เห็นกับตาตัวเอง บ้านตรงข้ามจุดเครื่องบินตกบางปะกง เล่านาทีสลด เกิดอะไรขึ้น?
ชาวบ้านเล่านาทีสลด เครื่องบินเล็กตกบางปะกง เหตุเกิดหน้าบ้าน ยืนยันไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ มีเพียงเสียงของตัวเครื่องบินแหวกอากาศ
วันนี้ (25 ส.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายปิติ อายุ 50 ปี ชาวบ้าน ม.6 ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับป่าแสม จุดเกิดเหตุเครื่องบินเล็กตก จนทำให้มีผู้สูญหายจำนวน 9 ราย เมื่อเวลา 14.56 น. วันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา ว่าขณะนี้ในพื้นที่เริ่มมีกลิ่นเน่าเหม็นโชยออกมาจากผืนป่าแสมด้านฝั่งตรงข้ามบ้านของตนแล้ว โดยเฉพาะยามดึกสงัดในเวลากลางคืน และในช่วงเช้าก่อนรุ่งสาง โดยได้เริ่มมีกลิ่นโชยออกมาตั้งแต่เมื่อเช้าวานนี้แล้ว
ส่วนในวันเกิดเหตุนั้น ตนเห็นเหตุการณ์พอดี ในขณะที่กำลังนำถุงขยะเปียกของภรรยาออกไปวางกองทิ้งไว้ที่ริมถนน ด้านฝั่งตรงข้ามหน้าบ้าน ซึ่งเป็นฝั่งเดียวกันกับป่าแสม จุดที่มีเครื่องบินตกลงมาพอดี จึงมองเห็นเหตุการณ์ด้วยตาตนเอง โดยในวันนั้นได้ยินเพียงเสียงของตัวเครื่องบินแหวกอากาศดังอู้ ๆ ยังนึกว่าเป็นการบินผาดแผลงเล่น เพราะเห็นว่าเป็นเครื่องบินเล็ก ก่อนที่จะเห็นตัวเครื่องพุ่งดิ่งตรงลงไปยังพื้นดินภายในป่าแสมต่อหน้า
นายปิติ ยังบอกว่า โชคยังดีที่จุดที่เครื่องบินตกนั้นมีสภาพเป็นบ่อเลน หากไม่อย่างนั้นตนเองคงถูกชิ้นส่วนจากแรงระเบิดกระเด็นพุ่งเข้ามาใส่จนเสียชีวิตไปแล้ว โดยมีเสียงดังบึ้มใหญ่ แต่ตัวเครื่องยังไม่ได้ระเบิดในขณะที่ยังอยู่บนอากาศ ตนเองจึงได้วิ่งหนีข้ามถนนมายังฝั่งเดียวกันกับบ้านพัก จากนั้นยังได้วิ่งหนีตายต่อไปอีก และเข้าไปอยู่ยังในตัวบ้าน
ซึ่งขณะเกิดเหตุนั้นขอยืนยันว่าไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ แต่ได้ยินเพียงเสียงดังอู้ ๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองดู โดยเป็นเสียงดังแบบใบพัดลมตัดแหวกอากาศเท่านั้น
ในครั้งแรกที่เห็นบินอยู่ในท่าหัวปักลงมา ก็เข้าใจว่าเดี๋ยวคงจะพลิกตัวเชิดหน้าเหินขึ้นฟ้าไป แต่กลับไม่ได้เป็นไปตามคาด กลายเป็นการเสียบบั้งปักลงไปยังในป่าเลน หลังเครื่องตกพื้นแล้วแรงระเบิดยังทำให้ดินพุ่งกระจายออกมาจากจุดเกิดเหตุลอยมาถึงยังในตัวบ้าน ซึ่งอยู่คนละฝั่งถนนกัน
และหลังเหตุการณ์เริ่มสงบลงแล้ว จึงได้ออกไปดูยังที่จุดเครื่องบินตก โดยเห็นแต่เพียงส่วนของหางโผล่ขึ้นมาจากพื้นดินเลน และเมื่อเข้าไปแล้วจึงได้รีบถอยออกมา เนื่องจากมีกลิ่นน้ำมันฟุ้งกระจายเต็มไปหมด จึงเกรงว่าอาจจะระเบิดซ้ำขึ้นได้อีก และอาจทำให้ตนถูกไฟคลอกตายได้
ขณะที่ นางมะปราง อายุ 62 ปี กล่าวว่า ตกใจเพราะเสียงเครื่องบินตกลงมานั้นดังแรงสนั่น เมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นที่หน้าบ้าน จึงทำให้พากันหวาดกลัวไปตาม ๆ กัน โดยเกรงว่าจะไปกันไม่หมด และกลัวว่ากลิ่นจะโชยเข้ามาถึงในบ้าน จึงอยากให้ผู้รับผิดชอบมาเก็บชิ้นส่วนต่าง ๆ ออกไปจากพื้นที่ให้หมด หากเก็บออกไปได้ไม่หมด ก็อาจจะส่งกลิ่นออกมารบกวนต่อชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนี้ได้
แต่ก็เข้าใจว่าการจะเก็บออกไปให้หมดเกลี้ยงจากพื้นที่เลยนั้น ก็คงเป็นเรื่องยาก เพราะจมอยู่ลึกในบ่อโคลน และมีสภาพแหลกเละจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร หรือหากนำดินมาถมกลบเอาไว้ได้ก็น่าจะดีกว่าปล่อยให้ส่งกลิ่นออกมาภายนอก
ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นในขณะเกิดเหตุนั้น ก็มีเพียงเศษดินที่ปลิวลอยออกมา และมาตกลงในบริเวณบ้าน โดยเฉพาะที่บริเวณหน้าศาลพระภูมิเจ้าที่หน้าบ้าน โดยเครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุนั้นมาแบบเงียบ ไม่ได้มีเสียงเครื่องยนต์คล้ายกับเครื่องดับ จากนั้นจึงร่วงลงมาอย่างแรง แต่ยังดีที่ไม่ได้ตกลงมาใส่ที่บ้านของตน นางมะปราง กล่าว
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ