ผัวเมียร้านขายผลไม้ ป่วยมะเร็งตับทั้งคู่ หมอซักจนรู้สาเหตุ จากนิสัยการกินอย่างประหยัด
สามีภรรยาเจ้าของร้านผลไม้ วัย 40 ปี ป่วยเป็นมะเร็งตับทั้งคู่ หมอซักจนรู้สาเหตุ เสียดายผลไม้ที่เน่าเสีย เก็บส่วนดีไว้กินเองมาเป็นเวลานาน
เว็บไซต์ SOHA รายงานว่า สามีภรรยาคู่หนึ่งอายุ 40 ปี จังหวัดบั๊กซาง จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนาม ประกอบอาชีพขายผลไม้ที่ตลาด เมื่อเร็ว ๆ นี้ ฝ่ายสามีรู้สึกเหนื่อยง่าย ขณะที่ภรรยารู้สึกว่าตนเองน้ำหนักลดลง ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงการกินอาหาร ด้วยความเคยชินกับการใช้ชีวิตที่ยุ่งวุ่นวาย ทั้งสองจึงคิดว่าความเหนื่อยล้าคงเป็นเพราะทำงานหนักเกินไป
เมื่อสามีรู้สึกเจ็บและแน่นบริเวณท้องด้านขวาหลายครั้ง เขาจึงไปตรวจที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด ผลการอัลตราซาวด์พบว่ามีก้อนเนื้อขนาด 6 ซม. ในตับ ซึ่งสงสัยว่าเป็นเนื้องอกที่ร้ายแรง จึงต้องรีบส่งตัวไปตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลระดับสูง
นพ.ฮา ไฮนาม รองหัวหน้าแผนกศัลยกรรมช่องท้องของโรงพยาบาลเค เปิดเผยว่า เมื่อคู่สามีภรรยามาถึงห้องตรวจ แพทย์สังเกตเห็นอาการผิดปกติของภรรยา เช่น ริมฝีปากคล้ำ ตาขาวมีสีเหลือง และผิวแห้ง แพทย์จึงแนะนำให้เธอตรวจเพิ่มเติม ผลการตรวจพบว่าภรรยาก็มีก้อนเนื้อในตับเช่นกัน และขนาดของก้อนเนื้อใหญ่กว่าของสามี โดยก้อนเนื้อได้กดทับทางเดินน้ำดี ทำให้ท่อน้ำดีขยาย
หลังจากพูดคุยกับผู้ป่วย แพทย์พบว่าทั้งคู่มีนิสัยการกินอาหารที่ประหยัดแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพมาก ขณะขายผลไม้ จะมีผลไม้ที่ช้ำหรือเน่าเสียอยู่บ้าง ในวันที่ลูกค้าน้อย ผลไม้เก็บไว้นานก็มีโอกาสขึ้นราและเน่าเร็วขึ้น ไม่มีใครซื้อต่อและทิ้งก็เสียดาย สามีภรรยาจึงปอกส่วนที่เสียออก เก็บส่วนที่เหลือไว้ในตู้เย็นแล้วค่อย ๆ กินทีละน้อย
ตามที่แพทย์กล่าว อะฟลาท็อกซินซึ่งเป็นสารพิษที่เกิดจากผลไม้เน่าเสีย จะค่อย ๆ แทรกซึมเข้าสู่เซลล์ตับและทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง สารนี้มีความเป็นพิษสูง เพียงแค่ดูดซึม 1 มิลลิกรัมก็สามารถทำให้เกิดมะเร็งได้ หากดูดซึม 20 มิลลิกรัมในครั้งเดียว อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตทันที