เมียน้อยตั้งครรภ์บุกถึงบ้าน เมียวางใบหย่า พร้อมจม.เฉลยความจริง อ่านแล้วจุกอก
เมียน้อยตั้งครรภ์บุกมาเรียกร้องสิทธิถึงบ้าน เมียหลวงอย่างไปอย่างเงียบ ๆ วางใบหย่าพร้อมเอกสารเผยความจริง ผัวอ่านจดหมายยิ่งจุกอก
เว็บไซต์ Kênh Sao รายงานเรื่องราวของชายหนุ่มชาวเวียดนามรายหนึ่ง ซึ่งเผลอตัวเผลอใจมีสัมพันธ์กับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยา สุดท้ายอีกฝ่ายตั้งครรภ์และบุกมาเรียกร้องสิทธิถึงบ้าน แต่เรื่องราวหลังจากนั้นทำให้เขาได้รู้ความจริงที่ภรรยาเก็บเงียบมานาน
นายเอ (นามสมมุติ) ปัจจุบัน อายุ 32 ปี ทันทีหลังจบปริญญาตรี เขาก็ได้งานที่สร้างรายได้ดีในบริษัทก่อสร้างในเมือง เมื่ออายุ 27 ปี เขาแต่งงานกับ นางบี (นามสมมุติ) เธออายุน้อยกว่าเขา 4 ปี เป็นครูสอนภาษาต่างประเทศในโรงเรียนมัธยมปลาย เป็นลูกสาวคนเล็กของเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยยังเด็กของพ่อแม่
เมื่อรู้ว่าทั้งสองคนรักกัน ครอบครัวทั้งสองฝ่ายจึงสนับสนุนอย่างเต็มที่ นางบีมีทั้งความสวย สงบ นุ่มนวล เธอเป็นคนสุภาพ อ่อนน้อม เคารพผู้ใหญ่ และดูแลผู้น้อย ทำให้ไม่เพียงแต่ครอบครัวสามีรักใคร่ แต่ยังทำให้ทุกคนที่ได้พบเจอประทับใจในตัวเธอ
หลังจากแต่งงานด้วยการสนับสนุนทางการเงินจากพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย และเงินกู้จากธนาคาร ทั้งคู่สามารถซื้อคอนโดมิเนียมที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเพื่อแยกครอบครัวออกมาอยู่เอง
นายเอเป็นลูกชายคนโต มีน้องสาวที่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว ดังนั้นหลังจากรอคอยมา 3 ปี แต่ภรรยาก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะตั้งครรภ์ พ่อแม่ของเขาจึงเริ่มกังวลและเร่งเร้า
สำหรับนายเอ เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับการที่ทั้งคู่ยังไม่มีลูก เพราะทั้งเขาและภรรยาสุขภาพแข็งแรง รักใคร่กลมเกลียว และไม่ได้ใช้วิธีคุมกำเนิดใด ๆ และความสัมพันธ์ยังดีเหมือนยังคงเป็นคู่แต่งงานใหม่อยู่เสมอ
แรงกดดันในการมีทายาททำให้พ่อแม่ของนายเอยืนกรานให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาได้ทันท่วงที เมื่อทำการตรวจทุกอย่างเสร็จสิ้น นายเอได้รับคำสั่งให้ติดตามผู้จัดการไปลงนามสัญญาธุรกิจที่ต่างจังหวัด ด้วยความตื่นเต้นกับการเดินทางไกลครั้งแรก จึงลืมถามภรรยาถึงผลการตรวจสุขภาพไปเสียสนิท
กว่า 10 วันที่พักอยู่ในจังหวัดดังกล่าว ไม่เพียงได้ชื่นชมและสำรวจความงามที่แตกต่างจากเมืองที่อาศัยอยู่ แต่นายเอยังได้รู้จักกับหญิงสาวสวยสดใสชื่อ ทุย (นามสมมุติ) เธออายุเพียง 21 ปี มีผิวขาวเนียนเหมือนไข่ปอก ตาดำ ผิวแก้มชมพู และมีท่าทางที่อ่อนโยนทุกย่างก้าว รวมถึงคำพูดที่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกประทับใจ ทุยเป็นพนักงานของร้านอาหารในรีสอร์ตที่เขาพัก จึงทำให้เขาได้มีโอกาสพบปะและพูดคุยกับเธออยู่เสมอ
หลังจากกลับมาบ้าน ภาพของทุยยังคงวนเวียนอยู่ในใจ เขาจึงอ้างกับภรรยาว่าต้องไปสำรวจงาน แล้วแอบบินไปหาทุยทุกครั้งที่มีเวลาว่าง กระทั่งได้มีช่วงเวลาเร่าร้อนในโรงแรมด้วยกัน
เมื่อได้รับข่าวว่าทุยตั้งครรภ์ นายเอทั้งดีใจและกังวลไปพร้อมกัน เขาไม่กล้าบอกภรรยา จึงรีบโทรหาพ่อแม่เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ทันที่ทั้งสามจะได้ปรึกษากันเพื่อหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ ในค่ำวันหนึ่ง ทุยก็ปรากฏตัวขึ้นที่บ้านของเขาและภรรยา เธอประกาศอย่างเปิดเผยว่าเธอตั้งครรภ์กับนายเอได้ 3 เดือนแล้ว และต้องการสถานะที่ชัดเจน
ขณะที่นายเอตัวสั่น เหงื่อไหลท่วมตัว รู้สึกเหมือนอาชญากรที่กำลังรอคำตัดสินจากศาล แต่ภรรยากลับสงบอย่างน่าประหลาด เธอเก็บข้าวของอย่างเงียบ ๆ และออกจากบ้านที่เคยเป็นสถานที่แห่งความสุขของทั้งคู่ โดยไม่มีความลังเล
พร้อมวางใบหย่าที่เธอเซ็นไว้แล้ว และจดหมายที่มีผลตรวจสุขภาพการเจริญพันธุ์ แพทย์สรุปว่านายเอเป็นหมันโดยสมบูรณ์ เนื่องจากความผิดปกติของอสุจิ ส่วนภรรยาของเขาปกติดีทุกอย่าง
ข้อความในจดหมายของภรรยา ทำให้นายเอเจ็บปวดและเสียใจอย่างที่สุด
“เพราะรักพี่ เพราะอยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับคนที่ฉันสาบานว่าจะอยู่ด้วยตลอดชีวิต ฉันจึงยอมรับว่าจะไม่ได้เป็นแม่ และเพื่อรักษาหน้าพี่ ฉันจึงกล้ำกลืนน้ำตาเพื่อทำหน้าที่ลูกสะใภ้และภรรยาที่ดีอย่างเต็มที่ แต่สุดท้าย…”
หลังจากเรื่องราวของชายรายนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เข้ามาตำหนิการกระทำของเขา บางส่วนก็แนะนำให้เขาปล่อยวาง และเคารพการตัดสินใจของภรรยา อาทิ
"เขายังไม่ทันดีใจที่ภรรยาน้อยตั้งครรภ์ ก็ต้องมาช็อกเมื่อภรรยาของตัวเองเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับ "ความเป็นลูกผู้ชาย" ของเขา สุดท้ายเพราะความเห็นแก่ตัว ใช้ชีวิตที่ตามใจตนเอง ทำให้เขาสูญเสียทั้งความสุขในครอบครัว และความรักที่ซื่อสัตย์จากภรรยาที่แสนดี"
"ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่วิเศษมาก แม้เธอจะรู้ดีว่าเขาไม่มีความสามารถในการเป็นพ่อ แต่เธอก็ยังยอมรับและเก็บเรื่องสำคัญนี้ไว้เป็นความลับ เพื่อรักษาหน้าของเขาทั้งในครอบครัวและต่อสาธารณชน"
"ตามความคิดเห็นของฉัน ราคาที่คุณต้องจ่ายสำหรับการทรยศภรรยานั้นถือว่าเหมาะสมแล้ว ด้วยวิธีการแก้ปัญหาที่เฉียบแหลมและเด็ดขาดของเธอ ฉันคิดว่าคุณคงไม่มีโอกาสที่จะยื้อชีวิตแต่งงานของคุณอีกแล้ว"
"แทนที่จะบ่น เสียใจ และทนทุกข์ คุณควรขอโทษภรรยาอย่างจริงใจ และเคารพในการตัดสินใจของเธอ เพื่อให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและมีความสบายใจ"
และ "ถึงอย่างไร ก็ขอแสดงความเห็นใจในความโชคร้ายที่คุณกำลังเผชิญ แม้ว่าจะเป็นความผิดของคุณเอง ขอให้คุณมีความเข้มแข็งและอย่าปล่อยให้ความเศร้าส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณ เวลาจะช่วยให้คุณคลายความทุกข์ลงได้บ้าง"