ปลื้ม ไม่สนโพลล์ลั่นลงแข่งแล้วต้องชนะ
โค้งสุดท้าย สุขุมพันธุ์ มั่นใจนั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯส่วนปัญหาเก่าอภิรักษ์ ต้องหาทางสะสาง 9 ม.ค.จัดปราศรัยใหญ่ที่สวนเบญจสิริ ดึงนายกฯ อภิสิทธิ์ ชวน และอภิรักษ์ ขึ้นเวที แก้วสรร เล็งยกเลิกระบบซี ชี้ทำลายการสอนครูไทย แซม ชูยาหอมดูแล อปพร.ตำรวจบ้าน
เมื่อเวลา 06.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่หาเสียงที่บริเวณย่านตลาดบางแค โดยกล่าวว่าแม้จะเป็นช่วงสุดท้ายของการหาเสียง แต่ตนยังมีความมั่นใจและมีความพร้อมที่จะทำงานในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. หากไม่พร้อมคงไม่ลาออกจาก ส.ส.มาลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ก็จะไม่ประมาท
ส่วนในเวทีดีเบตที่มักจะถูกผู้สมัครผู้ว่าฯ ด้วยกันโจมตีการดำเนินงานสมัยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งมาจากพรรคประชาธิปัตย์นั้น ยอมรับว่าในบางโครงการคงต้องปรึกษาด้านกฎหมายก่อนดำเนินการต่อไปว่าสามารถทำได้หรือไม่ เช่น โครงการรถเมล์ด่วนพิเศษ(บีอาร์ที) การจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งตนเข้าใจความรู้สึกคนกรุงเทพฯ ดีว่า ช่วงนี้เกิดเพลิงไหม้บ่อยครั้งทำไมไม่สามารถนำรถดับเพลิงที่จัดซื้อมาและจอดไว้เฉยๆ ออกมาใช้ ซึ่งตนต้องขอดูหลักฐานให้ชัดเจนก่อน เพราะถ้านำรถดังกล่าวมาใช้ ก็จะเป็นการยอมรับว่าสัญญาที่ทำไว้นั้นถูกต้อง พร้อมยกตัวอย่างเหมือนกับซื้อของมาและคิดว่าเป็นของโจรแล้วเอามาใช้ก็เป็นการสมรู้ร่วมคิด และจะมีข้อกังขาตามมา
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ในวันศุกร์ที่ 9 ม.ค.นี้ ตนจะจัดปราศรัยใหญ่ที่สวนเบญจสิริ ตั้งแต่เวลา 17.00-21.00 น. โดยจะมีผู้ใหญ่และผู้บริหารของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) มาช่วยหาเสียงบนเวทีปราศรัยด้วย ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรค ปชป. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ปชป. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. และนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เป็นต้น
แก้วสรร เล็งยกเลิกระบบซี ชี้ทำลายการสอนครูไทย
ที่ลานอเนกประสงค์ ยู เซ็นเตอร์ หลังโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์ เวลา 10.00 น. นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) หมายเลข 12 กลุ่มกรุงเทพใหม่ แถลงนโยบายปฏิรูปการศึกษา พัฒนาครู ปฏิรูปโรงเรียนในสังกัดกทม.กว่า 435 แห่ง โดยจับมือกับอาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์ เพื่อสร้างเด็กกทม.ให้เก่งและหวังให้การศึกษาในกทม.ได้มาตรฐานเทียบเท่าสิงคโปร์
นายแก้วสรร กล่าวว่า การศึกษาที่ดีต้องทำให้เด็กเก่ง มีความสามารถในทุกๆ ด้าน และมีอนาคตที่ดี ผู้ที่จะเข้ามาเป็นผู้ว่าฯกทม. ต้องให้ความสำคัญเรื่องการศึกษาเป็นอันดับแรก ซึ่งกทม.มีครูอยู่ 13,000 คน นักเรียน 255,000 คน ตนียุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาโรงเรียนกทม.435 แห่งไปพร้อมๆกัน โดยให้กทม.เป็นศูนย์กลางในการกำหนดนโยบายและแนวทาง ซึ่งต้องค้นหาพัฒนาผู้มีความสามารถในการเป็นครู สร้างระบบการเรียนการสอนที่ดี สร้างโอกาสและขยายทางเลือกในการเรียนรู้ มีระบบบริหารจัดการที่ดีและจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเน้นการพัฒนาครูเป็นอันดับแรก
นายแก้วสรร ยังกล่าวถึงการพัฒนาครูว่า จะพัฒนา 3 ครู คือ 1.ครูปัจจุบัน ที่ต้องพัฒนาตั้งแต่ระบบการคัดการเตรียมความพร้อมให้ผู้ที่จะมาเป็นครู สร้างวงจรพัฒนาครู เน้นการสร้างเครื่องมือให้ครูพัฒนาตนเอง 2.ครูใหญ่ สร้างระบบคัดสรรเพื่อให้ได้ครูที่สอนเก่งเป็นครูใหญ่และเปลี่ยนจากการเรียกผู้อำนวยการมาเป็นครูใหญ่แบบเดิม 3.ครูโฉมใหม่ จะดึงคนเก่งจากด้านต่างๆ มาเป็นครู เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่และแรงบันดาลใจให้ครูไทย ซึ่งแนวคิดนี้ต้องทำร่วมกับภาคเอกชนและจะเห็นผลภายใน 4 ปี
ต้องยกเลิกระบบการเลื่อนขั้นครูตามระบบซี เพราะเป็นระบบบริหารที่มีมานาน ครูส่วนใหญ่มักจะสนใจทำผลงานเพื่อเลื่อนขั้นมากกว่าสอนนักเรียน ให้เปลี่ยนเป็นการเลื่อนขั้นตามระดับความสามารถ แต่เรื่องนี้คงต้องมาว่ากันอีกครั้งเพราะคนไทยยังไม่ให้การยอมรับ และต้องสร้างภาพลักษณ์ให้อาชีพครูมีคุณค่าไม่น้อยกว่าอาชีพหมอ ดึงคนเก่งเข้ามาทำงาน ให้ค่าตอบแทนมากขึ้น ถ้าเสนอนโยบายการปฏิรูปการศึกษากับทางกระทรวงศึกษาธิการแล้วไม่เห็นด้วย ก็เปลี่ยนมาทำในโรงเรียนเขตเทศบาลแทน นายแก้วสรร กล่าว
แซม ชูยาหอมดูแล อปพร.ตำรวจบ้าน
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 6 ม.ค. นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจบ้าน ปากซอยพหลโยธิน 54/4 เขตสายไหม โดยมีอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อปพร.) และตำรวจชุมชนกว่า 30 นายให้การต้อนรับ โดยนายยุรนันท์ กล่าวว่า ปัจจุบันสำนักงานเขตขึ้นทะเบียนอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ประมาณ 60,000 คน แต่ไม่มีการสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มอาสาสมัครเหล่านี้อย่างจริงจัง ทั้งที่อาสาสมัครเหล่านี้ทำหน้าที่สำคัญในการดูแลชุมชน ทั้งในด้านความปลอดภัย การช่วยงานดับเพลิง หรือแม้กระทั่งการจับงู ดังนั้นตนจึงมีนโนบายดูแลอาสาสมัครที่ทำงานเสียสละอย่างเต็มที่ ประกอบด้วย 1.จะดูกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับ อปพร.ว่ามีขอบเขตอำนาจหน้าที่เพียงใด และควรเพิ่มหน้าที่อย่างไรบ้าง เช่น การทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ การตรวจยาเสพติด เป็นต้น 2.สนับสนุนอุปกรณ์การทำงาน อาทิ วิทยุสื่อสาร รถช่วยดับเพลิง จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการทีวี กทม.ที่เชื่อมกับกล้องวงจรปิด CCTV ที่ติดตั้งภายในชุมชน เพื่อให้สามารถสอดส่องดูแลบริเวณชุมชนได้อย่างทั่วถึง และสะดวกสบาย้น 3.สนับสนุนงบประมาณประจำจากงบประมาณ กทม.ให้อาสาสมัครแต่ละชุมชนได้ใช้ทำงาน จากปัจจุบันชาวบ้านในชุมชนบริจาคกันเอง และ 4.ดูแลสวัสดิการ การช่วยเหลือเมื่อได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน
นายยุรนันท์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จะใช้โมเดลการดูแล อปพร.มาใช้กับตำรวจชุมชนด้วย ซึ่งอาจมีการจัดทำบัตรประจำตัวให้ด้วย เพื่อให้มีอาสาสมัครมาช่วยดูแลความเรียบร้อยในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ปลื้ม ไม่สนโพลล์ลั่นลงแข่งแล้วต้องชนะ
เวลา 12.30 น. ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) หมายเลข 8 สังกัด อิสระ ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณตลาดลุงเพิ่ม หลังการบินไทย พร้อมทีมรองผู้ว่าฯกทม. นายอภิรัตน์ ศิวพรพิทักษ์ และนายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา โดย ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กล่าวว่า ตลาดลุงเพิ่มหลังการบินไทยเป็นตลาดที่มีชื่อเสียงและมีรูปแบบการจัดการที่ชัดเจน ซึ่งตนต้องการทำให้ตลาด กทม.ได้มาตรฐานใกล้เคียง โดยใช้ 3 มาตรการ คือ 1.ยกระดับตลาด กทม.ให้ทัดเทียมและสามารถแข่งขันกับตลาดเอกชน 2.สร้างตราสินค้าของ กทม. โดยใช้ชื่อ การันตี บีเอ็มเอ แบรนด์ ซึ่งเป็นงานฝีมือของประชาชนที่ฝึกประกอบวิชาชีพกับศูนย์วิชาชีพทั่ว กทม. โดยขอความช่วยเหลือจากตลาดเอกชน เช่น ตลาดสดยิ่งเจริญ ตลาดลุงเพิ่มหลังการบินไทย และสวนลุมไนท์ บาร์ซ่า เพื่อใช้เป็นตลาดกลางผลิตภัณฑ์ชุมชนในการจำหน่ายและเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ และ 3.จัดทำตลาดกลางอาหารทั้ง อาหารแห้ง อาหารสด และอาหารปรุง ให้กระจายอยู่ทั่ว กทม.
มล.ณัฏฐกรณ์ กล่าวอีกว่า นโยบายด้านเยาวชนนั้น ตนจะผลักดันให้มีการปิดถนนในวันอาทิตย์อย่างน้อยหนึ่งสาย เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับเด็ก ส่วนศูนย์กีฬาในเขตต่างๆ ของ กทม. นั้น ต้องเพิ่มมาตรฐานและมีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงให้บริการภายในศูนย์กีฬาเพื่อให้เยาวชนมาใช้ได้อย่างสะดวกและเป็นการป้องกันปัญหาเด็กติดเกมส์ได้ในระดับหนึ่ง
เมื่อถามถึง ผลโพลล์ของสำนักต่างๆ ส่งผลกระทบหรือไม่ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กล่าวว่า ผลโพลล์ไม่มีความสำคัญสำหรับตน เพราะตนลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. เพื่อต้องการชนะการเลือกตั้งเท่านั้น