"นาตาลี เดวิส" เปิดใจหลังย้ายกลับไทยถาวร สามีนักการทูตหมดประจำการ

"นาตาลี เดวิส" เปิดใจหลังย้ายกลับไทยถาวร สามีนักการทูตหมดประจำการ

"นาตาลี เดวิส" เปิดใจหลังย้ายกลับไทยถาวร สามีนักการทูตหมดประจำการ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นาตาลี เดวิส เปิดใจครั้งแรก หลังตามสามีนักการทูตไปใช้ชีวิตที่อเมริกานาน 3 ปี ตอนนี้กลับมาเมืองไทยถาวร พร้อมควงลูก น้องเบน-น้องเนลลี่ เปิดตัวครั้งแรก จะแสบซ่าขนาดไหน เลี้ยงลูกเป็นอย่างไรบ้าง ผ่านทางรายการคุยแซ่บ Show ช่องOne31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ, เป็กกี้ ศรีธัญญา, ดีเจพุฒ พุฒิชัย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

 คนโตเคยมาแล้ว?

“ตอนกลับมาเที่ยวเมืองไทยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเขาเพิ่งขวบ 10 เดือน ตอนนี้ 3 ขวบ 7 เดือน” 

เนลลี่มาเมืองไทยครั้งแรก?

“ใช่ค่ะ เพราะเกิดที่โน่น น้อง 7 เดือนกว่าๆ เบนเป็นชื่อแอร์พอร์ต สนามบินที่แรกที่เจอสามี เป็นสนามบินที่อิสราเอล ก็เลยตั้งใจให้ชื่อเบน แต่เนลลี่ เป็น น. เหมือนนาตาลี”

 เบนวัยกำลังปล่อยพลัง?

“ใครมีลูกวัยนี้ก็โอ้โห (หัวเราะ)”

เพิ่งย้ายกลับมาเมืองไทย?

“ใช่ค่ะ ย้ายกลับมาได้เดือนนิดๆ (ถอนใจก่อนหัวเราะ) เหนื่อยค่ะ การเดินทางมันเหนื่อยอยู่แล้ว บินเองลำพังก็เหนื่อยแล้ว วันที่บิน มีนาตาลี สามี คุณยาย เด็กสองชีวิต แมวอีกสอง เหมือนคนบ้า โอ้โห อุปกรณ์เยอะมาก แต่ไม่งอแง อย่างเบนที่บินมาสองคนแม่ลูกเขาก็โอเคมาก บอกให้นั่งรอ เขาก็นั่งรออยู่กับที่ ไม่ได้งอแงอะไร เนลลี่ก็ไม่งอแงอะไร เลี้ยงง่ายทั้งสองคน”

ย้ายมาถาวร?

“ใช่ค่ะ สามีหมดประจำการแล้ว เขาเป็นนักการทูตแล้วหมดประจำการ 3 ปี พอกลับมาก็จะมีคนอื่นจากกระทรวงไปแทน สลับๆ กันไป ตอนนี้ลังของที่บินมาพร้อมกับเรา กับที่ส่งเรือตามมาทีหลัง ก็มีแกะบ้างไม่แกะบ้าง เหนื่อย ไม่ไหว”

มีอะไรต้องปรับตัว?

“เรื่องสภาพอากาศ อยู่ที่โน่นเย็นและแห้งกว่า วันแรกๆ ที่กลับมา เบนบอกว่าจั๊กกะแร้เหนียวหนึบไปหมด เพราะที่โน่นวิ่งยังไงก็ไม่มีเหงื่อ แต่ที่นี่มันร้อน แต่เขาก็เอ็นจอย วิ่งจนผมเปียก แก้มแดง” 

ไม่พูดไทย แต่ฟังภาษาไทยรู้เรื่อง เป็นเด็กพลังเยอะมากๆ?

“ถ้าอยู่ที่โน่นเขาชอบไปสวนสาธารณะ ไปเตะบอล แต่ที่นี่จะพาไปเอาต์ดอล์ ขี่จักรยาน คาเฟ่เด็กเยอะก็พาไปเล่น” 

การปรับตัวเป็นไงบ้าง?

“เขาก็งงๆ เรื่องภาษา เพราะอยู่ที่โน่นเขาอยู่โรงเรียนแล้วประมาณครึ่งปี ก็เลือกใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก อยู่ที่โน่นสภาพแวดล้อมเป็นภาษาอังกฤษหมด ก็เข้าใจ ตอนเด็กๆ เราก็เป็นเหมือนกัน บางทีคนไทยมาพูดภาษาอังกฤษกับเรา เราก็ตอบเป็นภาษาไทย เพราะดูจากผมสีดำ น่าจะเป็นวิธีการคิดของเด็กว่าเขาดูจากอะไร แต่ภาษาไทยเขาฟังรู้เรื่องหมด” 

ได้อธิบายเขามั้ย?

“ช่วงสองสามเดือนก่อนกลับ เราต้องแพ็กของจริงจัง ช่วงที่ทรมานมากคือช่วงสองวีคที่เราต้องบินกลับ ต้องเริ่มทยอยขายเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน โซฟา ตู้ โต๊ะ เตียง ตอนเช่าเราเช่าบ้านโล่งไงคะ แล้วต้องแยกเป็นสองลัง ลังแรกมาเครื่องบิน อีกลังมากับเรือ กลับมารอบนี้ไม่เจ็ตแล็กเลย เพราะเซ็ตเวลาแล้วเรียบร้อย”

พอต้องย้ายกลับไทย ใครเศร้าสุด?

“น่าจะเบน เพราะเขาไปโรงเรียนมาแล้ว เขารักเพื่อน รักครูมาก แล้วของเล่นเขา หนังสือ เขาจะหวงมาก เหมือนโดนแพ็กใส่ลัง ก็เลยเหมือนเอาของเล่นเขาไปไหน เอาไปทิ้งหรือเปล่า เขาไม่เข้าใจ วันนึงพาแมวไปทำเอกสารเอากลับมาเมืองไทย ที่โรงเรียนโทรมา เราก็โอ้โห คิดว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ คุณครูบอกว่าเขาเหวี่ยงวีนอยู่ที่โรงเรียน โมโหเรื่องอะไรไม่รู้ ครูไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เลยไปรับตอนเที่ยง แล้วหลังจากนั้นก็พยายามพูดคุยกับเขา ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาอัปเซ็ตตอนย้ายกลับจากแอลเอ”

หนังสือของเล่นเขาเพิ่งถึง เขาตื่นเต้นมั้ย?

“ของเขาเพิ่งถึงสัปดาห์ที่แล้ว เขาก็แฮปปี้ คงเข้าใจว่าเราไม่ได้โกหกเขา แต่เขาต้องรู้จักการรอคอย เพราะเรือเดินทางช้ากว่าเครื่องบิน ดังนั้นเบนต้องรอ นาตาลีคิดว่าการรักษาคำพูด รักษาสัญญาเป็นเรื่องสำคัญมาก เด็กวัยนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์เขาเชื่อเราหมด แม้แต่ผู้ใหญ่เรายังอยากให้เขารักษาสัญญากับเรา ฉะนั้นเด็กเหมือนฟองน้ำ การรักษาสัญญาก็สำคัญมาก”

เนลลี่คลอดที่โน่น?

“ผ่าที่โน่นค่ะ เบนไม่ชอบให้คนอวยเยอะ เพราะเขาขี้เขิน เด็กแต่ละคนจะแตกต่างกัน แต่เนลลี่ไม่รู้ว่าโตขึ้นแล้วจะเป็นยังไง”

เนลลี่นิ่งมาก เวลาคนอื่นอุ้มเขาจะร้องมั้ย?

“แล้วแต่คนค่ะ แต่เขาจะร้องไห้ยากมาก”

ท้อง 6 เดือน ไปเที่ยวแล้วติดโควิด?

“ไปเที่ยวดีสนีย์แลนด์ แคลิฟอร์เนีย ก็เป็นแผนกต่อคิวให้คุณสามีกับลูกไปเล่น น่าจะเป็นช่วงคนเยอะๆ ในคิว ก็แจ็คพอตไป เป็นวันครบรอบแต่งงาน 4 ปีพอดี ไปวันจันทร์ เริ่มมีอาการหน่อยๆ พุธ-พฤหัสฯ ตรวจแล้วไม่เจอ มาเจอวันเสาร์ ซึ่งสามีกับเบนไม่เป็น มันไม่มียาอะไรทานได้ ที่อเมริกา เขาไม่มียาให้ ให้พักผ่อนเยอะๆ นอนเยอะๆ กินน้ำ กินวิตามินไป สามีก็กังวลเพราะต้องเลี้ยงลูกฟูลไทม์มากกว่า”

คุณพ่อกังวลมั้ย?

สามี :   กังวลเรื่องการเลี้ยงลูกมากกว่า ปกติเราไปทำงาน แต่ต้องอยู่กับเขาตลอด 24 ชม. เราคาดเดาไม่ได้ สมองจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ครับ เดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวมีสาระ นาตาลีน่าจะหายตั้งแต่วันที่ 4 แล้วล่ะ แต่ไม่ออกมาสักที (หัวเราะ)”

นาตาลี : มันก็ดีเหมือนกันนะ (หัวเราะ) แต่พอตรวจเหลือขีดเดียวก็ใส่สองชั้น แล้วไปช่วยเขาด้วย 

ไปคลอดเมืองนอกเป็นประสบการณ์ที่อยากแชร์?

“เราคิดถึงรพ. คิดถึงคุณหมอที่เมืองไทย เหมือนเราอยู่ไกลบ้าน ถ้าเราปวดท้อง เป็นไข้ ท้องเสียก็ยังโอเค แต่นี่ต้องฝากท้องและคลอดต่างประเทศ ไม่มี่ที่ไหนอุ่นใจเหมือนบ้านเรา การดูแลต่างกันมาก เขาก็ดี ก็เก่งนะคะ แค่เป็นความอบอุ่นใจของเรา วันไปผ่าเปิดเส้นใส่น้ำเกลือ 4 รอบ รอบแรกเลือดพรวด เขาบอกให้เรียกสามีเอาผ้ามาซับเลือดให้ภรรยาหน่อย แล้วมือเขาไม่เบาเหมือนพยาบาลบ้านเรา บ้านเราเข็มนางฟ้า มือเบา ที่หนักใจที่สุดปกติต้องสวนท่อปัสสาวะใช่มั้ย คือเป็นพยาบาลผู้ชายสูง 190 ซม. ผู้ชายแบบผู้ชาย ก็เลยเอาเลยค่ะ (หัวเราะ) ถ้าบ้านเราจะเป็นพยาบาลผู้หญิง ที่โน่นพยาบาลเขาเป็นผู้ชายซะเยอะ คนไข้เพศหญิงเพศชายเท่าเทียม ชุดที่สามีใส่ไปในห้องคลอด เหมือนชุดจะไปฉีดปลวกเลย ตลกมาก แต่ที่โน่นข้อดีอย่างนึงเวลาเราผ่าแล้วเขาควักลูกออกมาแล้ว เขาจะเอาลูกมาวางที่อกเราเลย ไม่มีห้องเนิร์สเซอรี่ ที่จะมาทุก 3 ชม.บ้านเรา ออกมาปุ๊บเป็นของคุณ ขนาดไปอยู่ห้องพักฟื้น กี่งๆ ไอซียู คุณพ่อก็อุ้มไว้เลย แล้วตลกคือที่โน่นพอเราผ่าปุ๊บเขาจะให้เรากินน้ำแข็งก้อนๆ ไม่ให้เรากินน้ำ เขากลัวอาเจียน เห็นในภาพทีหลังเรากินน้ำแข็งเป็นถัง ตลกมาก” 

ได้ลูกทั้งหญิงทั้งชาย?

“ก็ปิดจบ เราได้มาวิธีธรรมชาติทั้งคู่”

น้องเบนรู้สึกยังไงมีน้อง?

“เขาก็แฮปปี้นะ ตอนเล็กๆ เขาไม่อะไรมาก แต่ตอนนี้เขาฟัดเหวี่ยงกันได้ แต่เขาอ่อนโยนกับน้องมาก ไม่มีทุบตี ซึ่งเบนจะวิ่งเร็วมาก เพราะอยู่ที่โน่น เราลงคอร์สฟุตบอลให้เขา พอจบคอร์สครูจะบอกว่าความสามารถพิเศษแต่ละคนคืออะไร ของเขาคือเรื่องสปีด” 

มีปัญหาพี่อิจฉาน้องมั้ย?

“ไม่มีนะคะ อาจเป็นเพราะเราอ่านหนังสือตอนท้อง จะอ่านให้เขาฟังหลายเล่ม ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ อ่านนิทานเกี่ยวกับพี่มีน้อง เขาก็คงเห็น เพราะครอบครัวฝรั่งที่โน่นเขามีลูกเป็นพรวนเลย เขาอาจมองว่าเป็นเรื่องปกติ ที่มีเด็กมากกว่า 1 คนในบ้าน เขาก็มีมุมละมุน เอาผ้าอ้อม เอานมให้น้องบ้าง เปลี่ยนแพมเพิสให้น้องก็จะให้เขาเอาแพมเพิสไปทิ้งถังขยะให้ ให้เขาช่วยอะไรที่ไม่ยาก” 

นาตาลีเป็นแม่แบบไหน?

“มีผีเข้าบ้าง ผีออกบ้าง แต่พยายามเลี้ยงแบบพูดคุยกันด้วยเหตุผล แต่มีเส้น มีขอบเขตที่ชัดเจน อะไรทำได้ ทำไม่ได้ แต่ที่นี่จะไม่มีตี ทำโทษด้วยการดุเขา ดุเลยหน้างาน ถ้าเป็นเรื่องไม่ได้จริงๆ ก็โดนเหมือนกัน อย่างบางทีเด็กมือไว ปั๊วะ เราก็จะจับมือ นั่งลงไประดับสายตา แล้วจ้องหน้า บอกว่ามือมีไว้กินข้าว มีไว้จับของเล่น ไม่ได้มีไว้ตี เพราะเราจะบอกเขาว่ามือมีไว้ทำอะไร ปากมีไว้ทำอะไร เท้ามีไว้ทำอะไร”

อีกสิ่งที่เน้นคือให้ความสำคัญกับเรื่องเวลา?

“ใช่ เรื่องเวลากิน เวลานอน จะค่อนข้างสตริกกับเขา เวลาเด็กงิ้วออก จะมีสองเรื่อง คือหิวกับง่วง ถ้าสองอย่างประกอบกันเราเป็นพ่อแม่จะยิ่งเหนื่อย ก็จะล็อกเวลาให้ชัดเจน คนเล็กกินนอนให้เป็นเวลา เบนทุ่มครึ่งก็พาเข้านอนแล้ว”

เป็นคุณแม่ที่เด็ดขาด?

“ใช่ค่ะ ไม่มีหยวน แต่ก็มีหยวนบ้าง อย่างพาไปเล่น อีก 10 นาทีจะกลับ ลูกร้องบ้านแตก กฎบ้านเราจะไม่มีการบอกว่าจะให้เวลาอีก 5 นาที 10 นาทีนะเพราะเด็กเขาไม่มีนาฬิกา เขาไม่เข้าใจหรอก วิธีจะใช้คือถ้าให้เล่นสไลเดอร์ ถ้าให้เวลาอีก 5 รอบ ถ้ารอบสุดท้ายจะบิวต์เขาให้ลงมาอย่างแฮปปี้ที่สุด แล้วจะกลับบ้าน อย่างชิงช้าก็จะให้เขา 20 รอบ ให้เขาเอาสูงๆ เลย แล้วรอบสุดท้ายก็จบตามนั้น ไม่มีมากกว่านั้น หมดก็คือหมด”  

ตอนนี้คุณสามียังเป็นท่านทูตมั้ย?

“ทำมา 15-16 ปี ก็เพิ่งลาออกไม่ถึงเดือนค่ะ คนเราก็มีจังหวะชีวิตที่แตกต่างกัน นี่ก็อาจเป็นอีกช่วงเวลาของชีวิตเขา ที่เกิดการเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวดูว่ายังไง แต่หน้าที่หลังบ้านเราก็คอยซัปพอร์ตเขาเต็มที่ ให้เขาหายเหนื่อย มีเด็กๆ บันเทิงทั้งวัน” 

ลูกย้ายโรงเรียนด้วย?

“ใช่ค่ะ ลูกต้องย้ายโรงเรียนใหม่ แต่ก็โอเคค่ะ พาไปดูหลายๆ ที่ เขาค่อนข้างแฮปปี้”

 ห่วงภาษามั้ย?

“เขาตอบภาษาอังกฤษ ไม่พูดภาษาไทย แต่ไปโรงเรียนใหม่ก็เน้นภาษาอังกฤษเป็นหลัก แต่เดี๋ยวโตเขาก็พูดได้ เพราะญาติพี่น้องเราอยู่ที่นี่ทั้งหมด การปรับตัวก็ไม่ได้ง่ายไปซะทีเดียว ด้วยวัยด้วย จะทำอะไรต้องบอกเขาล่วงหน้า ถ้าปุบปับเดี๋ยวเราจะรับโชค เขาไม่ได้เป็นวัยที่เล่นกับเพื่อนร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่วัยติดเพื่อน ที่ง่ายเวลาย้ายกลับมาคือเขาติดพ่อแม่ พ่อแม่อยู่ตรงไหน ตรงนั้นเป็นเซฟโซนสำหรับเขา” 

เขาตื่นเต้นกับโรงเรียนใหม่มั้ย?

“ตื่นเต้นค่ะ เขาถูกใจกับสนามเด็กเล่น มีสระว่ายน้ำ เขาชอบเล่นเอาต์ดอร์ เดี๋ยวต้องจัดกระเป๋า ว่าเอาอะไรไปบ้าง นอกนั้นก็หน้างาน เดี๋ยวดูว่ายังไง ซึ่งจะเข้าโรงเรียนต้นก.ย.ค่ะ ใกล้แล้ว (หัวเราะ) เราอยากให้เขาได้ทำอะไรตามวัยเขา ไปโรงเรียน ไปเจอประสบการณ์อื่นๆ ก็คงสนุก” 

อยากให้ลูกทั้งสองคนโตไปเป็นแบบไหน?

“หลักๆ คือมีความสุข เรื่องเก่งเป็นเรื่องรองฝึกกันได้  ต้องเริ่มจากในบ้านให้เขามีสุขภาพจิตดี เราพยายามปูพื้นฐานให้เขาแข็งแรงและมีความสุข ให้รักตัวเองเยอะๆ”

อยากบอกอะไรลูก?

“รักเขามากเลยค่ะ ก็จะมีอย่างที่บอก มีวันดีบ้าง ไม่ดีบ้าง เพราะเราเป็นฟูลไทม์ ใครเลี้ยงลูกเต็มเวลาจะรู้ว่ามันเป็นงานที่ห้ามป่วย ห้ามเจ็บ ห้ามตาย มัน 24 ชม. ไม่ต้องพูดถึงเวลาลูกป่วยนะ โอ้โห ทุกอย่าง ก็รักทั้งสองคน รักเท่ากัน มีความยุติธรรมในการเลี้ยง ให้เขาดูแลตัวเองให้ดีๆ”

มาอยู่ไทยถาวร จะคัมแบ็กกลับมาร้องเพลงมั้ย?

“สามียกนิ้ว (หัวเราะ) ยังชอบร้องเพลง ถ้ามีโอกาสก็อาจจะค่ะ”  

ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

อัลบั้มภาพ 23 ภาพ

อัลบั้มภาพ 23 ภาพ ของ "นาตาลี เดวิส" เปิดใจหลังย้ายกลับไทยถาวร สามีนักการทูตหมดประจำการ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook