เป็นซะเอง! "พยาบาล" ป่วยมะเร็งปอด ดื้อ "รักษา" แบบขัดกับคำสั่งหมอ สุดท้ายจบไม่สวย

เป็นซะเอง! "พยาบาล" ป่วยมะเร็งปอด ดื้อ "รักษา" แบบขัดกับคำสั่งหมอ สุดท้ายจบไม่สวย

เป็นซะเอง! "พยาบาล" ป่วยมะเร็งปอด ดื้อ "รักษา" แบบขัดกับคำสั่งหมอ สุดท้ายจบไม่สวย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 เป็นซะเอง! "พยาบาล" เข้ารักษามะเร็งปอด ดื้อไม่ทำสิ่งนี้ตามหมอสั่ง สุดท้ายลามขึ้นสมอง

มะเร็ง เป็นภาระของโรคร้ายที่กระบวนการรักษามักใช้เวลานาน ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากยอมแพ้ ซึ่งมีหลายกรณีอุทาหรณ์ที่ ที่ผู้ป่วยแสวงหาการรักษาโดยใช้วิธีการอื่นๆ นอกจากคำทางการแพทย์ สุดท้ายกลายเป็นอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตของพวกเขามากขึ้น

เช่นเดียวกับกรณีในประเทศเวียดนาม Dr.Tran Duc Canh แพทย์จากแผนกส่องกล้องและการสำรวจเชิงหน้าที่ โรงพยาบาลเค ฮานอย แชร์เคสพยาบาลหญิงอายุ 52 ปี ถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉินในอาการค่อนข้างร้ายแรง ผู้ป่วยหมดสติ มะเร็งลุกลามไปยังสมองและอวัยวะส่วนต่างๆ

หลังจากที่ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉิน แพทย์ได้ตรวจร่างกายและพบว่าผู้ป่วยมีพยากรณ์โรคที่ไม่ดี  จากประวัติทางการแพทย์พบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ป่วยเคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอด ได้รับการรักษาอย่างมีเสถียรภาพ ทั้งเคมีบำบัดและรังสีรักษา กระทั่งกลับมามีสุขภาพแข็งแรงเป็นเวลาหลายปี

อย่างไรก็ดี เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นอีก ทำให้เยื่อหุ้มปอดไหล แพทย์สั่งจ่ายเคมีบำบัด แต่ผู้ป่วยละทิ้งและขอออกจากโรงพยาบาลโดยเร็ว ตามคำกล่าวของครอบครัว เมื่อกลับถึงบ้านก็ทำการพยาบาลรายนี้หวังที่จะ "ดูดซับพลังงานจากสวรรค์และโลก" ด้วยความปรารถนาที่จะ "รักษา" โรคมะเร็ง หรือทำให้เนื้องอกเล็กลง

หลังจากรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธี “นอกรีต” ที่ไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ ผ่านมาหนึ่งเดือน ร่างกายของผู้ป่วยอ่อนเพลียน้ำหนักลดลง 10 กิโลกรัม โรคลุกลาม เซลล์มะเร็งได้แพร่กระจายไปยังสมอง ทำให้เกิดภาวะสูญเสียความทรงจำ ถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉินในอาการค่อนข้างร้ายแรง

“นี่เป็นกรณีที่ค่อนข้างโชคร้าย เมื่อผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ก็ถอนหายใจ และรู้สึกเสียใจที่ผู้ป่วยไม่รับโอกาสในการรักษา” คุณหมอกล่าว

ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอกวิทยา ยืนยันว่าวิธีการทำสมาธิ การใช้สมุนไพร และการอดอาหารเพื่อ "รักษา" มะเร็ง ล้วนขัดกับวิธีรักษาทั่วไป เช่น การผ่าตัด เคมีบำบัด รังสีบำบัด และภูมิคุ้มกันบำบัด

สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง ทุกคนต้องปฏิบัติตามแนวทางการรักษาของแพทย์ นอกจากนี้ผู้ป่วยยังต้องใส่ใจเรื่องโภชนาการเพื่อช่วยให้สุขภาพดีขึ้น ป้องกันภาวะแทรกซ้อน และลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง

ทั้งนี้ สถานการณ์โรคมะเร็งในเวียดนามกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น จากข้อมูลในการประชุมมะเร็งแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันโรคมะเร็งประจำปี 2022 จำนวนผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา จาก 68,000 รายในปี 2000 เป็นมากกว่า 180,000 ราย ในปี 2022 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook