เหลือจะเชื่อ ทั้งครอบครัวหิ้วท้องถึง 4 ทุ่ม รอสะใภ้เลิกงานมาทำ "มื้อเย็น" เจอแก้เผ็ดจำจนตาย!

เหลือจะเชื่อ ทั้งครอบครัวหิ้วท้องถึง 4 ทุ่ม รอสะใภ้เลิกงานมาทำ "มื้อเย็น" เจอแก้เผ็ดจำจนตาย!

เหลือจะเชื่อ ทั้งครอบครัวหิ้วท้องถึง 4 ทุ่ม รอสะใภ้เลิกงานมาทำ "มื้อเย็น" เจอแก้เผ็ดจำจนตาย!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 เหลือจะเชื่อ ครอบครัวสามีหิ้วท้องถึง 4 ทุ่ม รอสะใภ้เลิกงานมาทำ “มื้อเย็น” เจอแก้เผ็ดจำจนตาย!

เว็บไซต์ soha รายงานกรณีของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งออกมาโพสต์เรื่องราวอัดอั้นตันใจที่มีต่อ “ครอบครัวสามี” เมื่อทั้งครอบครัวกินผลไม้เพื่อต่อสู้กับความหิวโหย ขณะรอลูกสะใภ้กลับบ้านมาทำอาหารเย็นให้ จนวันรุ่งขึ้นเธอต้องตัดสินใจสอนบทเรียนให้พวกเขาจดจำไปตลอดชีวิต

หญิงสาวเล่าเปิดเรื่องว่า “ครอบครัวสามีของฉันเป็นครอบครัวที่แปลกจริงๆ แม้จะแต่งงานมา 7-8 ปี และมีลูกแล้ว แต่ฉันก็ยังคงแปลกใจกับครอบครัวนี้”

เหตุการณ์ล่าสุดคือ เวลา 19.00 น. เธอเพิ่งเลิกกะและกำลังเดินทางกลับบ้าน จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอไม่รับสายเพราะรู้ว่าคนที่โทรมาคือแม่สามี ที่โทรมาไม่หยุดตั้งแต่ตั้งแต่ 16.00 น. โดยมีวัตถุประสงค์เดียวคือกระตุ้นให้กลับบ้านเร็วๆ และทำอาหารเย็น ท่าทีเช่นนั้นทำให้เธอก็พูดไม่ออก ได้แต่คิดว่าก่อนที่ลูกชายจะแต่งภรรยาเข้าบ้าน ทั้งครอบครัวนี้อยู่กันมาอย่างไร?

เธอเพิกเฉยต่อโทรศัพท์และขึ้นรถบัสกลับบ้าน แต่เมื่อมาถึงก็ตกใจมากเพราะทันทีที่ก้าวเข้าไปในประตูก็ได้ยินเสียงแม่สามีพูดไม่รู้จบ ขณะที่นั่งอยู่บนโซฟากำลังกินส้มเขียวหวาน ส่วนพ่อสามีกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ ทุกคนดูพักผ่อนอย่างสบายใจมาก แต่เมื่อเห็นสะใภ้เข้ามาก็รีบลุกขึ้นยืน

แม่สามีพูดว่า "ฉันโทรหาเธอสิบครั้งแล้วทำไมไม่รับเลย? ตอนนี้เวลา 20.00 น. ทั้งครอบครัวหิวมาก เรากินส้มเขียวหวานได้เพียงไม่กี่ลูก และเธอเพิ่งกลับบ้านมาตอนนี้”

ในวินาทีต่อมา น้องสะใภ้ของสามีก็เลียนแบบคนเป็นแม่ โดยยืนขึ้นแล้วพูดว่า "ฉันไม่อยากพูดอะไรแบบนี้กับเธอ แต่คนมักจะเลิกงานตอน 5 โมง แต่เธอเพิ่งกลับบ้านมาตอนนี้ เธอโกหกแล้วไปร้องเพลงหรือไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ กินและดื่มอาหารมื้อใหญ่หรือ?”

พ่อสามีไม่ได้กล่าวดุด่า เช่นเดียวกับน้องชายของสามีก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แค่บอกให้เธอไปล้างผักและหุงข้าวอย่างรวดเร็วเพราะพวกเขาหิวมากจนอีกไม่นานจะเป็นลม เมื่อได้ยินครอบครัวของสามีพูดแบบนั้น เธอก็โกรธมากและโต้ตอบไปว่า "เป็นไปได้เหรอที่ไม่มีใครในครอบครัวรู้วิธีทำอาหารนอกจากฉัน?"

เมื่อน้องสะใภ้ได้ยินเช่นนั้นเลือดก็เดือดพล่าน กล่าวอย่างฉุนเฉียวว่า “แม่ซื้ออาหารและผักมาล้างให้หมดแล้ว  แค่รอให้เธอกลับบ้านทำอาหาร แม่โทรมาหาเธอหลายครั้งแต่ก็ไม่รับเลย ตั้งใจว่าจะให้อดตายกันทั้งครอบครัวหรือไง ใช่แล้ว คนในครอบครัวเยอะมากที่ต้องรอให้เธอทำให้กิน!"

หลังจากที่ได้ยินพี่สาวสามีพูดแบบนั้น ทุกคนในครอบครัวก็แสดงท่าทีสนับสนุน เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ สามีที่ยืนอยู่ข้างๆก็รีบเข้าครัวไปล้างข้าว และเร่งเร้าให้รีบไปผัดอาหารในครัว แค่เธอยังคงหันกลับมามองดูทุกคนในบ้านอีกครั้ง ทุกคนมีแขนและขา มีสุขภาพดี และเห็นได้ชัดว่าทำอาหารกินเองได้ แต่พวกเขายืนกรานที่จะรอเธอกลับจากที่ทำงาน เพื่อรับใช้ทั้งครอบครัว

ยิ่งเห็นทัศนคติแบบนั้นก็ยิ่งโกรธ ทำไมเธอที่ทำงานหนักมาทั้งวัน เมื่อกลับถึงบ้านยังต้องรับใช้คนมากมายขนาดนี้? ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะไม่ทำตามคำสั่งของพวกเขาเหมือนเมื่อก่อน เธอไม่ได้ไปที่ครัวเพื่อทำอาหาร แต่หยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดแอปส่งอาหาร 2-3 อย่าง แล้วจึงนั่งลงบนเก้าอี้เงียบๆ เพื่อเล่นโทรศัพท์และดูวิดีโอสร้างความบันเทิงใจ

กระทั่งพนักงานส่งอาหารมาถึง จึงออกไปรับอาหารมานั่งกินกับลูกบนโต๊ะ เมื่อเห็นสิ่งนี้แม่สามีก็โกรธมากและพูดว่า "มีอาหารแล้วทำไมยังสั่งอาหารข้างนอกอยู่อีก รู้ไหมค่ากินข้าวนอกบ้านแพงแค่ไหน?”

ในเวลานี้เธอไม่ได้ขึ้นเสียง แต่ยังคงตอบอย่างอดทนว่า "ฉันเป็นลูกสะใภ้ของคุณ ไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กฟรี วันนี้ฉันเหนื่อย ดังนั้นถ้าฉันสั่งอาหารแค่มื้อเดียวก็คงไม่เป็นไร"

อาหารที่เธอสั่งมานั่งกินข้าวกับลูกๆ นั้น ซื้อมาในปริมาณที่ทานได้แค่ 3 คนเท่านั้น ท้ายที่สุดครอบครัวสามีหิวมากจนทนไม่ไหว พวกเขาทำได้เพียงหันไปมองสามีของเธอซึ่งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสั่งอาหารจากข้างนอกให้ทาน ในขณะที่พ่อแม่ของสามียังวิพากษ์วิจารณ์เธอไม่หยุดปาก โดยบอกว่าบังคับให้พ่อแม่สูงวัยกินข้าวจากนอกบ้าน และไม่กตัญญูเลย แต่เธอยังคงเพิกเฉย ไม่โต้เถียง และพาลูกกลับไปที่ห้องเพื่อนอนหลับ

เธอยังเล่าเพิ่มเติมอีกเรื่องคือ ตอนแรกสามีของเธอแค่รับพ่อแม่สามีมาอยู่ที่บ้านเพื่อดูแลพวกเขาเท่านั้น  ใครจะคิดว่าพวกเขาจะไปพาครอบครัวน้องชายสามีมาอยู่บ้านเดียวกันด้วย โดยไม่ต้องถามความคิดเห็นของเธอและสามีด้วยซ้ำ โดยยกเหตุผลง่ายๆ ว่าปู่ย่าต้องการอยู่ใกล้ลูกหลาน ตอนนี้ทุกคนจึงมาอยู่บ้านนี้ แต่ไม่มีใครยอมเข้าครัวทำอาหาร ราวกับอ้าปากรอเธอเสิร์ฟให้กินเท่านั้น

เช้าวันรุ่งขึ้น พ่อแม่ของเธอมาเยี่ยมเยียนที่บ้าน เมื่อรู้เหตุการณ์ทั้งหมด ผู้เป็นพ่อก็ถามเสียงดังว่า “ทำไมน้องสามีและภรรยาถึงมาอยู่ที่นี่ฟรีๆ พาพ่อแม่สามีมาเพื่อแสดงความกตัญญู และตอนนี้ยังต้องแสดงความกตัญญูต่อน้องสามีด้วยหรือ” เมื่อครอบครัวสามีได้ยินเช่นนั้น พวกเขาก็ก้มหน้าด้วยความอับอาย

แม่ของเธอเห็นฉากนี้ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา  หลังจากนั้นก็จัดการพาน้องชายสามีและภรรยา ไปดูบ้านเช่าและเร่งเร้าทำสัญญา ทำให้วันรุ่งขึ้นทั้งคู่ถูกบังคับให้ย้ายออกทันที ซึ่งทำให้เธอสบายใจขึ้นมากเหมือนกัน ตอนนี้เหลือแค่กังวลเรื่องพ่อแม่สามีเท่านั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook