปรากฏลายแถบคอเป็นลักษณะเหมือนบั้ง ส่วนงูเห่าเวลาแผ่แม่เบี้ยอาจปรากฎเป็นดอกจันรูปตัว O V U แต่บางตัวอาจไม่พบดอกจันเลย เช่นงูเห่าพ่นพิษ

3. งูจงอางริมฝีปากล่างขาวตัดกับริมฝีปากบนชัดเจน ส่วนงูเห่านั้นริมฝีปากบนยังมีสีอ่อนไล่ขึ้นไปจนถึงตาในบางตัว 

4. สถานที่พบ งูจงอางเป็นงูป่าโดยแท้จริง ดังนั้นสถานที่ที่จะพบต้องอยู่ติดกับป่าเขา หากอยู่ในเมืองที่ไม่ใกล้ป่าเลย งูที่พบมักจะเป็นงูเห่า มีน้อยครั้งที่งูจงอางหลุดหลงเข้ามา งูเห่าพบได้ทั่วไปในหลากหลายแหล่งที่อยู่อาศัย เช่น ป่า ทุ่งนา สวน และบริเวณใกล้เคียงที่อยู่อาศัยของมนุษย์

ใครพิษรุนแรงกว่า

งูเห่ามีพิษรุนแรงแม้ในปริมาณที่น้อย ความร้ายแรงของพิษมากกว่างูจงอาง แต่เพราะงูจงอางมีขนาดใหญ่กว่างูเห่าจึงมีน้ำพิษปริมาณมากกว่า น้ำพิษของงูจงอางสามารถฉีดออกมาได้ถึง 380-600 มิลลิกรัมในการฉกกัดแต่ละครั้ง ซึ่งอาจมีปริมาณมากถึง 10 เท่าของงูเห่า ซึ่งก็ทำให้ผู้ที่ถูกกัดเกิดอาการเร็วและรุนแรงกว่า 

งูเห่า ปะทะ งูจงอาง ใครชนะ

งูจงอางเป็นงูพิษที่สามารถต้านทานพิษงูชนิดอื่น ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม เช่น งูเห่า งูกะปะ เมื่อเกิดการต่อสู้และถูกกัดจะไม่ได้รับอันตรายจนถึงตาย แต่จะกัดและกินงูเหล่านั้นเป็นอาหารแทน แต่ไม่สามารถต้านทานพิษงูจงอางด้วยกันเองได้ อีกทั้งงูจงอางยังมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่างูเห่ามาก เพราะฉะนั้นหากมีการต่อสู้กัน ส่วนใหญ่งูจงอางจึงเป็นฝ่ายชนะ

งูจงอาง

หากพบเจองูเข้าบ้าน วิธีที่ดีที่สุด โทร.สายด่วน 199 แจ้งหน่วยกู้ภัย หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการจับงูเข้ามาดำเนินการเพื่อความปลอดภัย "อย่าจับงูเองหากไม่ชำนาญ"

วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น คำแนะนำจากสภากาชาดไทย

หากถูกงูกัดอย่าพิ่งตกไจ ตั้งสติ ดูลักษณะของงูหรือถ่ายรูปงูเอาไว้ และร้องขอความช่วยเหลือ ไม่แนะนำให้ขันชะเนาะ (tourniquet) เพราะไม่สามารถป้องกันการดูดซึมพิษงูได้ และถ้ารัดแน่นเกินไปอาจทำให้เกิดเนื้อเน่าตายได้ จึงควรรีบมาโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด โดยขยับส่วนที่ถูกกัดให้น้อยที่สุด เพื่อลดการดูดซึมพิษงู และหากถูกงูหาพ่นพิษเข้าตา ควรล้างตาด้วยน้ำสะอาดปริมาณมาก

ผู้ป่วยที่ถูกที่มีพิษต่อระบบประสาทกัด อาจเป็นอัมพาตทั่วตัวคล้ายกับเสียชีวิตแล้ว ไม่ควรหยุดการช่วยเหลือ ให้รีบส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลเพื่อช่วยการหายใจโดยเร็วที่สุด

แพทย์จะทำการตรวจร่างกายและตรวจเลือด บางรายยังไม่มีอาการของพิษ เมื่อมาถึงโรงพยาบาลจึงต้องสังเกตอาการต่อจนกว่าจะพ้นระยะอันตราย การให้เซรุ่มต้านพิษงูมีประโยชน์ แต่ก็เสี่ยงต่อการแพ้ และบางครั้งงูมีพิษกัดแต่ไม่ปล่อยพิษ ทำให้ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการใด ๆ แพทย์จึงเลือกให้เซรุ่มเฉพาะรายตามความเหมาะสมเซมต้านพิษงูจะช่วยเรื่องกล้ามเนื้ออ่อนแรง และเลือดออกให้ดีขึ้นได้ แม้ผู้ป่วยจะได้เซรุ่มแล้ว บางรายอาจยังเกิดเนื้อเน่าตายหรือไตวายต่อมาภายหลังได้ จึงอาจต้องอาศัยการรักษาอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น การผ่าตัดตัดเนื้อตายออก การให้สารน้ำหรือการล้างไต เพื่อป้องกันและรักษาภาวะไตวาย เป็นต้น

งูเหลือม กับ งูหลาม ต่างกันยังไง? เพิ่งรู้มีวิธีสังเกตง่ายมาก ดูแค่ส่วนหัวก็รู้เลย

แยกยังไง? งูทับสมิงคลา-งูปล้องฉนวน แฝดคนละฝา ตัวนึงมีพิษรุนแรง อีกตัวไม่มีพิษเลย

ฝันเห็นงูเหลือมตัวใหญ่ หมายถึงอะไร พร้อมเลขเด็ด เลขนำโชค

 

 

 

 

 

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ ไขข้อสงสัย งูเห่า-งูจงอาง ต่างกันยังไง ชนิดไหนพิษรุนแรงกว่า ถ้าต่อสู้กันใครชนะ?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook