รำลึก 34 ปี สืบ นาคะเสถียร คำบอกเล่าจากลูกน้องคนสนิท วันสุดท้ายก่อนเสียงปืนดังก้องป่า
รำลึก 34 ปี สืบ นาคะเสถียร คำบอกเล่าจากลูกน้องคนสนิท ประโยคสุดท้าย วันสุดท้าย ก่อนเสียงปืนดังก้องป่า
ก่อนรุ่งฟ้าสางในวันที่ 1 กันยายน 2533 ท่ามกลางความเงียบสงัด กลับมีเสียงปืนดัง ณ เขตรักษาพันธุ์ป่าห้วยขาแข้ง ด้วยความที่ทุกคนเคยชินกับเสียงปืน เลยไม่มีผู้ใดข้องใจกับเสียงปืนในคืนนั้น และคืนนั้นเองเป็นคืนสุดท้ายของชายผู้เป็นวีรบุรุษ เขาทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องผืนป่า จนถึงกับยอมปลิดชีวิตตนเอง เพื่อปลุกจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของพวกเรา และสะท้อนถึงความล้มเหลวของระบบข้าราชการไทย
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชื่อของ สืบ นาคะเสถียร กลายเป็นที่รู้จัก และทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หันมาตระหนักถึงมาตรการในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และได้เปลี่ยนแปลงวงการอนุรักษ์ไปตลอดกาล
เว็บไซต์ สืบ นาคะเสถียร ได้โพสต์บทความ รำลึก 34 ปี สืบ นาคะเสถียร 1 กันยายน 2567 มีช่วงหนึ่งที่เล่าถึง "วันสุดท้าย" ของหัวหน้าสืบ จากคำบอกเล่าของ "หม่อม" ลูกน้องคนสนิท
กลางฤดูฝนปี 2533
สืบ นาคะเสถียร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหนุ่มสะสางการงานประจำวัน สั่งลูกน้องวิทยุไปบอกยกเลิกนัดหมายที่จะไปบรรยายวิชาการที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่อีกครั้งหลังจากเปลี่ยนใจจะไปเองอยู่รอบหนึ่ง
ก่อนนั้นเขาเคยตั้งใจจะส่งม้วนวีดีโอไปเปิดแทน
การยกเลิกนัดหมายครั้งนี้ เพราะเขาตัดสินใจแน่วแน่ที่จะอยู่ ‘ที่นี่’
หลังอาหารค่ำ ‘หม่อม’ ลูกน้องคนสนิทของหัวหน้าสืบ เดินออกมาส่งหัวหน้าสืบที่ซุ้มเฟื่องฟ้า ที่ทางเดินผ่านห้องพักของเขา ลงเนินเดินไปยังบ้านพักหัวหน้าเขต ที่ปลูกอยู่โดดโดดค่อนไปทางตลิ่งริมห้วยทับเสลา ที่ข้ามไปก็เป็นตีนเขาหินแดง ลำน้ำที่ไหลจากป่าผ่านหน้าบ้านพักหัวหน้าเขต ก่อนอ้อมวกไปทางหมู่บ้านด้านตะวันออก
หัวหน้าสืบใช้แววตาสดใส มีความสุข โบกมือลาหม่อมแล้วบอกว่า “พี่ไปนะหม่อม”
หม่อมจำได้ว่าเป็นสีหน้าแววตาของคนที่ปลอดโปร่ง แววตามีความสุข ไร้ความกังวลใดๆ หม่อมจำสีหน้าและแววตานั้นได้ตลอดมา แม้ผ่านเวลานั้นมายี่สิบกว่าปี ก่อนที่ชายร่างสูงโปร่งคนนั้นจากก้าวเท้าหายไปทางบ้านพักในความมืด…
ก่อนรุ่งสางคืนนั้น มีเสียงปืนดังขึ้นเบาๆ ที่บ้านพักริมห้วยทับเสลาหลังโดดหลังนั้น
ไม่มีใครสนใจ เพราะเมื่อสามสิบปีที่แล้ว เสียงปืนในราวป่าย่อมเป็นเสียงที่คุ้นเคยที่สุดของคนทำงานในป่า
ตอนเช้าหัวหน้าไม่ได้ขึ้นมาจากบ้านพักริมห้วยเหมือนเคย ไม่มีใครสงสัยเพราะคิดว่าคงทำงานจนดึก จนกระทั่งสิบเอ็ดโมง หม่อมเดินลงไปตาม
เมื่อค่อยๆ เปิดประตูเข้าไป พบภาพอีกภาพ ที่จะติดตาอยู่จนวันตาย
หัวหน้าสืบ นอนตะแคงเหมือนคนหลับ ที่ศีรษะมีรอยลูกปืนเป็นรูแดง เลือดซึมแห้ง หม่อมใช้มือต่อยเสาบ้านซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างบ้าคลั่ง
34 ปีผ่านไปบนบันไดทั้งแปดขั้น ระหว่างบ้านพักหัวหน้าสืบกับรูปปั้น สืบ นาคะเสถียร เหมือนเจตนาของเขาจะถูกสืบสาน
ปัจจุบัน ยูเนสโก้มีมติรับรองให้ป่าทุ่งใหญ่ ห้วยขาแข้ง เป็นมรดกโลกตามเอกสารนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีเอกสารของ สืบ นาคะเสถียร เป็นใช้ประกอบการเสนอพิจารณา
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้พิทักษ์ป่าได้รับการพัฒนาและฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการทำงานในการปกป้องผืนป่า รวมถึงการยกระดับสวัสดิภาพและสวัสดิการของพวกเขา การพัฒนานี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความสามารถในการปกป้องป่า แต่ยังสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ที่ทำงานในแนวหน้า
ชุมชนที่อยู่ประชิดห้วยขาแข้งเกือบทุกชุมชนได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการรักษาความสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์ ชุมชนเหล่านี้มีความเข้าใจและความเคารพในธรรมชาติ พร้อมทั้งร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดูแลและฟื้นฟูป่าเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของทุกคน วันนี้ชุมชนที่อยู่ประชิดห้วยขาแข้งเกือบทุกชุมชนมีป่าชุมชนของหมู่บ้าน และร่วมเป็นเครือข่ายอนุรักษ์ป่าร่วมกับห้วยขาแข้ง
ประวัติ สืบ นาคะเสถียร นักอนุรักษ์และนักวิชาการด้านทรัพยากรธรรมชาติ