หนุ่มเมาหนักเพื่อนทิ้งไว้หน้าห้อง จู่ๆ ถูกไฟคลอกดับ คาดต้นเหตุอยู่ในกระเป๋ากางเกง

หนุ่มเมาหนักเพื่อนทิ้งไว้หน้าห้อง จู่ๆ ถูกไฟคลอกดับ คาดต้นเหตุอยู่ในกระเป๋ากางเกง

หนุ่มเมาหนักเพื่อนทิ้งไว้หน้าห้อง จู่ๆ ถูกไฟคลอกดับ คาดต้นเหตุอยู่ในกระเป๋ากางเกง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มเมาหนัก เพื่อนพามาทิ้งไว้หน้าห้อง จู่ๆ ไฟคลอกดับสลด ต้นเหตุอาจมาจากของที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง 

ชายคนหนึ่งถูกพบเสียชีวิตในสภาพร่างกายถูกไฟไหม้บางส่วนที่ทางเดินชั้นแปดของอาคาร 107 ย่าน Potong Pasir ของสิงคโปร์ เวลาประมาณ 6.40 น. ของวันพุธที่ 28 สิงหาคม ผู้เสียชีวิตถูกระบุชื่อว่า นายลิน อายุ 44 ปี อาชีพฟรีแลนซ์และเป็นผู้อยู่อาศัยในยูนิตที่เกิดเหตุ

พี่ชายของผู้เสียชีวิต อายุ 46 ปี ซึ่งทำงานในอุตสาหกรรมการเงินและไม่ต้องการเปิดเผยชื่อ กล่าวว่าตนได้รับการแจ้งจากตำรวจเวลาประมาณ 9 โมงเช้าของวันพุธ ว่าพบน้องชายของเขาเสียชีวิตอยู่หน้าประตูบ้าน

ตามข้อมูลของพี่ชายผู้เสียชีวิต ระบุว่า นายลิน ดื่มแอลกอฮอล์จนมึนเมาและถูกเพื่อนคนหนึ่งมาส่งที่บ้านเวลาประมาณ 6 โมงเช้าของวันพุธ เพื่อนคนนั้นพยายามเคาะประตูเรียกลูกพี่ลูกน้องที่อาศัยอยู่กับเขาแต่ไม่มีใครตอบรับ เพื่อนบ้านบ่นเกี่ยวกับเสียงเคาะประตู เพื่อนคนนั้นจึงปล่อยลินไว้ที่ทางเดินหน้าห้องแล้วก็จากไป

เพื่อนบ้านคนหนึ่งที่ได้ยินเสียงครวญคราง จึงออกมาดูและพบว่าเขากำลังถูกไฟคลอก จึงรีบนำถังดับเพลิงมาดับไฟและโทรแจ้งตำรวจ 

พี่ชายเผยว่า น้องชายของเขามีนิสัยที่ชอบดื่มและบางครั้งก็สูบบุหรี่ ในตอนแรก สันนิษฐานว่า เขาพยายามจุดบุหรี่และเผลอจุดไฟไหม้ตัวเอง แต่พี่ชายผู้ตายยืนยันว่า น้องชายสูบบุหรี่ไฟฟ้าเท่านั้น

อ้างอิงจากการสืบสวนเบื้องต้น 29 สิงหาคม เชื่อว่าผู้เสียชีวิตปัสสาวะรดตัวเองในขณะกำลังเมา ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เขามีอยู่ จนเขาสลบไป สันนิษฐานว่า อาจเป็นบุหรี่ไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่พกพา 

จากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตได้รับบาดแผลไฟไหม้ที่บริเวณครึ่งล่างของร่างกาย บาดแผลที่รุนแรงที่สุดพบที่บริเวณกระเป๋ากางเกงของเขา

โดยไฟที่ลุกลามทำให้ร่างกายถูกไฟไหม้อย่างรุนแรง แต่ต้องรอการตรวจสอบสาเหตุการตายเพิ่มเติมหลังจากการชันสูตรพลิกศพ

อย่างไรก็ตาม  ตำรวจสิงคโปร์ยืนยันว่าหลังจากการสอบสวนเบื้องต้น ตำรวจได้ตัดความเป็นไปได้ของการฆาตกรรมออกไป และการสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook