ครูฝรั่งวัย 39 ดับกะทันหัน ส่งศพกลับประเทศ พ่อแม่เปิดโลงช็อก! ไม่ใช่ร่างลูกตัวเอง

ครูฝรั่งวัย 39 ดับกะทันหัน ส่งศพกลับประเทศ พ่อแม่เปิดโลงช็อก! ไม่ใช่ร่างลูกตัวเอง

ครูฝรั่งวัย 39 ดับกะทันหัน ส่งศพกลับประเทศ พ่อแม่เปิดโลงช็อก! ไม่ใช่ร่างลูกตัวเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ครูฝรั่งวัย 39 ดับกะทันหัน ส่งศพกลับประเทศนานเกือบเดือน พ่อแม่เปิดโลงช็อกไม่ใช่ลูกตัวเอง แต่เป็นชายแก่ที่ไม่รู้จัก

ชายชาวอังกฤษวัย 39 ปีชื่อ เควิน ไนติงเกล ซึ่งทำงานเป็นครูในกัมพูชา เสียชีวิตอย่างกะทันหันในระหว่างที่ทำงานที่นั่น เมื่อพ่อแม่ของเขาในอังกฤษได้รับข่าวการเสียชีวิตของลูกชาย พวกเขาต้องรออย่างยาวนานกว่าจะได้ร่างของเขากลับมา แต่กลับพบว่าร่างที่กลับมาหาพวกเขา เป็นชายชราวัย 77 ปีที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ทำให้พ่อแม่ของไนติงเกลตกใจและเสียใจอย่างมาก

จากการรายงานของสื่อต่างประเทศ คู่สามีภรรยา สตีเฟน และ มอรีน ต้องเผชิญกับความสูญเสียในเดือนพฤษภาคม เมื่อไนติงเกล ลูกชายวัย 39 ปี ที่ทำงานเป็นครูในกัมพูชา ถูกพบว่าเสียชีวิตในบ้านพักเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม สาเหตุการเสียชีวิตคือหัวใจวายและตกจากบันได

ครูไนติงเกลครูไนติงเกล

สตีเฟนและมอรีนพยายามนำร่างของไนติงเกลกลับอังกฤษโดยเร็วที่สุด โดยพวกเขาใช้บริการจากบริษัทจัดการศพที่ตั้งอยู่ในกัมพูชา ซึ่งพบจากรายชื่อในเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ทั้งคู่ได้รับแจ้งว่าร่างของไนติงเกลได้มาถึงที่สถานรับศพในอังกฤษแล้ว แต่เมื่อไปตรวจสอบ กลับพบว่าเป็นร่างของชายชราวัย 77 ปีที่ไม่รู้จัก

ครอบครัวที่กำลังเศร้าโศกจากการสูญเสียไนติงเกลยิ่งรู้สึกเสียใจหนักขึ้น เมื่อพบว่าร่างที่ได้รับคืนไม่ใช่ของไนติงเกล ทั้งยังกลัวว่าหน่วยงานในกัมพูชาอาจเผาร่างของไนติงเกลไปแล้ว ทางบริษัทจัดการศพยอมรับว่าเกิดความผิดพลาดระหว่างการขนส่ง โดยได้นำร่างของชายชราอายุ 77 ปี ส่งคืนให้กับครอบครัวในแคนาดา และส่งร่างของไนติงเกลกลับมาให้ แต่เมื่อมอรีนเห็นร่างของลูกชาย ก็พบว่าร่างได้เน่าเสียจนไม่สามารถจดจำได้ และถูกเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพสั่งปิดโลงทันที เพราะกลัวว่าจะปนเปื้อนห้องเก็บศพของสถานรับศพ

ในที่สุด เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม สตีเฟนและมอรีนได้ฝังร่างของไนติงเกลข้างหลุมศพของคุณย่า แม้ทางบริษัทจัดการศพจะคืนค่าบริการในการขนส่งศพให้ แต่มอรีนยังคงโกรธและวิพากษ์วิจารณ์บริษัทจัดการศพอย่างหนัก โดยกล่าวว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดที่เธอเคยเจอในชีวิต และเรียกร้องให้มีผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook