ธาริต ขอไม่ตอบโต้ พท.ให้ภรรยาพิสูจน์ผ่านกระบวนการยุติธรรม
"ธาริต" ไม่ขอตอบโต้พรรคเพื่อไทย ให้ภรรยาพิสูจน์ความจริงจากที่ถูกกล่าวหาผ่านกระบวนการยุติธรรม เผยทำความเข้าใจกับครอบครัวแล้วเป็นเคราะห์กรรมช่วงนี้จากผลกระทบในการส่งฟ้องคดีก่อการร้ายและเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยออกมากล่าวหาโจมตีนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยาของตนเองว่า ไม่ขอตอบโต้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย และพรรคเพื่อไทย เพราะตนและครอบครัวเป็นเพียงครอบครัวเล็กๆ ภรรยาของตนก็เป็นคนทำงานคนหนึ่ง ขณะที่พรรคเพื่อไทยมาเป็นกองทัพ มีพรรคการเมือง ส.ส. และสื่อมวลชน เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยคงไม่หยุดเท่านี้ แต่จะมีการปล่อยข่าวทำลายตนออกมาอีก ซึ่งตนได้ทำความเข้าใจกับครอบครัวแล้วว่า ถือเป็นช่วงของเคราะห์กรรมที่จะมีเข้ามากับครอบครัว เนื่องจากตนเป็นอธิบดีดีเอสไอ และต้องรับผิดชอบทำคดีก่อการร้ายและเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย หากใครมาเป็นอธิบดีดีเอสไอตอนนี้ก็ต้องทำเช่นนี้
นายธาริต กล่าวอีกว่า เท่าที่ได้สอบถามภรรยาเขายืนยันว่าสามารถอธิบายถึงที่มาของเงินที่โอนเข้า บัญชีธนาคารได้ แต่รายละเอียดจะขอนำไปต่อสู้ในชั้นศาล จะใช้สิทธิต่อสู้ทั้งทางแพ่งและอาญา ตอนนี้หลายเรื่องถาโถมเข้าเป็นจำนวนมาก เพราะดีเอสไอส่งฟ้องคดีก่อการร้ายต่ออัยการ ซึ่งในทันทีที่อัยการมีคำสั่งฟ้องจะส่งผลต่อการดำเนินการขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ตนกับภรรยาเป็นคนละคนกัน และอยากตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นนานกว่า 3 ปี แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีการออกมาเรียกร้องหรือฟ้องร้อง หากมีการเรียกรับเงินใต้โต๊ะจริง เหตุใดจึงต้องโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง อย่างไรก็ตาม ภรรยาของตนจะต่อสู้ตามแนวทางของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งผู้ใหญ่ที่ตนนับถือหลายคนได้ให้คำแนะนำไม่ให้ตนและครอบครัวตอบโต้ใดๆ แต่ให้ใช้กระบวนการยุติธรรมในการพิสูจน์ความจริง
สำหรับนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ก่อนหน้านี้รับราชการในสังกัดกรมสรรพสามิตอยู่ต่างจังหวัด เมื่อนายธาริตโอนย้ายจากพนักงานอัยการมาสังกัดกระทรวงยุติธรรมในตำแหน่งรอง อธิบดีดีเอสไอ สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นางวรรษมล ได้ย้ายมารับราชการในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ก่อนจะโอนย้ายมาเป็นเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ ระดับ 7 ในดีเอสไอ ขณะที่นายธาริตดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และเมื่อนายธาริตโยกมาเป็นอธิบดีดีเอสไอ นางวรรษมลจึงทำเรื่องโอนตัวไปช่วยราชการที่สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อลดข้อครหาในการทำงานที่เดียวกัน