นายกฯรับคดีพธม.อืด ยันไม่เลือกปฏิบัติ

นายกรัฐมนตรี แจงการออกหมายเรียกกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นการเปิดโอกาสแสดงความบริสุทธิ์ใจ ขณะที่ยอมรับที่ผ่านมาล่าช้า ยืนยัน ไม่เลือกปฏิบัติ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การออกหมายเรียกแกนนำ และผู้ที่ขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จำนวน 79 รายว่า กรณีดังกล่าว เป็นการออกหมายเรียกให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งรัฐมนตรีในรัฐบาล ที่ถูกออกหมายเรียก ก็ได้ไปชี้แจงแล้ว โดยยืนยันว่าที่ผ่านมา ได้ให้มีการรายงานความคืบหน้าของคดีการชุมนุม ทางการเมืองทั้งหมด รวมถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง และให้มีการดำเนินการอย่างเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ แต่ยอมรับว่า ที่ผ่านมานั้นความคืบหน้าค่อนข้างล่าช้า

นอกจากนี้ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าการเสียชีวิตของ นายกองค์การบริหารส่วน จ.นครสวรรค์ เกี่ยวข้องกับการยกเลิกการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือไม่ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องไปดูและประเมิน หากจังหวัดใดมีการยกเลิก แล้วมีปัญหาก็สามารถประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใหม่ได้

นายกให้คลังดูปรับโครงสร้างภาษีคาดสิ้นปีได้ข้อสรุปยันไม่เพิ่มVAT

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับโครงสร้างภาษีว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังพิจารณา เพราะต้องกันให้ฐานภาษีกว้างขึ้นและมีการสลับซับซ้อนน้อยลง โดยยืนยันว่า ไม่มีความเชื่อมโยงกับการเพิ่มสวัสดิการให้กับสังคม และจะมีการปรับขึ้นภาษี แต่ต้องการคนเสียภาษีอย่างถูกต้อง ลดการทุจริตเกิดการเป็นธรรมในสังคม โดยคาดว่าอาจจะได้ข้อสรุปในสิ้นปีนี้ รวมทั้งจะยังไม่มีการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เพราะยังไม่มีความจำเป็นและขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกันเห็นว่า กรณีสถานบันทางการเงินยื่นเรื่อง ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ กรณีที่มีมูลค่าหลักประกันเกินมูลค่าหนี้นั้น ไม่น่าจะเป็นปัญหา ซึ่งตนเองได้มีการเร่งรัดเลขาธิการกฤษฎีกาให้เร่งดำเนินการแล้ว เพื่อไม่ให้กระทบต่อการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร ส่วนการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่แบบ ริทเทน ที่มีรายงานว่าแพงกว่าที่โรมันเนียซื้อถึง 1,200 ล้านบาท นั้น นายกฯได้พูดคุยกับปลัดกระทรวงกลาโหมแล้ว ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง ซึ่งเบื้องต้นต้องดูรายละเอียดว่าการซื้อขายมีข้อตกลงแตกต่างกันอย่างไร