ชทพ.ลุ้นศาลตัดสิทธิสส. หลังกกต.ส่งศาลพิจารณาคุณสมบัติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งจะวินิจฉัยคำร้องของ กกต.กลาง กรณี นายอดุลย์ เหลืองบริบรูณ์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา จ.อุทัยธานี แจ้งรายชื่อพร้อมสำเนาใบสมัครไม่ตรงตามกำหนดของนายทะเบียนพรรคการเมืองว่า หากศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งวินิจฉัยว่า ผู้สมัครมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วน ตนเชื่อว่าจะมีผลกับผู้สมัครรายอื่นของพรรค และส่งผลให้ผู้สมัครที่เหลือของพรรคการเมืองอื่นจะต้องทำคะแนนให้ได้ถึงร้อย ละ 20 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตนั้น เพื่อรักษาฐานเสียงของพรรคไว้ โดยภาพรวมหากมีการตัดสิทธิผู้สมัครจะกระทบกับฐานเสียงของรัฐบาลแน่นอน
ทั้งนี้ นางสดศรี ระบุว่า กรณีที่ักการเมืองรู้ตัวว่า ไม่มีสิทธิสมัคร แต่ไปสมัคร กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มา ซึ่ง ส.ว.ระบุว่า มีความผิดจำคุก 1-10 ปี ปรับ 1-2 แสนบาท นอกจากนี้ต้องถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ส่วนกรณีพรรคการเมืองถือเป็นผู้สนับสนุน ศาลเคยมีคำวินิจฉัยกรณีคล้ายกันแล้ว ถือว่าเป็นความผิดเช่นกัน ปัญหานี้เป็นปัญหาสำคัญ เราต้องยอมรับว่าพรรคชทพ.เป็นพรรคที่ตั้งขึ้นใหม่เมื่อเดือน พ.ค.ปีที่ผ่านมา จึงมีประเด็นว่า ท่านรู้ก่อนที่พรรคชาติไทยจะถูกยุบพรรคหรือไม่
ส่วนของกกต.ไม่ได้มุ่งประเด็นว่าพรรคชทพ.มีการรับสมัครสมาชิกย้อนหลัง หรือไม่ โดยการอนุมัติให้ผู้สมัครสมัครได้เป็นดุลยพินิจของ กกต.จังหวัด ซึ่ง กกต.ถือว่า กกต.จังหวัดใช้ดุลยพินิจโดยชอบ การจะไปพิจสูจน์ว่ามการเข้าข้างพรรคการเมืองหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ต่อไป นางสดศรี กล่าว
อย่างไรก็ตาม กกต.ยังตรวจสอบพบว่า ผู้สมัครของพรรคชทพ. จำนวน 12 คน ส่งหลักฐานการสมัครไม่ตรงตามกำหนดของนายทะเบียนพรรคการเมือง โดยผู้สมัครทั้ง 12 คนสมัครเป็นสมาชิกพรรคระหว่างวันที่ 8-9 ตุลาคม 2551 ตามระเบียบของนายทะเบียนพรรคการเมือง พรรคการเมืองจะต้องส่งเอกสารหลักฐานมาที่นายทะเบียนภายในวันศุกร์ของสัปดาห์ ที่สมัคร คือ วันที่ 10 ตุลาคม 2551 ขณะที่พรรคชทพ.ส่งหลักฐานมายัง กกต.ในวันที่ 12 ธันวาคม 2551 ซึ่งถือเป็นการส่งเกินกำหนดไปกว่า 2 เดือน