นายกฯรับจะนำข้อเสนอของสมัชชาเด็กและเยาวชน

นายกรัฐมนตรี ระบุ จะนำข้อเสนอการพัฒนาประเทศทั้ง 7 ประเด็นของสมัชชาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ เข้าสู่วาระการประชุมเพื่อประกอบการพิจารณา ยืนยัน รัฐบาลให้ความสำคัญและพยายามผลักดันเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเข้ารับฟังข้อเสนอจากเด็กและเยาวชนในการประชุมสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทยที่รัฐสภา ว่า รัฐบาลจะนำทั้ง 7 ประเด็นสำคัญที่สมัชชาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ 2553 ได้เสนอมาเข้าสู่วาระการประชุม เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการลงรายละเอียดและผลักดันต่อไป ทั้งในเรื่องของประเด็นการศึกษา,เศรษฐกิจ, การเมือง, สิ่งแวดล้อม, สาธารณูปโภค, สื่อ และสวัสดิการ โดยยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าวอย่างมาก โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการศึกษาที่เน้นให้โอกาสทางการศึกษาและพัฒนาด้านคุณภาพ แต่ยอมรับว่าขณะนี้ยังมีข้อจำกัดด้านบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดวิชาความรู้ให้แก่เยาวชน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องเร่งรัดให้เกิดการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพขึ้นโดยเร็วที่สุด

ส่วนข้อเสนอให้จัดตั้งกองทุนเด็กและเยาวชนประจำจังหวัด เพื่อขยายพื้นที่และกิจกรรมสร้างสรรค์ของเยาวชน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในประเด็นนี้ได้มีคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาดำเนินงานอยู่ และได้เปิดโอกาสให้องค์กรอิสระเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการด้วย ซึ่งรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการทำงานในส่วนหนึ่ง ดังนั้นช่องทางที่ดีที่สุดจึงน่าจะเป็นการทำงานในลักษณะเดียวกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยให้สภาหรือสมัชชาเด็กและเยาวชน ทำโครงการแล้วขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนและคณะกรรมการดังกล่าว ดีกว่าการจัดตั้งองค์กรเพิ่มแล้วของบประมาณสนับสนุนใหม่

โดยเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ถือเป็นบุคลากรหลักในประเทศที่มีบทบาทเป็นอย่างมากในสังคมปัจจุบัน โดยเฉพาะการแสดงออกทางความคิดท่ามกลางสังคมที่มีความหลากหลายและแตกต่างทางความคิด หากเด็กและเยาวชน รวมถึงทุกคนในประเทศรู้จักยอมรับความคิดเห็นและนำความหลากหลายทางความคิดมาผสมผสานใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็จะทำให้ประเทศสามารถเดินหน้าไปได้และเป็นแบบอย่างของประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน