ฟังแล้วตกใจ หมอเตือน "ท่าเล่นมือถือ" ทำเด็กอายุแค่ 16 แทบเป็นอัมพาต กลั้นฉี่ยังไม่ได้!
เด็กหนุ่มอายุแค่ 16 ปวดหลัง-กลั้นฉี่ไม่อยู่ เกือบเป็นอัมพาตทั้งชีวิต ผปค.ฟังแล้วตกใจ หมอชี้สาเหตุ "ท่าเล่นมือถือ"
หากคุณเองหรือเห็นคนรอบข้างมีงานอดิเรกในการใช้โทรศัพท์แบบผิดๆ ให้เตือนพวกเขาอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะสายเกินไป ดังเช่นกรณีอุทาหรณ์ของ "นายมิน" (นามสมมุติ) นักเรียนชายอายุ 16 ปีในฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ที่เกือบเป็นอัมพาตตลอดชีวิต เนื่องจากงานอดิเรกของเขาคือการใช้โทรศัพท์มือถือ ทำให้หลายคนตกใจ โดยเฉพาะพ่อแม่ที่มีลูกในช่วงวัยรุ่น
สมาชิกในครอบครัวเล่าว่า ก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มเคยมีอาการปวดหลังและคอ รวมทั้งเมื่อยล้าบริเวณไหล่ แต่พวกเขาคิดว่าเป็นเพราะเขาอยู่ในวัยแรกรุ่น และนั่งเรียนหลายชั่วโมงในชั้นเรียน ซึ่งความเจ็บปวดนี้บรรเทาลงอย่างรวดเร็วด้วยการพักผ่อนและกินยาแก้ปวด จึงไม่ได้กังวลอะไรมากเกินไป แต่แล้วระหว่างอยู่ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนอาการก็แย่ลงไปอีก
เดิมทีนายมินเป็นคนเงียบขรึม ชอบขังตัวเองอยู่ในห้อง และไม่ค่อยเล่าเรื่องให้พ่อแม่ฟัง อย่างไรก็ตาม ครอบครัวสังเกตได้ว่าช่วงหลังนี้ลูกชายของพวกเขาดูเดินเหินไม่ค่อยสบาย แต่เมื่อถามก็บอกเพียงเพราะเขานอนผิดท่า กระทั่งเมื่อไม่กี่วันก่อน เมื่อเด็กหนุ่มตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เขาไม่สามารถลุกจากเตียงได้เนื่องจากอาการปวดหลังส่วนล่าง และแทบไม่มีความรู้สึกที่ขา ถึงขั้นกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ในเวลานี้เขาเต็มใจที่จะ "ขอความช่วยเหลือ" จากพ่อแม่ ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
Dr.Wang Zhenyu หัวหน้าแผนกกระดูกและข้อของโรงพยาบาล Fujian Union Hospital กล่าวว่า "ครอบครัวของเขาพาผู้ป่วยรายนี้มาด้วยรถเข็น การตรวจพบว่าอาการรุนแรงที่หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอว ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับกระดูกสันหลังและระบบประสาท ผลการสแกนด้วย MRI พบว่ากระดูกสันหลังของผู้ป่วยขยับไปด้านใดด้านหนึ่งโดยสิ้นเชิง และเส้นประสาทไขสันหลังเกือบถูกบีบอัดเป็นเส้นใยเนื่องจากการกดทับ
สิ่งนี้นอกจากจะทำให้เกิดความผิดปกติของกล้ามเนื้อเป็นวงกลมแล้ว ยังนำไปสู่ความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะอีกด้วย การกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ยังทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรง และส่งผลต่อความสามารถในการใช้งานแขนขาส่วนล่าง ความเสียหายเกิดขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจนำไปสู่ความพิการ และเป็นอัมพาตจนต้องนอนพักตลอดชีวิต"
- ด.ช. 9 ขวบ มีนิ่วในท้อง 56 ก้อน หมอเผยต้นเหตุทำแม่ทรุด ที่แท้คือสิ่งที่ให้ลูกกินทุกวัน
- อายุแค่ 26 สาวดับสลด หมอพบกิน "อาหารเช้า" แบบเดิมทุกวัน เมนูยอดฮิตแทบทุกบ้าน
หลังจากเปิดการให้คำปรึกษาแบบสหสาขาวิชาชีพ แพทย์ก็ตัดสินใจรักษาด้วยการผ่าตัดกระดูกสันหลังด้วยการส่องกล้อง โชคดีที่การผ่าตัดประสบความสำเร็จ ขณะนี้คนไข้กำลังได้รับการดูแลหลังการผ่าตัด และจะยังคงได้รับการรักษาด้วยยาและกายภาพบำบัดตามความเร็วในการฟื้นตัว
ส่วนสาเหตุของความเจ็บป่วย พบว่ามาจากงานอดิเรกในการ "นอนเล่นโทรศัพท์" เป็นเวลาหลายชั่วโมงทุกวัน ในห้องของเขามีโซฟามรานุ่มมาก เขามักจะนอนบนเตียงหรือโซฟาเพื่อเล่นเกมมือถือและเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ก เพื่อให้กดโทรศัพท์ได้ง่ายขึ้นจึงมักจะใช้ท่า "กึ่งนั่งกึ่งนอน" และไม่ได้เปลี่ยนท่าเลยเป็นเวลาหลายชั่วโมงด้วยซ้ำ นี่ยังเป็นงานอดิเรกยอดนิยมในหมู่วัยรุ่นที่ใช้โทรศัพท์และดูโทรทัศน์ โดยไม่รู้ว่าจะส่งผลเสียต่อระบบกระดูกสันหลังและกระดูกโดยทั่วไปมากแค่ไหน
คุณหมอกล่าวเพิ่มเติมว่า เตียงหรือโซฟาที่นุ่มเกินไปมีส่วนทำให้โรคลุกลามเร็วขึ้น เนื่องจากเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล การจมลึกทำให้ท่านั่งเสียรูปได้ง่าย ในขณะที่ท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนแต่เดิมก็ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว นอกจากนั้น ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน เขายังกระตือรือร้นขยับร่างกายน้อยกว่าตอนที่ไปโรงเรียน และเวลาในการนอนเล่นโทรศัพท์ที่บ้านก็เพิ่มขึ้นประมาณ 3-4 เท่า
"ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ป่วยโรคหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอวมีความอ่อนเยาว์มากขึ้นเรื่อยๆ และข้อผิดพลาดข้างต้นเมื่อใช้โทรศัพท์ก็มีส่วนทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวด้วย อุบัติการณ์ของหมอนรองเอวในวัยรุ่นคือ 0.5-6.8% อาการทางคลินิกมีความหลากหลายและผิดปรกติ ทำให้วินิจฉัยผิดพลาดได้ง่าย
หากอาการปวดหลังของเด็กไม่ดีขึ้นเป็นเวลานาน และมีอาการปวดร้าวไปที่ก้น ต้นขา และน่อง ก็มีแนวโน้มว่าเด็กจะมีปัญหาหมอนรองเอว ผู้ปกครองจะต้องพาบุตรหลานไปโรงพยาบาลเฉพาะทางเพื่อรับคำปรึกษาและตรวจสุขภาพอย่างทันท่วงที ทุกวันควรหลีกเลี่ยงการนั่งเป็นเวลานาน ฝึกนั่งในอิริยาบถที่ถูกต้อง และออกกำลังกายมากขึ้นเพื่อป้องกันโรค" คุณหมอกล่าวเตือน