กก.สมัชชาปฏิรูปตั้ง กก.14 ชุด ระดมความเห็น
คณะกรรมการปรองดอง ชุด "นพ.ประเวศ" ตั้งคณะกรรมการ 14 ชุด ระดมความเห็นผลักดันปฏิรูปเพื่อสันติวิธี ตั้งเป้า 3 ปี สร้างวัฒนธรรมใหม่ผ่านวิกฤติประเทศได้ ยืนยันไม่กดดันรัฐบาลให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เชื่อถึงเวลาเลิกเอง
ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป แถลงผลการประชุมครั้งที่ 2 ว่า มีการตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนงานสมัชชาปฏิรูป เพื่อระดมความเห็นผลักดันนโยบายปฏิรูปด้วยสันติวิธี ได้แก่ คณะกรรมการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อการปฏิรูป คณะกรรมการเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนและสภาผู้นำชุมชนเพื่อการปฏิรูป คณะกรรมการเครือข่ายประชาชนเพื่อการปฏิรูป คณะกรรมการเครือข่ายผู้ใช้แรงงานและคนจนเมืองเพื่อการปฏิรูป คณะกรรมการเครือข่ายพลังเยาวชนเพื่อการปฏิรูป คณะกรรมการเครือข่ายผู้พิการเพื่อการปฏิรูป
คณะกรรมการผู้ด้อยโอกาสเพื่อการปฏิรูป คณะกรรมการเครือข่ายภาคธุรกิจกับการปฏิรูป คณะกรรมการเครือข่ายอุดมศึกษาเพื่อการปฏิรูป คณะกรรมการเครือข่ายศิลปินเพื่อการปฏิรูป คณะกรรมการเครือข่ายอุดมศึกษาเพื่อการปฏิรูป คณะกรรมการเครือข่ายศิลปินเพื่อการปฏิรูป คณะกรรมการการจัดสรรทรัพยากรเพื่อความเป็นธรรม คณะกรรมการความยุติธรรมกับการปฏิรูป และคณะกรรมการสื่อสารเพื่อการปฏิรูป
คณะกรรมการทั้ง 14 ชุด จะไประดมความคิดเห็นขององค์การเครือข่ายถึงมาตรการสร้างความเป็นธรรมและ เหลื่อมล้ำทางสังคมในแต่ละด้าน เพื่อนำข้อสรุปเสนอต่อคณะกรรมการปฏิรูป ที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน นำไปสังเคราะห์เป็นนโยบาย โดยคาดหวังว่าในระยะเวลา 3 ปี การทำงานของคณะกรรมการทั้ง 2 คณะ จะสามารถสร้างวัฒนธรรมใหม่ที่ฝ่าวิกฤติแห่งความซับซ้อนไปเป็นสังคม ประชาธิปไตยที่มีคุณภาพได้ โดยความคืบหน้าจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 11 ส.ค.นี้
นอกจากนี้ นพ.ประเวศ กล่าวว่า การยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน คณะกรรมการชุดตนไม่มีการเสนอให้ยกเลิกเหมือนกับคณะอื่น ๆ เพราะเชื่อว่าในที่สุดต้องยกเลิก เพราะหากสถานการณ์ปกติ รัฐบาลก็ต้องพิจารณา
"พ.ร.ก.อยู่นานไม่ได้ เราไม่คิดว่าต้องเรียกร้องตรงนี้ ถ้าเข้าไปก็จะต้องมีคนเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย จะเกิดเป็นความขัดแย้ง ดังนั้น อยากให้คณะกรรมการชุดนี้เดินหน้าไปในทิศทางบวกมากกว่า อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า มีหลายกลุ่ม รวมทั้งเสื้อแดง เรียกร้องให้ยกเลิก เพราะเป็นอุปสรรคต่อการมีส่วนร่วม แต่เชื่อว่าในที่สุดรัฐบาลต้องประกาศยกเลิก เพราะหากสถานการณ์ปกติก็ต้องยกเลิกเองไปตามเวลา ยืนยันการทำงานของคณะกรรมการฯ ไม่ซ้ำซ้อนกับการทำงานของรัฐบาล" นพ.ประวเศ กล่าว
ด้านนายสมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ ประธานคณะทำงานเครือข่ายเพื่อการปฏิรูป กล่าวว่า คณะกรรมการสมัชชาหลายชุดตื่นตัว ส่วนใหญ่มีการรวมตัวกันแล้ว ด้านท้องถิ่นก็มีความพร้อมสูง นอกจากนี้ มีการหารือเรื่องความยุติธรรมและการจัดสรรทรัพยากร โดยจะดูเรื่องการจัดการทรัพยากร ที่ดิน ธรรมชาติ ภาษี การใช้จ่ายการคลังภาครัฐ และคลื่นความถี่เพื่อความชัดเจน ลดความเหลื่อมล้ำ ที่สำคัญที่สุด คือ การสร้างความเคลื่อนไหวให้ทุกคนมีส่วนร่วมผ่านคณะกรรมการทั้ง 14 ชุด จะเกิดความเข้มแข็ง เพื่อให้คนไทยเกิดพลัง มีส่วนในการสร้างเมืองไทยให้เข้มแข็ง
ขณะที่นางวิลาสินี อดุลยานนท์ คณะทำงานเครือข่ายสื่อสังคม กล่าวว่า ที่ประชุมเสนอวางแผนเรื่องการสื่อสาร เห็นว่าสื่อมีส่วนช่วย มีบทบาทขับเคลื่อนเรื่องการเปลี่ยนแปลงประเทศ มีกลไก 14 ชุด งานด้านสื่อมีการทำงาน 2 ชุด คือ สื่อเพื่อการปฏิรูป มีองค์การสื่อทุกประเภทเข้ามาเป็นคณะกรรมการ บทบาทสำคัญ ทำงานร่วมกัน เสนอร่วมกันปฏิรูปประเทศไทย โดยให้สื่อเป็นแกนกลาง ส่วนที่ 2 คือ การเผยแพร่การทำงานของคณะกรรมการ ทั้งผลการหารือและการขับเคลื่อนตามพื้นที่ต่าง ๆ และข้อเสนอแนะ น่าจะทำให้เกิดการสื่อสารและนำไปสู่การปฏิรูปได้ นอกจากนี้ สื่อสังคมออนไลน์น่าจะมีส่วนเข้ามาช่วย ตลอดจนการเกาะติดประเด็นปฏิรูป จะมีศูนย์ข้อมูลข่าวสารเพื่อการปฏิรูปจากสถาบันอิศรา.