พ่อตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า ลูกยกเค้กมาให้หน้าโลงทั้งน้ำตา เผยคำพูดสุดท้ายยิ่งสลด
พ่อติดเชื้อ "โรคพิษสุนัขบ้า" เสียชีวิต ลูก ๆ นำเค้กมาให้พ่อหน้าโลงศพ ร้องเพลงวันเกิดทั้งน้ำตา เผยคำพูดสุดท้ายของพ่อ
วานนี้ (4 กันยายน) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งทางครอบครัวได้นำร่างมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ที่ศาลาภายในวัดวัดราษฎร์นิยมธรรม ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่วัดดังกล่าวเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ขณะที่บรรยากาศภายในวัดพบว่าบุตรสาวและบุตรชายของผู้เสียชีวิตรายนี้ พากันซื้อเค้กวันเกิดมาจุดเทียนเชิญชวนบิดา ซึ่งเป็นผู้ตาย และมีวันคล้ายวันเกิดตรงกันในวันนี้ โดยทางบุตรและธิดาต่างพร้อมใจกันถือเค้กที่หน้าโลงศพพ่อแล้วร้องเพลงวันเกิดทั้งน้ำตา พร้อมเอ่ยปากเรียกวิญญาณพ่อให้มาเป่าเค้ก บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจของทางครอบครัว
นายเอก บุตรชายคนเล็กของ นายเสน่ห์ ชายวัย 60 ปี ที่เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า ออกมาให้สัมภาษณ์เพื่อเตือนภัยสำหรับคนที่ใกล้ชิดสุนัข โดยระบุว่า คุณพ่อจะเป็นคนที่ชอบเลี้ยงสุนัขและที่บ้านมีการเลี้ยงสุนัขไว้หลายตัว ก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา คุณพ่อเคยถูกสุนัขที่เลี้ยงไว้กัด แต่ก็ไม่ได้ไปรักษาและรับวัคซีนแต่อย่างใด และไม่เคยมีอาการหรือโรคใด ๆ ในตัวพ่อ
ต่อมาช่วงต้นปีที่ผ่านมาพบว่าสุนัขที่เลี้ยงไว้เริ่มทยอยตายลงจนหมดบ้าน ด้วยอาการเดียวกันหมดคือชักเกรงและมีน้ำลายฟูมปาก ซึ่งตอนนั้นก็ไม่มีใครเอะใจอะไรและคิดว่าสุนัขที่ล้มตายนั้นมาจากการถูกวางยาเบื่อ เพราะเคยมีปัญหากับข้างบ้านเรื่องเลี้ยงสุนัข หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตตามปกติแข็งแรงดีมาตลอด
จนกระทั่งช่วงเช้ามืดของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คุณพ่อเริ่มมีอาการหนาวสั่นกินน้ำไม่ได้มีอาการกลัวน้ำ จึงตัดสินใจพาคุณพ่อไปโรงพยาบาล เพราะอาการเริ่มแย่ หายใจไม่ออก จากนั้นคุณพ่อก็อาการทรุดอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา ช่วงเกือบ 18.00 น. ของวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา โดยผลการตรวจระบุยืนยันว่าคุณพ่อเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า
ขณะที่ นางสาวนัน บุตรสาวอีกคนของผู้ตาย เล่าว่า วันที่พ่อเริ่มมีอาการ วันนั้นตนเองพักอยู่อีกที่ พอทราบเรื่องก็รีบนั่งรถแท็กซี่มาหาพ่อและพาพ่อขึ้นรถแท็กซี่ส่งโรงพยาบาล เนื่องจากตอนนั้นคุณพ่อมีอาการหนาวสั่นถูกลมไม่ได้ กระทั่งพาพ่อไปถึงโรงพยาบาลตอน 05.00 น. แต่ทางเจ้าหน้าที่ประจำห้องฉุกเฉิน แจ้งว่าต้องให้พ่อรอประตูเปิด 08.00 น. จึงพาพ่อไปเข้าคิวรอการตรวจรักษา โดยขณะนั้นไม่ได้มีการตรวจหรือรักษาเบื้องต้นแต่อย่างใด
ช่วงประมาณ 07.00 น. คุณพ่อยังมีอาการแข็งแรงพูดคุยได้ปกติ แต่จะมีอาการหวาดกลัวน้ำ หิวน้ำก็จะใช้วิธีสาดแก้วน้ำเข้าปากถึงจะกินน้ำได้ และเริ่มมีอากากรามค้าง กระทั่งได้เข้าไปรักษา ก็พาคุณพ่อไปเจาะเลือดตรวจ และเริ่มทรุดลงหายใจไม่ออก หลังจากที่คุณพ่อเข้ารับการรักษาและรอผลการตรวจ
จนกระทั่งข้ามวัน พอกลับมาเที่ยงตนเองมาถึงโรงพยาบาล ก็พบสภาพของคุณพ่อตนเองถึงกับร้องไห้ ขณะที่คุณพ่อยังพูดเป็นคำสุดท้ายบอกว่า "อยากย้ายโรงพยาบาล หากอยู่รักษาที่นี่คงตายแน่" จนอาการพ่อเริ่มแย่ลงหนักขึ้น
จนเจ้าหน้าที่มีการนำเอาเอกสารมาให้ตนเองเซ็นยินยอม ไม่ให้ทางคุณหมอปั๊มหัวใจหรือใส่ท่อช่วยหายใจกับทางคุณพ่อ ให้ใช้การรักษาในทิศทางเดียวกันประคับประคองคนไข้ โดยจะไม่ใส่ท่อช่วยหายใจ เพราะเกรงว่าเชื้อจะแพร่กระจาย
ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ไม่ทราบกระบวนการรักษา อีกทั้งยังตกใจกับอาการทรุดของคุณพ่อ จึงยอมเซ็นเอกสารยินยอมตามที่โรงพยาบาลยื่นให้เซ็น กระทั่งช่วงเย็นคุณพ่อได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ และผลการส่งตรวจเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าออกมาระบุยืนยันว่าติดเชื้อจริง
ในส่วนของทางครอบครัว ยังคาใจเรื่องกระบวนการรักษา โดยเฉพาะเรื่องให้ญาติเซ็นยินยอมไม่ให้ทางโรงพยาบาลปั๊มหัวใจหรือใส่ท่อช่วยหายใจ เพราะเกรงว่าเชื้อจะแพร่กระจาย หากเกรงว่าเชื้อจะแพร่กระจายจริง ทำไมไม่ย้ายคุณพ่อมายังห้องเดี่ยวหรือห้องแยกจากห้องรวม จึงอยากให้ทางโรงพยาบาลออกมาชี้แจ้งในเรื่องนี้
พร้อมทั้งอยากฝากเตือนภัยให้กับสังคม ถึงความร้ายแรงของโรคพิษสุนัขบ้าที่เกิดขึ้นกับทางครอบครัวของตนเอง อย่ามองข้ามหรือมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว เพราะหากติดเชื้อแล้วจะมีอาการทรุดไวมาก อีกทั้งหากใครยังไม่เคยรับวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า ควรไปรับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียกับทางครอบครัว
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ