DSI แถลงเพชรอยู่ครบ เจ้าของนับผิดเอง

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมด้วย นายฐติพล ไพศาลมั่นคง เจ้าของร้านเพชรสยามเซ็นเตอร์ จิวเวลรี่ ย่านราชประสงค์ ร่วมแถลงยืนยัน กรณีเพชรของกลางที่ยึดคืนได้ภายในวัดปทุมวนารามฯ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการออกมาระบุว่าสูญหาย จากการตรวจนับโดยมี พ.อ.เฟื่องวิทย์ อนิรุธเทวา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน พบว่ามีความคาดเคลื่อนจากการตรวจสอบนับซับซ้อน เพชรของกลางทั้งหมดอยู่ครบถ้วน และได้ส่งมอบคืนให้กับเจ้าของร้านเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าของร้านเพชรยังได้นำเพชรของกลาง ทั้งต่างหู แหวน และสร้อยคอ มาแสดงยืนยันต่อสื่อมวลชน พร้อมยืนยันว่ามีมูลค่ากว่าแสนบาทเท่านั้น ไม่ใช่ 5,000,000 บาท อย่างที่มีการเสนอข่าวก่อนหน้านี้

ส่วนกรณีชี้แจงธุรกรรมทางการเงินต้องสงสัย 83 รายชื่อ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่าจะรวบรวมพร้อมแยกประเภทสี ทั้ง 3 กลุ่ม ทั้งสีขาว สีเทา และ สีดำ ส่งให้ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ภายในวันที่ 9 ส.ค. นี้ ซึ่งจะมีการส่งให้ครบถ้วนทั้งหมดในคราวเดียว

ด้านนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยาของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสืบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มอบอำนาจให้ นายธนากร แหวกวารี ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา จากกรณีที่นายจตุพรกล่าวหา นางวรรษมลว่า ในขณะที่รับราชการที่กรมสรรพากรได้เรียกรับเงินคืนคดีภาษีอากรย้อนหลัง จากนักธุรกิจเป็นเงินจำนวน 150,000 บาท ซึ่งคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าว ของนายจตุพร ได้ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์มติชน และหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ โดยนายธนากร กล่าวยอมรับว่ามีการโอนเงินกันจริง แต่เงินจำนวนดังกล่าว เป็นค่าบริการอย่างหนึ่ง และไม่ขอเปิดเผยในตอนนี้ ซึ่งในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ได้มีการเตรียมพยานไว้จำนวน 2-3 ปาก และจะมีนางวรรษมล ขึ้นเป็นพยานเบิกความปากแรกด้วย พร้อมกันนี้ นายธนากรกล่าวยืนยันว่า ไม่หนักใจที่นายจตุพร จะฟ้องกลับ พร้อมต่อสู้กันด้วยพยานหลักฐาน