เจ้าสาววีนแขกงานแต่ง ใส่ซองไม่ถึงพัน ทั้งที่เลือกเชิญแต่ VIP ลั่นถ้าไม่มีเงินไม่ต้องมา!

เจ้าสาววีนแขกงานแต่ง ใส่ซองไม่ถึงพัน ทั้งที่เลือกเชิญแต่ VIP ลั่นถ้าไม่มีเงินไม่ต้องมา!

เจ้าสาววีนแขกงานแต่ง ใส่ซองไม่ถึงพัน ทั้งที่เลือกเชิญแต่ VIP ลั่นถ้าไม่มีเงินไม่ต้องมา!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ้าสาววีนแขกงานแต่ง ใส่ซองไม่ถึงพัน ทั้งที่เลือกเชิญแต่ VIP ลั่นถ้าไม่มีเงินไม่ต้องมา! สุดท้ายเจอทัวร์ลงยับ

เว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ เปิดเผยเรื่องราวของเจ้าสาวป้ายแดงรายหนึ่งในประเทศมาเลเซีย เธอได้ออกมาแชร์ความไม่พอใจผ่านทางเฟซบุ๊ก หลังงานแต่งในฝันไม่เป็นอย่างที่เธอคาดหวัง

เจ้าสาวหมาดๆ เผยว่า งานแต่งงานถูกเลื่อนมา 4 ปี เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 และเมื่อตัดสินใจจัดงานแต่งงานในสวนแทนการจัดริมชายหาดตามแผนเดิม ก็ต้องเจอกับปัญหาค่าใช้จ่ายในงานแต่งงานเพิ่มขึ้นถึง 2-3 เท่า ทั้งค่าเช่าสถานที่ ค่าจัดดอกไม้ ค่าถ่ายรูปและอื่นๆ แต่เธอก็ยังคงเลือกที่จะจัดงานในฝันต่อไป

เจ้าสาวยังได้แชร์ว่า งานแต่งงานของเธอทำให้ตระหนักได้ว่า ใครคือคนที่เธอสามารถนับว่าเป็นเพื่อนแท้ได้ โดยวัดจากกำลังในการใส่ซอง

"ฉันและสามีเชิญแขกแค่ 100 คนเท่านั้น ทุกคนจึงถือว่าเป็น VIP ในความคิดของฉัน แต่คำถามคือ เมื่อฉันถือว่าพวกเขาเป็น VIP แล้วพวกเขาถือว่าฉันเป็นอะไร?"

เธอวิพากษ์วิจารณ์เพื่อนร่วมงานของเธอคนหนึ่ง ที่ใส่ซองมาให้เธอเพียงแค่ 120 ริงกิต (ราว 950 บาท) ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการรับแขกอยู่ที่มากกว่า 200 ริงกิต (ราว 1,580 บาท) ต่อคน

"ฮัลโหล นี่มันปี 2024 แล้ว พวกเขาคิดว่าราคางานเลี้ยงยังคงเป็น 120 ริงกิตต่อคนหรือไง? พวกคุณตื่นหรือยัง คิดว่าราคาจาก 20 ปีที่แล้วยังใช้ได้อยู่เหรอ? เราต้องจ่ายภาษี 16% และค่าแอลกอฮอล์ด้วย คิดว่างานเลี้ยงแต่งงานของฉันเป็นร้านไหตี่เลาหรือไง? ฉันคิดว่ากินที่ไหตี่เลายังแพงกว่า 120 ริงกิตนะ" เธอกล่าว

นอกจากนี้เธอยังกล่าวถึงไปที่เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่เป็นภรรยาของนักธุรกิจ จองที่นั่งไว้ 3 ที่ เพราะเธอจะพาสามีและลูกสาวมาด้วย ลูกสาวของเธออายุ 13 ปีแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ครอบครัวนี้ก็ควรจะจ่าย 600 ริงกิต แต่สุดท้ายสามีของเพื่อนร่วมงานคนนั้นไม่สามารถมาร่วมงานแต่งงานได้ในนาทีสุดท้าย เจ้าสาวมองว่าควรให้สามีของเพื่อนร่วมงานจ่ายเงินมาด้วย พราะที่นั่งของเขาในงานเลี้ยงแต่งงานของเธอถูกจองไปแล้ว แต่สุดท้ายเจ้าสาวพาคนอื่นมาร่วมงานแทนเพื่อไม่ให้ต้องเสียที่นั่งแขกไปโดยเปล่าประโยชน์

"เธอพบเพื่อนดีๆ ที่เต็มใจมาร่วมงานและรู้ถึงค่าใช้จ่ายเป็นอย่างดี เขาใส่ซองมาอย่างน้อย 200 ริงกิต ในขณะที่เพื่อนร่วมงานคนนั้นมาพร้อมกับลูกสาวอายุ 13 ปี และทั้งสองคนจ่ายเพียง 228 ริงกิต คุณอ่านไม่ผิด 114 ต่อคน! เธอคงคิดว่าลูกสาวของเธอยังเป็นทารก และไม่ต้องจ่ายเพราะสามีของเธอไม่ได้มาร่วมงาน"

เธอยังบ่นอีกว่า รวมแขก 4 คนนี้ เธอได้เงินใส่ซองมาแค่ 468 ริงกิต (ราว 3,700 บาท) งานแต่งงานของเธอถูกกว่ากินไหตี่เลาเสียอีก

สุดท้ายเจ้าสาวบอกว่าเธอรู้สึกโกรธมาก และตั้งใจว่าจะตัดความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานเหล่านี้ 

"ถ้าคุณเพิ่งเรียนจบใหม่ก็พอให้อภัยได้ แต่นี่ไม่ใช่ คุณเคยคิดบ้างไหมว่าเจ้าสาวจ่ายไปเท่าไหร่เพื่อพวกคุณ ถ้าคุณจ่ายไม่ไหว ก็ไม่ต้องตกลงจะมาร่วมงาน ฉันเสียเงินจัดงานให้คุณเหมือน VIP แต่ดูสิ่งที่คุณให้เรา ถ้าคุณจ่ายไม่ไหว ก็อย่าจองที่นั่ง 3 ที่ ลองนึกว่าถ้าเป็นคุณ และฉันไปงานแต่งงานของคุณและให้เงินเพียง 120 ริงกิต คุณจะคิดยังไง? นี่มันปี 2024 แล้ว กรุณาตื่นเถอะ!" เธอสรุป

หลังจากการระบายความในใจลงในโซเชียลของเจ้าสาว ที่หวังว่าจะมีคนเข้าใจเธอ แต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้นเมื่อชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์เธออย่างหนัก โดยตำหนิว่าเจ้าสาวรายนี้ที่มีตรรกะประหลาดในการเชิญแขกมาร่วมงานแต่งงานของเธอ

"ที่แท้แล้วจุดประสงค์ของคุณคือการหาเงินจากงานเลี้ยงแต่งงานของคุณเอง ไม่เป็นไรนะ ครั้งนี้ไม่สำเร็จก็แค่ลองแต่งใหม่อีกสัก 2-3 ครั้ง"

"คุณไม่ควรให้คนอื่นต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในงานแต่งงานของคุณ! ถ้าคุณต้องการให้มันหรูหรา คุณก็ควรจะจ่ายเงินเอง"

"โดยสรุปแล้ว ถ้าคุณไม่มีเงินพอที่จะจัดงานก็อย่าเชิญคนมา ไม่มีใครมีหน้าที่ต้องจ่ายเงินสำหรับงานแต่งงานในฝันของคุณ"

"ฉันรู้สึกโชคดีมากที่ไม่ใช่เพื่อนของคุณ"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook