ไม่จบ! เปิดจดหมาย "อนุทิน" โชว์ไฟลต์บินฟาด "ผู้ว่าฯ เชียงราย" ชี้ปลัด มท. ด่วนสรุป!
สืบเนื่องจากที่ นายอนุทิน ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ สาเหตุไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เชียงราย ในช่วงเกิดภัยพิบัติน้ำท่วม และเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่นายภูมิธรรม เวชชัยรองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี พร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์อุทกภัย เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 67
ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 67 นายอนุทิน จึงได้ออกหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ถึงข้อสังเกตต่อการชี้แจงของผู้ว่าฯเชียงราย ตามหนังสือ ลับ ที่ มท 0100/324 เรื่องรายงานผลการดำเนินการ ระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาจากรายงานผลการดำเนินการของปลัดกระทรวงมหาดไทยและรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แล้วเห็นว่า
1. กรณีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายชี้แจงเหตุผลที่ไม่เดินทางกลับพื้นที่ในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 โดยอ้างว่ามีเที่ยวบินเที่ยวสุดท้ายออกจากกรุงเทพมหานครในเวลา 19.40 น. และเกรงว่าภารกิจจะยังไม่เสร็จสิ้นแต่ได้เดินทางกลับในวันที่ 24 สิงหาคม 2567 เที่ยวบินเวลา 11.20 น. และเดินทางถึงจังหวัด เชียงรายในเวลา 13.11 น. นั้น เป็นข้ออ้างที่ไม่อาจรับฟังได้ เนื่องจากในข้อเท็จริงยังมีเที่ยวบินที่ออกเดินทาง ไปจังหวัดเชียงรายในช่วงเวลาเช้าของวันที่ 24 สิงหาคม 2567 อีกหลายเที่ยวบิน
ได้แก่ สายการบินไทยเวียตเจ๊ทแอร์ ออกเดินทางเวลา 6.30 น. สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ออกเดินทางเวลา 06.50 น. น. สายการบินแอร์เอเชียออกเดินทางในเวลา07.05 น. และสายการบินไทย ออกเดินทางในเวลา 08.20 น. ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายสามารถเดินทางเข้าพื้นที่เพื่อปฏิบัติภารกิจร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ ทั้งนี้ จึงเห็นได้ว่า หากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายมีความตั้งใจ อุตสาหะ เอาใจใส่ และอุทิศเวลาของตนให้แก่ราชการแล้วจะไม่เกิดกรณีนี้ขึ้นกรณีดังกล่าวจึงไม่ใช่เหตุผลที่จะนำมากล่าวอ้างได้
2. กรณีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายอ้างว่า ได้มีการนำเรียนด้วยวาจาให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยทราบในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 ถึงเหตุผลที่ไม่เดินทางกลับพื้นที่ โดยมีการมอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย และร่วมคณะตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยแทนโดยไม่มีหลักฐานใดๆ ประกอบนั้น เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายสามารถนำเรียนต่อปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ ก็ย่อม ที่จะรายงานโดยตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ ทั้งทางโทรศัพท์และทางไลน์แอปพลิเคชัน ดังที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้เคยปฏิบัติในการติดต่อรายงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยตรงเป็นประจำมาโดยตลอดอีกทั้งยั้งสามารถขออนุญาตเดินทางร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะได้การกล่าวอ้างนี้จึงเป็นเหตุผลที่ไม่อาจรับฟังได้
3. กรณีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้มีการนำเรียนด้วยวาจาให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยทราบถึงเหตุผลที่ไม่เดินทางกลับพื้นที่ในช่วงเช้าวันที่ 23 สิงหาคม 2567 และปลัดกระทรวงมหาดไทยยังอนุมัติตามที่แจ้งด้วยวาจาทั้งที่เหตุผลที่อ้างนั้นไม่สามารถรับฟังได้ ปลัดกระทรวงมหาดไทยควรที่จะสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เร่งเดินทางและกำชับให้ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้จงได้
อีกทั้งเมื่อได้ทราบการรายงานเหตุผลที่ไม่เดินทางกลับพื้นที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายแล้ว ปลัดกระทรวงมหาดไทยก็ไม่ได้รายงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยทราบเพื่อให้พิจารณาหรือสั่งการแต่อย่างใด
4. กรณีนี้เป็นกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายชี้แจงเหตุไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ให้ทราบภายใน 3 วัน มิได้เป็นการกล่าวหาว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กระทำผิดวินัยตามมาตรา 90 จึงไม่เป็นเหตุให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยพิจารณาสังยุติเรื่องโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 57(2) ประกอบมาตรา 91 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราราชการพลเรือนพ.ศ. 2551 แต่อย่างใด
อีกทั้งปลัดกระทรวงมหาดไทยยังได้เร่งสรุปความเห็นควรยุติเรื่องดังกล่าว โดยยังมิได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและยังไม่ปรากฎพยานหลักฐานอันจะเชื่อได้ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้ปฏิบัติหน้าที่ราชการเป็นไปตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ ด้วยความมุ่งมั่น อุตสาหะ เอาใจใส่ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนตามควรแก่กรณี
5. การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายรายงานโดยใช้เหตุผลว่า การเดินทางกลับมายังพื้นที่ในช่วงเช้าของวันที่ 24 สิงหาคม 2567 เป็นระยะยะเวลากระชั้นชิดไม่ทันในการต้อนรับนั้น แสดงให้เห็นว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ของรองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งบทบาทหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธาธารณภัยจังหวัดที่จะต้องประจำอยู่ในพื้นที่เพื่อบัญชาการเหตุการณ์และแก้ไขปัญหาในเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย
มิใช่เป็นการต้อนรับในลักษณะการตรวจเยี่ยมราชการโดยทั่วไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บังคับบัญชาข้าราชการและรับผิดชอบการปฏิบัติ ราชการของกระทรวงมหาดไทย ตามนัยมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินพ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยนำข้อสังเกตดังกล่าวไปแก้ไขและดำเนินการเพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก