เจ้าสาวสายสตรอง จับได้ถูกนอกใจก่อนวันแต่ง เดินหน้าจัดงานต่อ แม้ไร้เงาเจ้าบ่าว

เจ้าสาวสายสตรอง จับได้ถูกนอกใจก่อนวันแต่ง เดินหน้าจัดงานต่อ แม้ไร้เงาเจ้าบ่าว

เจ้าสาวสายสตรอง จับได้ถูกนอกใจก่อนวันแต่ง เดินหน้าจัดงานต่อ แม้ไร้เงาเจ้าบ่าว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ้าสาวจับได้ว่าคู่หมั้นนอกใจก่อนวันแต่งงาน เดินหน้าจัดงานที่มีค่าใช้จ่ายกว่า 1.5 ล้านบาทต่อ โดยไม่มีเจ้าบ่าว

เว็บไซต์ New York Post รายงานเรื่องราวของ ลินด์ซีย์ สเลเตอร์ วัย 31 ปี ซึ่งพบว่าคู่หมั้นวัย 36 ปี ที่คบหากันมา 12 ปีของเธอ ได้ไปนอนกับคนอื่น ในตอนแรกเธอตั้งใจจะยกเลิกงาน แต่ก็ตัดสินใจเปลี่ยนเป็นงานปาร์ตี้แทน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันแห่งอิสรภาพ

ลินด์ซีย์ส่งข้อความถึงแขกที่ได้รับเชิญมางานในช่วงกลางวันเพื่อบอกข่าว และโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเพื่อแจ้งแขกที่มาช่วงเย็น ซึ่งมีแขกประมาณ 60 - 70 คน มาร่วมงานปาร์ตี้นี้

ลินด์ซีย์ ยังไปฮันนีมูนตามแผนเดิม ในวันที่ 20 สิงหาคม โดยใช้เวลา 1 สัปดาห์ที่รีสอร์ตในเกาะครีต ประเทศกรีซ กับเมลิสซา เพื่อน วัย 31 ปี ที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์สินเชื่อ

แม้ว่าเธอยังไม่พร้อมที่จะก้าวต่อไป แต่ลินด์ซีย์บอกว่างานแต่งงานคนเดียวของเธอทำให้เธอรู้สึกเข้มแข็งและมีพลัง

ลินด์ซีย์ ซึ่งเป็นทนายความจากเมืองแมนส์ฟีลด์ น็อตติงแฮม กล่าวว่า "ฉันไม่รู้เลยว่าจะผ่านไปได้ยังไง ฉันเสียใจมาก มันสายเกินไปที่จะยกเลิกแผนแต่งงาน เงินทั้งหมดก็จ่ายไปแล้ว แต่ในใจฉันรู้สึกว่า ฉันเป็นอิสระ นี่คือจุดเริ่มต้นของสิ่งที่ดีกว่า"

"ฉันดีใจที่ได้ทำมัน ฉันสนุกกับวันนั้นมาก ฉันประหลาดใจมากที่ทุกคนให้การสนับสนุนอย่างมาก มันทำให้รู้สึกเต็มไปด้วยพลัง ฉันถูกล้อมรอบด้วยความรักมากมาย มันทำให้ฉันรู้ว่าไม่จำเป็นต้องมีเขา"

ลินด์เซย์และอดีตคู่หมั้น คบหากันตั้งแต่ปี 2555 ก่อนจะหมั้นกันในช่วงต้นปี 2563 ตลอดเวลาที่คบหากัน ทั้งคู่รัก ๆ เลิก ๆ กันมาหลายครั้ง แต่ถึงแม้จะมีทั้งช่วงเวลาดีและร้ายปะปนกัน พวกเขาก็ยังรู้สึกตื่นเต้นกับวันแต่งงานมาก

หลังจากวางแผนมานาน 4 ปี และใช้เงินไป 46,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.5 ล้านบาท) สำหรับพิธี, มื้ออาหาร, ช่างภาพ และปาร์ตี้ รวมถึงทริปฮันนีมูน โดยวันแต่งงานที่กำหนดไว้คือวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม

แต่ก่อนวันแต่งงาน เธอบอกว่าเธอพบว่าเขาไปนอนกับคนอื่น และเขาก็ยอมรับว่ามีการนอกใจ หลังจากที่เคยต้องการจะจัดงานใหญ่ตามแผน ลินด์ซีย์ บอกว่า นั่นทำให้เธอได้สติกลับมา

อดีตคู่หมั้นของเธอย้ายกลับไปอยู่กับแม่ของเขา ขณะที่ลินด์ซีย์โทรไปยกเลิกพิธีและนักไวโอลิน

แต่เธอตัดสินใจที่จะจัดงานต่อ โดยเปลี่ยนชื่อเป็น "วันแห่งอิสรภาพ" ด้วยความช่วยเหลือจากพี่สาว เบธ วัย 28 ปี ซึ่งทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สนับสนุนผู้ประสบภัย

“ฉันเลือกที่จะใช้เวลาวันนั้นกับเพื่อนสนิทและครอบครัว แทนที่จะนั่งอยู่ที่บ้านและร้องไห้”

แขกทราบเรื่องหลังจากลินด์ซีย์ส่งข้อความส่วนตัวแจ้งพวกเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ รวมถึงโพสต์สถานะบนเฟซบุ๊ก ซึ่งได้รับการกดไลค์กว่า 200 ครั้ง

เพื่อนของลินด์ซีย์ ซึ่งเป็นเลขานุการแพทย์ ชื่อ เรเชล วัย 33 ปี มาพักค้างคืนกับเธอในคืนวันที่ 16 สิงหาคม

ทั้งคู่ทำผมและแต่งหน้าเสร็จพร้อมกันในเช้าวันถัดมา และขับรถไปที่สถานที่จัดงานแต่งงาน โดยลินด์ซีย์สวมชุดเจ้าสาว และเบธในชุดเพื่อนเจ้าสาว

“ก่อนที่ฉันจะออกจากบ้าน ฉันบอกเรเชลว่า เธอต้องช่วยทำให้ฉันสงบลงหน่อย ซึ่งเธอก็ให้กำลังใจฉัน” เธอกล่าว

หลังจากจัดงานช่วงเช้าเสร็จ ทั้งหมดก็ยายไปที่จัดงานเลี้ยง ซึ่งมีดีเจมาเปิดเพลงสร้างบรรยากาศ ซึ่งเธอและแขกเต้นรำเฉลิมฉลองในคืนดังกล่าวจนเหมือนมีปาร์ตี้ฉลองงานแต่งงานจริง ๆ

“ฉันขอบคุณครอบครัวและเพื่อน ๆ ทุกคนที่มาที่นี่ ฉันอยากบอกว่าฉันไม่รู้ว่าจะผ่านเหตุการณ์นี้ได้ยังไง แต่เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยการสนับสนุน ฉันรู้สึกดีขึ้นบ้าง"

ทั้งนี้ อดีตคู่หมั้นของลินด์ซีย์ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น แต่ยอมรับว่าเขาไม่ซื่อสัตย์จริง ๆ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ เจ้าสาวสายสตรอง จับได้ถูกนอกใจก่อนวันแต่ง เดินหน้าจัดงานต่อ แม้ไร้เงาเจ้าบ่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook