อ่านไม่ผิด! หมอพบก้อนนิ่ว 3,000 ก้อน ในร่างกายหญิงอายุ 45 ปี พฤติกรรมการกินเป็นเหตุ

อ่านไม่ผิด! หมอพบก้อนนิ่ว 3,000 ก้อน ในร่างกายหญิงอายุ 45 ปี พฤติกรรมการกินเป็นเหตุ

อ่านไม่ผิด! หมอพบก้อนนิ่ว 3,000 ก้อน ในร่างกายหญิงอายุ 45 ปี พฤติกรรมการกินเป็นเหตุ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นพ.หลี่จินเต๋อ รองผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมตับและทางเดินน้ำดีและตับอ่อน โรงพยาบาล Kaohsiung Botian International Hospital ของไต้หวัน เผยเรื่องราวสุดช็อก เคสผู้ป่วยหญิงวัย 45 ปี อาชีพวิศวกร ที่มารักษาตัวด้วยอาการเกี่ยวกับทางเดินอาหาร โดยผู้ป่วยมีพฤติกรรมการกินอาหารไม่ดีเป็นเวลานาน จนเกิดอาการป่วย มีอาการคลื่นไส้และท้องอืดตลอดทั้งวัน และแม้จะเข้ารับการรักษาทางการแพทย์และรับประทานยาแล้ว ก็ยังไม่ดีขึ้น จนล่าสุด เธอปวดท้องอย่างรุนแรง หลังจากรับประทานอาหาร หลังจากทำการตรวจอัลตราซาวด์ พบว่าสาเหตุมาจาก นิ่วในถุงน้ำดี หลังผ่าออกมาพบว่า เธอมีก้อนนิ่ว มากกว่า 3,000 ก้อน อยู่ในร่างกาย

นพ.หลี่จินเต๋อ กล่าวว่าผู้ป่วยหญิงรายนี้มีน้ำหนักตัวค่อนข้างมาก และรายงานว่าเธอมีอาการปวดท้องทุกครั้งที่รับประทานอาหาร มีอาการแบบนี้มานานร่วม 3 เดือน ทำให้เธอกินอาหารได้น้อยลง ช่วงแรกเธอไป พบแพทย์โรคทางเดินอาหารหลายคน อาการของเธอยังไม่ดีขึ้นเลย สุดท้ายต้องทำการตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้อง จนพบนิ่วในถุงน้ำดี

"นิ่วในถุงน้ำดีสามารถหลุดออกจากถุงน้ำดีได้ง่าย เมื่อเข้าไปในท่อน้ำดีแล้ว ไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดดีซ่านอุดตันเท่านั้น แต่ในรายที่รุนแรง อาจทำให้ถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน หรืออาจถึงขั้นดีซ่านและนิ่วในท่อน้ำดีร่วมด้วย ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก" ศาสตราจารย์หลี่จินเต๋อกล่าว

จากการประเมิน ผู้ป่วยหญิงคนนี้ต้องทำผ่าตัดถุงน้ำดีฉุกเฉิน และพบว่าในถุงน้ำดีของเธอเต็มไปด้วยก้อนนิ่ว มีน้ำหนักรวม 33.6 กรัม และมีปริมาณกว่า 3,000 ก้อน

หมอหล่ยังบอกอีกว่า ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีมากกว่า โดยสาเหตุหลักคาดว่าอาจเกิดจากฮอร์โมนเพศหญิง ความแตกต่างทางพันธุกรรมในโครงสร้างร่างกาย รวมทั้งปัจจัยที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการกิน เช่น อาหารทอด คอเลสเตอรอลสูง ดื่มน้ำไม่เพียงพอ และเป็นเวลานาน การอดอาหารและไม่ทานอาหารเช้าอาจกระตุ้นให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้ หากเกิดนิ่วในถุงน้ำดีและถุงน้ำดีถูกผ่าตัดออกแล้ว แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ มีไฟเบอร์สูง รับประทานอาหารมื้อเล็กบ่อยๆ น้ำตาลต่ำ และหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำให้มากขึ้นด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook