ซีอีโอหญิงสุดช้ำใจ ถูกพ่อแม่ฟ้องศาล 4 ครั้ง เพียงเพราะเป็น "ลูกสาวคนโต"
ยิ่งกว่านิยาย ลูกสาวคนโตได้ดีเป็นซีอีโอ ถูกพ่อแม่ฟ้องศาล 4 ครั้ง ด้วยเหตุผลสุดเจ็บปวด เหมือนเป็นตู้ ATM ของครอบครัว
เซียว หนาน หญิงอายุ 33 ปี จากประเทศจีน ได้โพสต์เล่าความเจ็บปวดในชีวิตของตัวเองลงในโซเชียล ซึ่งยังหาทางออกไม่ได้ เรื่องราวของเธอได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก มีผู้แสดงความคิดเห็นในหลายแง่มุม
เซียว หนาน เป็นลูกคนโตในครอบครัวที่มีพี่น้อง 2 คน หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เธอทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตที่ดี หลังจากทำงานหนักหลายปี ตอนนี้เธอได้เป็น CEO ของบริษัทใหญ่ และมีรายได้ปีละ 5 ล้านหยวน (ราว 24 ล้านบาท)
เมื่อเทียบกับเพื่อนที่อายุเท่ากันในบ้านเกิด เซียว หนาน รู้สึกว่าตัวเองโชคดีกว่ามาก เพื่อนส่วนใหญ่ในบ้านเกิดถูกพ่อแม่บังคับให้ทำงานตั้งแต่อายุยังน้อยและไม่ได้ไปโรงเรียน แม้ว่าพ่อแม่ของเธอจะเป็นชาวนาและมีรายได้น้อย แต่พวกเขาก็ยังพยายามให้เธอได้รับการศึกษาอย่างเต็มที่ เธอจึงรู้สึกขอบคุณพ่อแม่เสมอที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้
พ่อแม่รักแต่ลูกชาย
ขณะเดียวกัน แม้น้องชายของเธอจะได้เข้าโรงเรียนดี ๆ แต่เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเรียน และสอบเข้ามหาวิทยาลัยล้มเหลวถึง 5 ครั้ง เขามีนิสัยดื้อรั้น ปฏิเสธที่จะหางานที่มั่นคง และหาข้อแก้ตัวเพื่อไม่ทำงานเสมอ แม้ว่าพ่อแม่จะรู้สึกเสียใจมาก แต่พวกเขาก็ยังตามใจน้องชาย ด้วยความคิด "ชายเป็นใหญ่" ทำให้พ่อแม่มักจะลำเอียง บังคับให้เธอเสียสละสิ่งดี ๆ ทั้งหมดให้น้องชาย
สำหรับเซียว หนาน เธอรู้สึกอยู่เสมอว่าพ่อแม่ให้ความสำคัญกับน้องชาย และมองว่าเธอเป็นส่วนเกิน แต่กลับถูกครอบครัวปฏิบัติเหมือนเป็นตู้ ATM
ตอนนี้ แม้ว่าเธอจะมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ฉันก็ยังต้องกังวลเรื่องครอบครัว ในช่วงวันหยุดและเทศกาลต่าง ๆ เธอจะรีบจัดการงานให้เสร็จเร็ว ๆ เพื่อกลับบ้านไปหาครอบครัว แต่เมื่อกลับบ้าน คำถามแรกของแม่คือ "เดือนนี้หาเงินได้เยอะไหม?" ทุกครั้งที่เธอกลับบ้าน ก็จะได้รับคำถามนี้ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดมาก
ถูกด่าว่า "อกตัญญู" เพราะไม่ให้เงินน้องชาย
เซียว หนาน เล่าต่อไปว่า พ่อแม่ไม่เคยถามถึงฉันหรือใส่ใจเธอเลย กลับให้ความสำคัญกับน้องชาย และตักอาหารอร่อย ๆ ใส่ชามของเขาเท่านั้น ไม่หยุดแค่นั้น พ่อแม่ยังเรียกร้องสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมองว่าเธอเป็นพี่สาวคนโต จึงต้องรับผิดชอบในการยอมสละสิ่งดี ๆ และดูแลชีวิตของน้องชาย
เมื่อเห็นว่าน้องชายว่างงาน พ่อแม่บังคับให้เซียวหนานให้น้องชาย 2 ล้านหยวน (9.7 ล้านบาท) เธอปฏิเสธอย่างหนักแน่นและบอกว่าน้องชายต้องทำงานหาเงินเอง เธอช่วยเหลือครอบครัวให้เงินพ่อแม่ใช้มากมาย รีโนเวทบ้านและซื้อของใหม่ ๆ ดี ๆ ให้ แต่พ่อแม่กลับด่าเธอว่า "อกตัญญู" และเธอก็ถูกแม่ตบหน้าอย่างแรง จนน้ำตาไหลและวิ่งออกจากบ้าน ด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีทางออก และเจ็บปวด
หลังจากนั้น เซียว หนานกลับไปที่บ้านเก็บของและกลับเข้าเมืองในคืนนั้นเลย ตอนนั้น เธอรู้สึกว่าตลอดหลายปีที่ทำงานหนักและพยายามมาตลอด พ่อแม่กลับไม่เห็นคุณค่า แต่กลับถูกเอาเปรียบเหมือนตู้ ATM เคลื่อนที่
ถูกพ่อแม่ฟ้อง 4 ครั้ง
ในวันถัดมา พ่อแม่ของเซียว หนาน ยังคงโทรหาเพื่อสั่งให้เธอให้เงินน้องชาย 2 ล้านหยวน เมื่อพวกเขาเห็นว่าเธอปฏิเสธ พ่อแม่จึงยื่นฟ้องศาลเรียกค่าเลี้ยงดูถึง 4 ครั้งในหนึ่งเดือน สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของเธอ แต่ยังทำให้เธอถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถูกนินทาจากลูกน้องและคู่ค้า
ทุกครั้งที่ต้องเผชิญกับความลำเอียงของพ่อแม่ เซียวหนานไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาไม่เคยเห็นความพยายาม ความทุ่มเทของเธอ แต่กลับคิดถึงเรื่องเงิน ผลประโยชน์ และลูกชายของเขาเท่านั้น เธอพยายามติดต่อกับพ่อแม่เพื่อปรับความเข้าใจและบอกถึงความรู้สึกของเธอ แต่พ่อแม่ไม่ฟังและขอเงินเท่านั้น
เซียว หนาน เผยว่าในใจเธอกำลังสับสน ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดี ทุกครั้งที่พ่อแม่ฟ้องศาลเธอรู้สึกเจ็บปวดและอับอายมากขึ้นเรื่อย ๆ
ส่วนน้องชายของเธอที่ไม่ต้องพยายามอะไรเลยแต่กลับได้ประโยชน์มากที่สุด เขายังคงใช้ชีวิตแบบไม่ใส่ใจและไม่พูดอะไรแทนพี่สาวเลย เธอจึงรู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงเครื่องมือหาเงินในครอบครัวนี้
หลังจากนั้นไม่นาน เพื่อนที่อยู่หมู่บ้านเดียวกับเธอ เล่าให้ฟังว่า ความขัดแย้งในครอบครัวของเธอได้รับความสนใจและถูกนินทาไปทั่ว บางคนคิดว่าเธอโหดร้ายเกินไปและไม่ยอมช่วยเหลือน้องชาย บางคนคิดว่าพ่อแม่ก็ทำเกินไปและไม่ควรบังคับลูกสาวเช่นนั้น ซึ่งเธอเองก็ยังไม่รู้ว่าต้องทำยังไง หรือรู้สึกยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้น